แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวฮาลาลสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมเพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวฮาลาลอย่างยั่งยืนจังหวัดสงขลา

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2560
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2559
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2559
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การท่องเที่ยวฮาลาล (Halal Tourism) เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการการท่องเที่ยวให้ตอบสนองความต้องการของชาวมุสลิม เริ่มจากการให้บริการจากสถานที่ต้นทางไปจนถึงจุดหมายปลายทาง รวมทั้งการให้ความบันเทิงต่างๆ ที่ไม่ขัดกับหลักการศาสนาอิสลาม การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวมุสลิมในจังหวัดสงขลา 2) เพื่อศึกษาความต้องการการท่องเที่ยวฮาลาลของนักท่องเที่ยวมุสลิมจังหวัดสงขลา 3) เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวฮาลาลสำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิมเพื่อนำไปสู่การท่องเที่ยวฮาลาลอย่างยั่งยืน จังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักท่องเที่ยวมุสลิมไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา จำนวน 446 คน โดยใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In dept Interview) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคอมพิวเตอร์ และวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T-test, F-test ผลการวิจัยพบว่า นักท่องเที่ยวมุสลิมส่วนใหญ่เป็น เพศหญิง อายุ 21-25 ปี สัญชาติไทย สถานภาพโสด อาชีพนักเรียน/นักศึกษา และมีรายได้ต่อเดือน 10,000-15,000 บาท ผลการวิเคราะห์ระดับความต้องการการท่องเที่ยวฮาลาลของนักท่องเที่ยวมุสลิมในจังหวัดสงขลา พบว่า ความต้องการส่วนใหญ่ ในด้านต่างๆ คือ ด้านที่พักแรม นักท่องเที่ยวต้องการให้มีเครื่องหมายแสดงทิศทางสำหรับการละหมาดมากที่สุดมีค่าเฉลี่ย (x ̅ = 4.73 ) ด้านร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องการให้มีตราสัญลักษณ์ฮาลาลภายในร้านมากที่สุดมีค่าเฉลี่ย (x ̅ =4.5 ) ด้านร้านสปา นักท่องเที่ยวต้องการแยกห้องนวดสำหรับลูกค้าหญิงและชายมากที่สุดมีค่าเฉลี่ย (x ̅ = 4.19 ) ด้านสถานที่สาธารณะ นักท่องเที่ยวต้องการให้มีมัสยิดอยู่ใกล้เคียงสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดมีค่าเฉลี่ย (x ̅= 4.44 ) และจากการทดสอบสมมติฐานผลว่า เพศ อายุ สัญชาต สถานภาพ อาชีพ และรายได้ที่แตกต่างกันมีความต้องการการท่องเที่ยวฮาลาลจังหวัดสงขลาที่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 สำหรับแนวทางการจัดการท่องเที่ยวฮาลาล พบว่า 1) จัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับศาสนาอิสลามเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมุสลิม 2) การจัดเตรียมสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมตามหลักศาสนาอิสลาม 3) การพัฒนาร้านอาหารให้ได้รับเครื่องหมายรับรองฮาลาล 4) การจัดห้องละหมาด บริเวณห้างสรรพสินค้า 5) กิจกรรมการท่องเที่ยวควรมีมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัย 6) การกำหนดสถานที่ต้องห้ามหรือสถานที่ที่ขัดต่อหลักการศาสนาอิสลาม สำหรับนักท่องเที่ยวมุสลิม 7) การให้ชุมชนมุสลิมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการการท่องเที่ยวฮาลาล
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. ชัญญภัทร อำพันสุขโขคณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ70
2ดนยรัตน์ คัคโนภาสคณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย30