โครงการวิจัย
การคัดเลือกแบคทีเรียแลกติกที่ผลิตสารแบคเทอริโอซินจากอาหารทะเลหมักพื้นบ้านภาคใต้ที่สามารถยับยั้งการเติบโตของเชื้อก่อโรคทางเดินอาหาร
Screening of bacteriocin producing lactic acid bacteria from southern Thailand traditional fermented seafood products for growth inhibition of foodborne pathogens
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2561 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการวิจัยและพัฒนา |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2560 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2561 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 2 ตุลาคม 2560 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การศึกษาคุณภาพด้านจุลินทรีย์ และเคมี ในผลิตภัณฑ์อาหารหมักจำนวน 80 ตัวอย่าง พบว่ามีค่า pH อยู่ในช่วง 3.64 - 7.89 กรดแลกติก 0 - 3.82% และ ปริมาณ NaCl 11.2 – 47.0 % มีเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมด เชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมดที่ทนเกลือ แบคทีเรียแลกติก และแบคทีเรียแลกติกที่ทน เกลือ อยู่ในช่วง <1.0x101– 1.92x107, <1x101– 1.14x108, <1.0x101- 5.5x107และ 1x101-1.04x107 ตามลำดับ งานวิจัยนี้สามารถแยกเชื้อได้ทั้งหมด 484 ไอโซเลต โดยมีเชื้อที่สามารถเติบโต ได้ดีและนำไปทดสอบการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคทางเดินอาหารจำนวน 367 ไอโซเลต โดยเชื้อที่ คัดเลือกไปทดสอบสมบัติต่าง ๆ ของสารยับยั้ง คือ ไอโซเลต PPD90 PSS113 KS173 HSD392 HSD398 และ PPD444 เนื่องจากสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียอินดิเคเตอร์ได้หลายสกุล และมีวงใสใน การยับยั้งกว้าง โดยพบว่าส่วนใสที่ได้จากแบคทีเรียที่คัดเลือกยังคงมีกิจกรรมการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย อินดิเคเตอร์เมื่อเติมเอนไซม์คะตาเลส และกิจกรรมการยับยั้งจะหายไปเมื่อเติมเอนไซม์ย่อยโปรตีน โดยเชื้อแบคทีเรียที่คัดเลือกทุกไอโซเลตสามารถเติบโตและสร้างสารแบคเทอริโอซินได้ดีที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ที่ระยะเวลาในการบ่ม 24 ชั่วโมงขึ้นไป แต่สารที่ได้จะเสียความสามารถในการยับยั้ง เชื้อแบคทีเรียอินดิเคเตอร์เมื่อใช้ความร้อนอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เวลา 30 นาที เป็นต้นไป ยกเว้นเชื้อสายพันธุ์ KS173 ที่สร้างสารแบคเทอริโอซินที่ทนต่อความร้อนได้ถึง 121 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จากการศึกษาสมบัติการเป็นโปรไบโอติกของแบคทีเรียทั้ง 6 สายพันธุ์ พบว่า เชื้อ แบคทีเรียที่มีสมบัติการเป็นโปรไบโอติกดีที่สุด คือ สายพันธุ์ PS113 กล่าวคือ มีการอยู่รอดที่ pH 3 ได้ดีทนต่อน้ำดีและกรดในการทดสอบแบบต่อเนื่องกัน ทนต่อน้ำดี เติบโตในสภาวะที่ไม่มีอากาศได้ดี และทนต่อยาปฏิชีวนะ penicillin และ tetracycline รองลงไปคือเชื้อ PPD90 KS173 และ HSD392 เนื่องจากมีการอยู่รอดในสภาวะที่ทดสอบแตกต่างกันไป จึงทำการคัดเลือกแบคทีเรียแลกติก 4 สายพันธุ์นี้ไปทำการเทียบเคียงถึงสกุล และชนิดของเชื้อต่อไป ส่วนเชื้อ อีก 2 สายพันธุ์ คือ HSD398 และ PPD444 มีสมบัติในการเป็นโปรไบโอติกได้น้อย จึงไม่ได้คัดเลือกไปทำการเทียบเคียง ถึงสกุล และชนิดของเชื้อ โดยพบว่าเชื้อแบคทีเรียแลกติก 4 สายพันธุ์ ที่คัดเลือก เชื้อสายพันธุ์ PPD90 คือ Lactobacillus pentosus เชื้อสายพันธุ์ PS113 คือ Lactobacillus plantarum เชื้อสายพันธุ์ KS173 คือ Lactobacillus plantarum และ เชื้อสายพันธุ์ HSD392 คือ Enterococcus faecium คำสำคัญ : แบคทีเรียแลกติก แบคเทอริโอซิน อาหารทะเลหมักพื้นบ้าน |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ผศ.ดร. ศิรินาถ ศรีอ่อนนวล | คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 55 |
2 | ผศ.ดร. ธณิกานต์ ธรสินธุ์ | คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 15 |
3 | ผศ.ดร. เสาวณีย์ ชัยเพชร | คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 15 |
4 | ผศ.ดร. น้อมจิตต์ แก้วไทย อันเดร | คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 15 |