ผลผลิตทางการประมงและผลกระทบทางเศรษฐกิจของปะการังเทียมต่อชวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง

Fishing Yield and Economic Impacts Of Artificial Reefs toward Small-Scale Fishers in Trang, Province

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2561
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2560
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2561
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
ประเภททุนวิจัย งบประมาณแผ่นดิน
สถานะโครงการ แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ผลผลิตทางการประมงและผลกระทบทางเศรษฐกิจของปะการังเทียมต่อชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดตรัง Fishing Production and Economic Impacts of Artificial Reefs toward Small-Scale Fishers in Trang Province ณัฐทิตา โรจนประศาสน์ 1* , ประเสริฐ ทองหนูนุ้ย 2 , เดือนรุ่ง ช่วยเรือง 3 บทคัดย่อ การจัดท าแนวปะการังเทียมมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแหล่งอาศัยให้สัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในทะเล ซึ่งเป็นการจัดท าเป็นที่สงวนพืชพันธุ์ในทะเล การสร้างแนวปะการังเทียมจึงมีความคาดหวังในการเป็นระบบ นิเวศใหม่ในทะเลที่เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางการประมง อย่างไรก็ตาม ความส าเร็จของการ สร้างแนวปะการังเทียมมีความจ าเป็นจะต้องประเมินทั้งในแง่ของการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรประมงและ ประโยชน์ที่ชุมชนได้รับ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประเด็น คือ 1) เพื่อศึกษาผลผลิตทางการประมงของ ปะการังเทียมที่มีอายุแตกต่างกัน และ 2) เพื่อศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจของชาวประมงพื้นบ้านที่ใช้ ประโยชน์ปะการังเทียม ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตทางการประมงของปะการังเทียมที่มีอายุแตกต่าง กันนั้นได้ด าเนินการเก็บตัวอย่างโดยใช้อวนจมปลาขนาดความยาว 700 เมตร ขนาดตา 2.5 เซนติเมตร ความ ลึกของอวน 2.5 เมตร ท าการประมงในพื้นที่แนวปะการังเทียมที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปีและแนวปะการังเทียมที่ มีอายุ 5-10 ปี พบปลาที่ได้จากการท าการประมง 70 ชนิด จาก 21 วงศ์ โดยมีวงศ์ปลาแป้นชนิด Karalla duara พบเป็นร้อยละ 14 รองลงมาได้แก่ วงศ์ปลา สลิดหินแขก ชนิด Siganus canaliculatus และ วงศ์ปลาทู-ปลาลัง ชนิด Rastrelliger kanagurta พบร้อยละ 13 และร้อยละ 10 ตามล าดับ ผลผลิต ทางการประมงในรูปของน้ าหนักปลาต่อการท าการประมง 1 ครั้ง พบปลาที่มีพบน้ าหนักเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ วงศ์ปลาทู-ปลาลัง ชนิด Rastrelliger kanagurta มีสัดส่วนร้อยละ 18 ของน้ าหนักเฉลี่ยรวมทั้งหมดของ ปลาทุกชนิดที่จับได้รองลงมาคือ วงศ์ปลาสาก ชนิด Sphyraena putnamae และวงศ์ปลาสีกุน ชนิด Atule mate มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 14 และ 11 ตามล าดับ ผลผลิตทางการประมงทั้งในด้านจ านวนชนิด จ านวนตัวรวม และน้ าหนักตัวรวมของปลาที่จับได้จากการประมงอวนจมในแนวปะการังเทียมไม่พบความ แตกต่างกันระหว่างบริเวณแนวปะการังเทียมที่มีอายุต่างกัน ส าหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบทาง เศรษฐกิจ ตัวอย่าง คือ ชาวประมงพื้นบ้านที่ใช้ประโยชน์ปะการังเทียมโดยการท าประมงในแนวปะการังเทียม ด้วยเครื่องมือประมงชนิดต่าง ๆ ได้แก่ เบ็ด อวน ลอบ เนื่องจากไม่ทราบจ านวนประชากรชาวประมง พื้นบ้านที่ท าการประมงในแนวปะการังเทียม จึงใช้สูตรค านวณขนาดตัวอย่างของ Cocharn (1953) โดยก าหนดสัดส่วนของประชากรที่ต้องการสุ่มเป็น 0.09 ความเชื่อมั่น 95% และความคลาดเคลื่อนที่ 1 สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 179 หมู่ 3 ต าบลไม้ฝาด อ าเภอสิเกา จังหวัดตรัง 92150 2 สาขาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 179 หมู่ 3 ต าบลไม้ฝาด อ าเภอสิเกา จังหวัดตรัง 92150 3 สาขาศึกษาทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 179 หมู่ 3 ต าบลไม้ฝาด อ าเภอสิเกา จังหวัดตรัง 92150 * Corresponding author, e-mail: