การออกแบบและสร้างเตาชุบผิวแข็งแบบแพ็คคาร์บูไรซิ่ง

Design And Construction Surface Hardness By Pack Carburizing Heat Treatment Furnace

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2560
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2559
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2559
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การศึกษาการชุบผิวแข็งเหล็กกล้าคาร์บอนต ่า St.37 ด้วยวิธีแพ็คคาร์บูไรซิ งโดยใช้วัสดุที มีอยู่ในท้องถิ น ซึ งเป็นวัสดุทางเลือกที ให้ปริมาณคาร์บอนและทดแทนการใช้ถ่านโค้ก คือ ถ่านไม้โกงกาง ในกระบวนการชุบแข็งที ผิว โดยใช้ แคลเซียมคาร์บอเนต โซเดียมคาร์บอเนต และแบเรียมคาร์บอเนต เป็นสารตัวเร่งปฏิกิริยา ศึกษาอัตราส่วน ของถ่านไม้โกงกางต่อสารตัวเร่งปฏิกิริยา คือ 91 : 9 ทดลองชุบผิวแข็งโดยการน่าชิ้นงานทดสอบบรรจุใส่ในภาชนะ ทนความร้อนและเติมสารแพ็คคาร์บูไรซิ งที ผสมในแต่ละอัตราส่วนลงไปจนเต็มแล้วอัดให้แน่น ปิดฝา แล้วใช้ลวดมัด ให้แน่น น่าเข้าไปอบในเตาเผาที อุณหภูมิ950 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4 ชั วโมง และเหล็กออกจากหีบแล้วน่าไปแช่ ในอ่างน้่าเพื อให้เย็นตัวอย่างรวดเร็วแล้วศึกษาผลของชนิดและปริมาณถ่านไม้โกงกางและสารตัวเร่งชนิดต่าง ๆ ต่อความแข็งของชิ้นงาน โดยการวัดความแข็งที ผิวหน้าชิ้นทดสอบและตรวจสอบระยะชั้นแข็งลึกด้วยเครื องทดสอบ ความแข็งแบบไมโครวิกเกอร์ซึ งพบว่า ผงถ่านไม้โกงกางผสมกับแบเรียมคาร์บอเนตเพียงอย่างเดียว ให้ค่าความแข็ง มากที สุด คือ 837 ความแข็งวิกเกอร์เมื อทดสอบหาค่าปริมาณองค์ประกอบทางเคมีด้วยเครื องวิเคราะห์ส่วนประกอบ ทางเคมีพบปริมาณคาร์บอนที ผิวสูงถึง 1.0 เปอร์เซ็นต์ ผลการวัดความแข็งที ระยะความแข็งลึกของชิ้นงานทดสอบ จะค่อย ๆ ลดลง เนื องจากปริมาณคาร์บอนที เปลี ยนแปลงไป ค่าส่าคัญ : แพ็คคาร์บูไรซิ ง สารเพิ มคาร์บอน สารตัวเร่งปฏิกิริยา
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. ปิยวิทย์ สุวรรณคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ60
2บรรเลง คำเกตุคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20
3จตุพร ใจดำรงค์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20