สถานการณ์หนี้ครัวเรือนกับแนวทางการสร้างวินัยทางการเงินเพื่อความพอเพียง

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2561
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2561
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ รายงานวิจัย เรื่อง สถานการณ์หนี้ครัวเรือนกับแนวทางการสร้างวินัยทางการเงินเพื่อความ พอเพียง มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยและพฤติกรรมทางการเงินที่ส่งผลให้เกิดหนี้ครัวเรือนและ ศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยผ่านการสร้างวินัยทางการเงินสู่ความพอเพียงโดย มีขนาดกลุ่มตัวอย่าง จานวน 337 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นครัวเรือนที่ตั้งอยู่จริงในพื้นที่ตาบลทะเลน้อย อาเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยเครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามปลายปิดและปลายเปิด สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และการทดสอบสหสัมพันธ์ถดถอย แบบพหุคูณ และใช้เทคนิคการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสารวจ (Exploratory Factor Analysis) โดยใช้วิธีการสกัดปัจจัยแบบการวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก (Principle Component Analysis) ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ปัญหาและสาเหตุของหนี้ครัวเรือนส่วนใหญ่มาจากระดับการ บริโภคของครัวเรือนที่สูงขึ้น ( X = 4.08) รองลงมา คือความต้องการถือเงินเพื่อการลงทุนของ ครัวเรือน ( X = 3.77) หนี้นอกระบบสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าหนี้ในระบบ ( X = 3.75) ระดับรายได้ไม่ แน่นอนและไม่พอเพียงต่อรายจ่ายอุปโภคและบริโภค ( X = 3.70) และพฤติกรรมการบริโภคที่ เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ( X = 3.69 ) ตามลาดับ ทั้งนี้การสร้างวินัยทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ ครัวเรือน กลุ่มตัวอย่างให้ความสาคัญกับการออมเงินอย่างสม่าเสมอ ( X = 3.78) รองลงมา คือ การตระหนักถึงความสาคัญของเงินฉุกเฉินเพื่อสารองใช้เมื่อยามจาเป็น ( X = 3.73) การนาเงินไป ลงทุนอื่นๆ เพื่อต่อยอดรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น ( X = 3.63) การนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์ใช้ในการใช้จ่ายเงิน ( X = 3.61) ตามลาดับ สาหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ กลุ่มตัวอย่างให้ความสาคัญมาก ได้แก่ การสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะการบริหารจัดการเงิน หนี้สินและการออมแก่ครัวเรือน ( X =4.22) รองลงมา คือ การกระจายรายได้และส่งเสริมอาชีพให้กับ คนในชุมชน ( X =4.07) การควบคุมการปล่อยสินเชื่ออย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหนี้นอกระบบ ( X =4.07) การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ( X =4.01) การรณรงค์ให้เข้าใจถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงเพื่อนามาประยุกต์ใช้ในครัวเรือน ( X =3.98) และการสนับสนุนการลงทุนจากเอกชนเพื่อการ จ้างงานของคนในชุมชนเพิ่มมากขึ้น ( X =3.93) ตามลาดับ ทั้งนี้การวัดค่าเสถียรภาพของครัวเรือน พบว่า ครัวเรือนมีสภาพคล่องภายในครัวเรือน (debt to income ratio) ร้อยละ 39.2 และส่วนใหญ่ ไม่มีความสามารถในการชาระหนี้สินต่อเดือน (debt service ratio) ร้อยละ 61.4 สาหรับการวัดค่า อิสรภาพทางการเงิน พบว่า กลุ่มตัวอย่างสามารถอยู่รอดได้ด้วยตนเอง (survival ratio) ร้อยละ 52.2 และส่วนใหญ่ไม่มีอิสรภาพทางการเงิน (wealth ratio) ร้อยละ 95.8
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1มนต์ทนา คงแก้วคณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ60
2ผศ. นัดพลพิชัย ดุลยวาทิตคณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20
3กุลธีรา ทองใหญ่คณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20

บทความประชุมวิชาการ

ที่ บทความประชุมวิชาการ ชื่อการประชุม สถานที่จัดการประชุม ปีที่จัดการประชุม (พ.ศ.)
1The Circumstance of Household Dedt and the Creation of Financial Discipline for Creating Household Sufficient EconomyInternational Academic Multidisciplinary Research Conference 2018เมืองออสโล2561