โครงการวิจัย
การผลิตลุูกหอยตะโกรมกรามขาว (Crassostrea belcheri) แบบทริพลอยด์จากโรงเพาะฟัก
Triploid Tropical Oyster (Crassostrea belcheri) Production from ahatchery
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2559 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการต่อเนื่อง |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2558 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2559 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2558 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การผลิตลูกหอยตะโกรมกรามขาว (Crassostrea belcheri) แบบทริพลอยด์จากโรงเพาะฟัก สุวัจน์ ธัญรส1 อลงกลด แทนออมทอง2 วรพร ธารางกูร1 และสุพัชชา ชูเสียงแจ้ว3 บทคัดย่อ การผลิตลูกหอยตะโกรมกรามขาวแบบทริพลอยด์จากโรงเพาะฟัก ด้วยสาร 6-ไดเมทิลอะมิโน พิวรีน แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้ (1) ลักษณะคาริโอไทป์ของพ่อแม่พันธุ์หอยตะโกรมกรามขาว เตรียมโครโมโซมด้วยวิธีทางตรงจากเนื้อเยื่อเหงือก ย้อมสีโครโมโซมแบบธรรมดาและแถบสีแบบนอร์ ผลการศึกษาพบว่าจำนวนดิพลอยด์โครโมโซมเท่ากับ 20 แท่ง และมีจำนวนแขนโครโมโซมพื้นฐานเท่ากับ 40 ประกอบด้วยโครโมโซมชนิดเมทาเซนทริกทั้งหมด แบ่งเป็นโครโมโซมขนาดใหญ่ 10 แท่ง และขนาดกลาง 10 แท่ง โครโมโซมเครื่องหมาย คือโครโมโซมที่มีตำแหน่งนอร์ซึ่งอยู่บริเวณปลายแขนข้างสั้นของโครโมโซมคู่ที่ 10 (2) ศึกษาปัจจัยการเหนี่ยวนำทริพลอยด์ด้วย 3 ปัจจัย คือ ความเข้มข้นของ 6-DMAP (100, 200 และ 300 µM) ระยะเวลาหลังการผสม (30, 40 และ 50 นาที) และระยะเวลาการเหนี่ยวนำ (5 และ 10 นาที) เตรียมโครโมโซมด้วยวิธีทางตรงจากตัวอ่อนระยะโทรโคฟอร์ ผลการตรวจสอบพบว่า ค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์ทริพลอยด์อยู่ระหว่าง 43.85±12.28 ถึง 86.99±2.45 ที่ระดับความเข้มข้น 100 µM 6-ไดเมทิลอะมิโนพิวรีนที่ 30 นาทีหลังการผสมและระยะเวลาในการเหนี่ยวนำ 10 นาที ให้ผลเปอร์เซนต์ทริพลอยด์สูงกว่าระดับอื่นอย่างมีนัยสำคัญ (p< 0.05) อัตรารอดสูงสุดพบในกลุ่มชุดควบคุม (54.00±7.45%) ขณะที่อัตรารอดหน่วยการทดลองอื่นอยู่ในช่วง 34.13±5.11 ถึง 54.00±2.74% ค่าเฉลี่ยผลผลิตทริพลอยด์อยู่ในช่วง 21.12±6.80 ถึง 43.68±2.44% จากผลการทดลองพบว่าที่ระดับความเข้มข้น 100 µM 50 นาทีหลังการผสมและระยะเวลาการเหนี่ยวนำ 5 นาที มีค่าผลผลิตทริพลอยด์สูงสุด (p<0.05) จากการตรวจสอบโครโมโซมพบว่าทริพลอยด์โครโมโซมเท่ากับ 30 ประกอบด้วยโครโมโซมชนิดเมทาเซนทริกทั้งหมด นอกจากนี้การเหนี่ยวนำทริพลอยด์ด้วย 6-ไดเมทิลอะมิโนพิวรีนยังตรวจพบชุดโครโมโซมที่เป็นสี่ชุด (เตตราพลอยด์) และห้าชุด (เพนตะพลอยด์) ซึ่งมีจำนวนโครโมโซมเท่ากับ 40 และ 50 แท่ง ตามลำดับ และ (3) ศึกษาพัฒนาการในระยะต่างๆของลูกหอยตะโกรมกรามขาวจากการเหนี่ยวนำทริพลอยด์โดยเลือกชุดการทดลองที่ให้ผลผลิตทริพลอยด์สูงสุดจากการศึกษาข้างต้นมาทำการศึกษา พบว่า ลูกหอยในระยะวัยอ่อนจนถึงระยะลงเกาะจากชุดควบคุมมีอัตรารอดที่ดีกว่าชุดการเหนี่ยวนำ (p<0.05) ขณะที่การเจริญเติบโตทั้งด้านความยาวและความกว้างของลูกหอยทั้ง 2 ชุดการทดลอง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) จากผลการศึกษาในครั้งนี้สามารถนำมาพัฒนาต่อเพื่อให้ได้ลูกพันธุ์ที่มีการเจริญเติบโตเร็วและคุณภาพผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงหอยนางรมในเชิงพาณิชย์ต่อไป |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | รศ.ดร. สุวัจน์ ธัญรส | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | ผศ.ดร. วรพร ธารางกูร | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |