การผลิตแผ่นไม้อัดปลอดสารพิษจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม

Non-toxic Fiberboard Manufacturing from Wastes in Agricultute and Industry

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2559
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2558
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2559
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2558
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การผลิตแผ่นใยไม้อัดปลอดสารพิษจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม ชาตรี หอมเขียว1 วรพงค์ บุญช่วยแทน1 และวรรธนพร ชีววุฒิพงศ์1 บทคัดย่อ โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของปริมาณเส้นใยผลตาลโตนด ขี้เลื่อยไม้ยางพารา และแป้งมันสำปะหลังต่อสมบัติทางกลและทางกายภาพของแผ่นใยไม้อัด และเพื่อหาอัตราส่วนผสมที่เหมาะสมในการผลิตแผ่นใยไม้อัดจากเส้นใยผลตาลโตนด โดยแบ่งวิธีการในกระบวนการได้ 4 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทดลอง ขั้นตอนที่ 2 ทำการอัดขึ้นรูปเป็นแผ่นชิ้นงานตัวอย่าง โดยในการอัดใช้อุณหภูมิ 190 °C แรงดันอัด 2000 psi เป็นระยะเวลา 30 นาที ขั้นตอนที่ 3 ทำการทดสอบสมบัติทางกลและทางกายภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (Japanese Industrial Standard; JIS A 5905) ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ผลทางสถิติด้วยโปรแกรมทางสถิติ Design-Expert software (Version 8.0.6, Stat-Ease, Inc.) จากการทดลองสามารถสรุปผลวิจัยได้ดังนี้ การวิเคราะห์ความแปรปรวนพบว่า ขี้เลื่อยไม้ยางพารา เส้นใยผลตาลโตนด และแป้งมันสำปะหลังมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสมบัติความแข็งแรงดัด มอดูลัสการดัด ความแข็งแรงดึงตั้งฉากกับผิวหน้า การดูดซับน้ำ และการพองตัว เช่นเดียวกันพบด้วยว่าการเพิ่มขึ้นของขี้เลื่อยไม้ยางพารา เส้นใยผลตาลโตนด และแป้งมันสำปะหลังมีผลต่อการเพิ่มขึ้นของสมบัติความแข็งแรงดัด มอดูลัสการดัด ความแข็งแรงดึงตั้งฉากกับผิวหน้า การดูดซับน้ำ และการพองตัวของแผ่นใยไม้อัด นอกจากนี้พบว่าสูตรที่เหมาะสมที่สุดต่อสมบัติทางกลและทางกายภาพของแผ่นใยไม้อัดคือ เส้นใยผลตาลโตนด 9.1% ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 74.5% และแป้งมันสำปะหลัง 16.4% โดยมีค่าความพึงพอใจ 0.761 ที่มีค่าความแข็งแรงดัดเท่ากับ 8.3 MPa ค่ามอดูลัสการดัดเท่ากับ 1325 MPa ค่าความแข็งแรงดึงฉากกับผิวหน้าเท่ากับ 0.9 MPa เปอร์เซ็นต์การดูดซับน้ำเท่ากับ 93% และเปอร์เซ็นต์การพองตัวเมื่อแช่น้ำเท่ากับ 22.7%
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ชาตรี หอมเขียวคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ60
2ผศ.ดร. วรรธนพร ชีววุฒิพงศ์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20
3รศ. วรพงค์ บุญช่วยแทนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20