โครงการศึกษาผลกระทบต่อทรัพยกรชายฝั่งและการเลคื่อนย้ายของสัตว์วัยอ่อนจากการสร้างเขื่อนกันคลื่อน

Impact of Breakwater Construction on Aquatic Larvae Settlement

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2552
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2551
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2552
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2551
ประเภททุนวิจัย ทุน สกอ.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ บทนำ ระบบนิเวศหาดทรายเป็นสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากพิจารณาทางด้านกายภาพก็จะเห็นว่าเป็นบริเวณที่เกิดการกระทำของทราย คลื่น และการขึ้นลงของน้ำ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีการดูดซับพลังงานคลื่น (Maclachlan and Brown, 2006) ความกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของพลเมืองโลก การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับประชากร และการเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศเป็นปัจจัยคุกคามต่อระบบนิเวศหาดทรายที่ไม่สามารถคาดคะเนได้ทั่วโลก การอนุรักษ์หาดทรายเพื่อให้ยังคงดำรงหน้าที่ของระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของหาดทรายใช่เพียงแค่การจัดการเพื่อบรรเทาจากภัยคุกคามทางกายภาพเท่านั้น การจัดการจำเป็นต้องรวมไปถึงในมิติของระบบนิเวศด้วย (Schlacher et al., 2008) สำหรับประเทศไทยการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของชายฝั่งที่ที่มีการพิจารณาเป็นลำดับต้นๆคือการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งมีวิธีในการลดการกัดเซาะอยู่หลายรูปแบบ โดยวิธีที่ใช้อย่างแพร่หลายคือการสร้างสันเขื่อนกันคลื่นบริเวณชายหาด บริเวณเขตน้ำขึ้นน้ำลงของระบบนิเวศหาดทรายซึ่งมักจะเชื่อมต่อกับระบบนิเวศป่าชายเลน มีปลาผิวน้ำและปลาหน้าดินหลายชนิดได้ใช้หาดทรายที่เป็นเขตน้ำขึ้นน้ำลงเป็นแหล่งลงเกาะหรือมีการทดแทนที่เพื่อการอนุบาลก่อนที่มีการเติบโตแล้วอพยพไปอาศัยในบริเวณระบบนิเวศอื่นหรือยังคงอาศัยต่อในบริเวณเขตแนวน้ำขึ้นของหาดทราย (Brown et al. 1994, Macpherson 1998, Rose and Lancaster, 2002) ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณแนวน้ำขึ้นน้ำลงของหาดทรายเป็นบริเวณมีความชุกชุมแพลงก์ตอนสัตว์และสัตว์หน้าดินขนาดเล็กที่เป็นอาหารของปลาในระยะวัยอ่อนและวัยรุ่น (Inoue et al. 2008) อีกทั้งเป็นบริเวณที่มีความปั่นป่วนของน้ำทำให้มีความขุ่นสูงอาจช่วยในการพรางตัวของปลาระยะวัยรุ่นจากผู้ล่าได้ (Nakane et al. 2009) ประเสริฐ (2544) ได้ศึกษาประชาคมปลาวัยอ่อนและปลาวัยรุ่นในบริเวณเขตน้ำขึ้นน้ำลงหาดราชมงคล อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง พบปลาทั้งหมด 23 วงศ์ 41 ชนิด การลงเกาะของปลาซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมจากการล่องลอยไปตามมวลน้ำในระยะวัยอ่อนมาอาศัยอยู่บริเวณหน้าดินในระยะวัยรุ่น อัตราการรอดตายของปลาในระยะนี้ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณของปลาในระยะเต็มวัย แม้ว่าอาหารในธรรมชาติจะเป็นปัจจัยที่สำคัญต่ออัตรารอดของปลาในระยะนี้ แต่ก็มีปัจจัยทางทางสมุทรศาสตร์มาเกี่ยวข้องด้วยทั้งทางตรงและทางอ้อม การเปลี่ยนแปลงของชายหาดรวมไปถึงสิ่งก่อสร้างบริเวณชายฝั่งอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงลักษณะสัณฐานของชายหาดและการเคลื่อนที่ของกระแสน้ำชายฝั่ง ปัจจุบันยังไม่มีรายงานผลจากการสร้างเขื่อนกั้นคลื่นต่อการลงเกาะของสัตว์ทะเล การศึกษาครั้งนี้จึงเป็นการศึกษาเพื่อพิจารณาลักษณะของประชาคมปลาในระยะวัยอ่อนและวัยรุ่นซึ่งปกติจะใช้ระบบนิเวศหาดทรายเป็นแหล่งลงเกาะ โดยเปรียบเทียบกับบริเวณหาดทรายที่ไม่มีสิ่งก่อสร้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณารูปแบบของการสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายหาดที่มีความเป็นมิตรกับระบบนิเวศชายหาด พื้นที่ที่ใช้ในการศึกษาในครั้งนี้คือชายหาดปากเมง ซึ่งเป็นหาดทรายที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง เป็นชายหาดแรกๆของจังหวัดตรังที่ได้มีการดำเนินการก่อสร้างดัดแปลงเพื่อสร้างเขื่อนกันคลื่นเพื่อรักษาทางสัญจรตามแนวชายฝั่งของชุมชนและประชาชนโดยทั่วไป ระยะทางของชายหาดที่ถูกดัดแปลงมีทั้งสิ้น 4 กิโลเมตร ส่วนที่ยังคงมีลักษณะเป็นหาดทรายเหมือนธรรมชาติมีระยะทางทั้งสิ้น 5 โลเมตร (ภาพที่ 1) เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาเทคนิคในการติดตามการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ ข้อมูลที่ได้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการต่อยอดในการศึกษาต่อไป ระเบียบวิธีวิจัย การศึกษาผลของการสร้างเขื่อนกันคลื่นต่อการเคลื่อนย้ายของสัตว์น้ำวัยอ่อนโดยเน้นที่การศึกษาปลาในระยะวัยอ่อนและปลาในระยะวัยรุ่นได้กำหนดพื้นที่การศึกษาคือบริเวณหาดปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. การศึกษาลักษณะสัณฐานชายฝั่ง โดยใช้เครื่องหาพิกัดทางภูมิศาสตร์ร่วมกับเครื่องมือวัดความลึกของน้ำเพื่อสร้างภาพจำลองลักษณะสัณฐานชายฝั่ง 2. การลักษณะประชาคมปลาได้เก็บตัวอย่างในเขตน้ำขึ้นน้ำลงบริเวณหาดทรายในสองบริเวณคือบริเวณที่มีการสร้างเขื่อนกันคลื่นและบริเวณที่เป็นหาดทรายธรรมชาติ ซึ่งเก็บตัวอย่างปลาระยะวัยรุ่นและวัยอ่อนโดยใช้ถุงอวนลากขนาดเล็ก ขนาดตา 1 มม ในช่วงน้ำเกิดและน้ำตาย เก็บรักษาตัวอย่างในน้ำยาฟอร์มาลินเข้มข้น 10 % นำตัวอย่างมาจำแนกในห้องปฏิบัติการแล้วนับจำนวนตัวของแต่ละกลุ่มพร้อมแยกระยะการเติบโตออกเป็นระยะวัยอ่อนและระยะวัยรุ่นโดยใช้ลักษณะภายนอกเช่นจุดสีต่างๆ กล่าวคือหากเป็นระยะวัยรุ่นจะมีลักษณะที่คล้ายปลาชนิดนั้นๆในระยะเต็มวัย หากเป็นระยะวัยอ่อนจะมีลักษณะภายนอกแตกต่างออกไป เปรียบเทียบจำนวนตัวเฉลี่ยทั้งในระยะวัยอ่อนและระยะวัยรุ่นรวมกัน จำนวนตัวเฉลี่ยของแต่ละระยะการเติบโตของทั้งสอบบริเวณโดยวิธีไม่ใช้การประมาณค่าพารามิเตอร์ (non parameter method) (Zar, 1984)
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ.ดร. ประเสริฐ ทองหนูนุ้ยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ0

บทความวารสาร

ที่ ชื่อบทความ วารสาร/หนังสือ ที่ตีพิมพ์ ระดับบทความ ฐานข้อมูลที่ตีพิมพ์ วันที่ตีพิมพ์
1Assemblage structures and spatial distributions of small gobioid fishes in a mangrove estuary,southern ThailandFish Sci(2012)78:237-247ระดับชาติ1 มกราคม 2555