โครงการวิจัย
การต้านการยับ การยับยั้งจุลินทรีย์และต้านรังสียูวีของผ้าฝ้ายที่ย้อมจากวัสดุเศษเหลือของพืชตามภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้
Durable press finishing, antimicrobial activity and UV blocking of cotton fabrics dyed with southern Thailand plant by product and its own local wisdom
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2559 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2558 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2559 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2558 |
ประเภททุนวิจัย | ทุน สกอ. |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้เพื่อพัฒนาการคุณภาพการย้อมผ้าฝ้ายตามภูมิปัญญา ท้องถิ่นในการใช้พืชคือ แก่นไม้ฝาง แก่นไม้ขนุน ขมิ้นชัน เปลือกสะตอ เปลือกลูกเนียงและเปลือก มังคุด ในพื้นที่ภาคใต้ ทำการทดสอบความคงทนของสีต่อการซัก น้ำ เหงื่อ แสง การขัดถูและการกด ทับด้วยความร้อนตามมาตรฐาน (AATCC) และได้ทำการศึกษาการต้านรังสียูวีของผ้าไหมด้วยการ คำนวณค่าการต้านรังสียูวี (Ultraviolet protection factor, UPF) องค์ประกอบทางเคมีที่มีอยู่ในสี ย้อมธรรมชาติได้วิเคราะห์คุณลักษณะด้วยเทคนิคอินฟราเรด (FT-IR Spectroscopy) การทดสอบ การยับยั้งแบคทีเรียได้ทำการทดลองกับเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus และ Escherichia coli ตามมาตรฐาน (AATCC) ศึกษาผลการใช้พอลิไวนิลแอลกอฮอล์ (PVA) เรซิน ไคโทซาน ไกลออก ซอลและกรดมาลิกในการต้านการยับของผ้าฝ้าย ผลการทดลองที่ใช้แก่นไม้ฝาง แก่นไม้ขนุนและ ขมิ้นชันย้อมด้วยผ้าฝ้ายจะมีความสามารถทนต่อการตกของสีได้ค่อนข้างน้อยถึงปานกลางยกเว้นย้อม ด้วยพืชดังกล่าวกับสารกระตุ้นเหล็กคลอไรด์ สำหรับผ้าฝ้ายที่ใช้พืชเศษเหลือย้อมโดยใช้สารกระตุ้นที่ เป็นเหล้กคลอไรด์นั้นสามารถยับยั้งแบคทีเรีย E. coli และ S. aureus ได้ การต้านรังสียูวีของผ้าฝ้าย นั้นได้ผลในระดับดีมาก สำหรับการต้านการยับในการซักนั้นไม่ค่อยดีเท่าทีควร ผ้าฝ้ายที่มีการย้อมด้วยเหล็กคลอไรด์ผสมกับสีย้อมจากพืชเศษเหลือที่หลากหลายในพื้นที่ ภาคใต้มีผลการต้านรังสียูวีได้ดีเมื่อเทียบกับไม่มีการย้อม เนื่องจากสารที่สกัดได้นั้นมีส่วนประกอบทาง เคมีคือพอลิฟินอลิก (Polyphenolic) สีเบตาเลน (Betalain dye) กรดกอลลิก (Gallic acid) แทน นิน (Tannin) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) แซนโทน (Xanthone) และคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ดังนั้นพืชให้สีในพื้นที่ภาคใต้มีความน่าสนใจที่จะใช้ในการผลิตสีย้อมผ้า คำสำคัญ: สีย้อมธรรมชาติ การต้านการยับ การยับยั้งแบคทีเรีย ความคงทนของสี ผ้าฝ้าย การต้าน รังสียูวี |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ดร. มาหามะสูไฮมี มะแซ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 80 |
2 | ผศ. พิชญา พิศสุวรรณ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |