ออกแบบและสร้างที่จับชิ้นงานโดยใช้หลักการออกแบบเพื่อการประกอบ

Design and Construction Jig For Design for assembly; DFA

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2561
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2561
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การที่ผู้ออกแบบสามารถลดจำนวนของชิ้นส่วน เลือกขั้นตอนการผลิตที่เหมาะสม ออกแบบให้สามารถประกอบง่าย จะทำให้เวลาและต้นทุนในการผลิตลดลง นอกจากนี้ DFM และ DFA ยังสามารถเพิ่มคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ หรือ reliability ให้กับตัวผลิตภัณฑ์ เพราะยิ่งขั้นตอนในการประกอบน้อย ความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาก็จะลดลง ดังนั้นในผู้ออกแบบจะต้องมีสมาชิกที่มาจากหลายแผนกเช่น แผนกออกแบบ design แผนกวิศวกรรม engineering แผนกผลิต production แผนกประกันคุณภาพ QA แผนกบัญชี accountants แผนกการตลาด marketing รวมไปถึงเซลล์ sales โดยใช้หลักการของ Link หรือ ชิ้นต่อโยง Rigid body ที่เป็นชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของกลไก จะมีจุดต่อ (node) อย่างน้อย 2 จุด ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับ Link อื่นๆ เพื่อถ่ายเทการเคลื่อนที่และแรงระหว่างกัน ชนิดของ Link Binary link : one of 2 nodes, Ternary link : one of 3 nodes, Quaternary link : one of 4 nodes ในงานนี้เลือกใช้ แบบ Binary link : one of 2 nodes จุดสัมผัสชิ้นงาน 3 จุด ๆ ละ 120 องศา ภายใน 360 องศา เคลื่อนที่เข้า-ออกของปากภายในส่วนโค้งรัศมี โดยการใช้เกลียวที่มีระยะพิชที่มีมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้สามารถจับงานได้หลายรูปแบบและรูปทรงของงาน เลือกใช้วัสดุ S50C เพื่อความแข็งแรงและลดการสึกหรอ นำไปชุบแข็งก่อนนำไปใช้งาน
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. ปิยวิทย์ สุวรรณคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ60
2จตุพร ใจดำรงค์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20
3บรรเลง คำเกตุคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20