ปีงบประมาณ |
2561 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ |
|
ลักษณะโครงการ |
โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ |
โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย |
|
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) |
1 มกราคม 2560 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) |
1 มกราคม 2561 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) |
1 มกราคม 2560 |
ประเภททุนวิจัย |
งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ |
สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา |
ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม |
ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ |
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบการบริหารจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจำแนกตามลักษณะทั่วไปของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจังหวัดสงขลา 2) เพื่อวิเคราะห์ศักยภาพการบริหารจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จังหวัดสงขลา 3) เพื่อกำหนดแนวทางการเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จังหวัดสงขลา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดสงขลา จำนวน 83 ราย โดยใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In dept Interview) ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับวิเคราะห์ทางสถิติและวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T-test, F-test ผลการวิจัยพบว่า
ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจังหวัดสงขลา ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการคนเดียว มีรายได้เฉลี่ยต่อปี น้อยกว่า 500,000 บาท มีระยะเวลาของกิจการมากกว่า 5 ปี มีคู่แข่งขันจำนวนมากราย มีจำนวนลูกค้าเฉลี่ยต่อปี 1,000-3,000 คน ผลการวิเคราะห์ศักยภาพการบริหารจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จังหวัดสงขลา พบว่า ศักยภาพการบริหารจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จังหวัดสงขลา มีค่าอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย คือ (x ̅=3.70) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย พบว่า การบริหารการจัดการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านบุคลากร (People) x ̅=4.31 ตามมาด้วย ผลิตภัณฑ์ (Product) x ̅=4.29 ด้านกายภาพ (Physical Evidence) x ̅= 4.00 ด้านกระบวนการ (Process) x ̅= 4.00 ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย (Places) x ̅= 3.55 ด้านราคา (Price) x ̅= 3.55 และการส่งเสริมการตลาด (Promotion) x ̅=2.60 ผลการวิเคราะห์สมมติฐาน พบว่า ประเภทธุรกิจ รายได้เฉลี่ยต่อปี ระยะเวลาในการก่อตั้ง และคู่แข่งขันของกิจการที่แตกต่างกันมีการบริหารการจัดการของธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่แตกต่างกัน และจำนวนลูกค้าเฉลี่ยต่อปีที่แตกต่างกันมีการบริหารการจัดการของธุรกิจนำเที่ยวที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 สำหรับแนวทางการเสริมสร้างศักยภาพการบริหารจัดการของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จังหวัดสงขลา พบว่า 1) ผู้ประกอบการควรเรียนรู้ด้านภาษาต่างประเทศ 2) ผู้ประกอบการควรหาโอกาสที่เรียนรู้ทางด้านการบริหารองค์การให้มีประสิทธิภาพ 3) ผู้ประกอบการควรเปิดโอกาสให้พนักงานได้ทัศนะศึกษาท่องเที่ยวไปยังต่างประเทศ 4) ผู้ประกอบการต้องมีจริยธรรมในอาชีพในทุกด้าน 5) ผู้ประกอบการควรมีการวางแผนการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ๆ 6) ผู้ประกอบการควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับบุคลากร 7) ผู้ประกอบการควรมีการดำเนินการเรื่องภาษีให้ถูกต้อง
8) ผู้ประกอบการควรคิดเชิงบวกในด้านทัศนคติ
คำสำคัญ การท่องเที่ยว, การจัดการ, ธุรกิจนำเที่ยว
|
รายละเอียดการนำไปใช้งาน |
|
เอกสาร Final Paper(s) |
|