natthita9@gmail.com ข ยอมให้เกิดได้ 5% ได้ขนาดตัวอย่าง 126 คน เครื่องมือการวิจัย คือ แบบสอบถาม ตรวจสอบความตรง เชิงเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 3 คน ได้ค่า IOC เป็น 0.67-1.00 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยสัมภาษณ์ด้วย แบบสอบถามเก็บข้อมูลได้จริง 122 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน ทดสอบผลต่างของค่าเฉลี่ยด้วย Independent sample t-test และ ANOVA ผลการศึกษา ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของชาวประมงพื้นบ้านในภาพรวม พบว่า รายได้จากการท าการประมงรวม 34,450.95 บาทต่อเดือน โดยรายได้จ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 4 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน มวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป และนอกพื้นที่วิจัย (ค่าเฉลี่ย 13,211.34, 9,168.64, 10,940.19 และ 19,152.74 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) มีความแตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า F=8.321 ค่า p-value=0.000 เมื่อพิจารณาเครื่องมือประมง 3 ประเภท 8 ชนิด ดังนี้ ประเภทแรก คือ เบ็ด (1) เบ็ดตกปลา มีรายได้จากการท าการประมงรวม 8,955.24 บาทต่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 2 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม และแนวโขดหิน (ค่าเฉลี่ย 6,498.77และ 3,439.06 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) ไม่มีความ แตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า t=1.718 ค่า p-value=0.096 (2) เบ็ดลากปลาอินทรี มีรายได้จาก การท าการประมงรวม 21,918.57 บาทต่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 4 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน มวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป และนอกพื้นที่วิจัย (ค่าเฉลี่ย 7,047.35, 8,447.68, 3,571.48 และ 11,733.69 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) มีความแตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า F=3.059 ค่า p-value=0.033 (3) เบ็ดตกหมึก มีรายได้จากการท าการประมงรวม 6,377.22 บาทต่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 3 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน และมวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป (ค่าเฉลี่ย 2,730.08, 3,249.00และ 1,896.82 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) ไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า F=1.447 ค่า p-value=0.250 ประเภทที่ 2 คือ อวน (4) อวนจมปลา/อวนลอยปลา มีรายได้จาก การท าการประมงรวม 32,599.38 บาทต ่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที ่ท าการประมง 4 พื้นที ่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน มวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป และนอกพื้นที่วิจัย (ค่าเฉลี่ย 11,130.78, 8,601.55, 9,810.62และ 23,339.83 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) มีความแตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า F=10.018 ค่า p-value=0.000 (5) อวนจมปู มีรายได้จากการท าการประมงรวม 8,353.12 บาทต่อเดือน โดยจ าแนก ตามพื้นที่ท าการประมง 3 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน และมวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป (ค่าเฉลี่ย 4,177.55, 2,003.53 และ 3,906.23 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) ไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า F=0.666 ค่า p-value=0.521 (6) อวนจมกุ้ง มีรายได้จากการท าการประมงรวม 15,824.47 บาทต่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 3 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน และมวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป (ค่าเฉลี่ย 6,828.67, 4,193.29 และ 7,750.35 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) ไม่มีความแตกต่างกันที่ระดับ นัยส าคัญ 0.05 ค่า F=0.807 ค่า p-value=0.455 ประเภทที่ 3 คือ ลอบ (7) ลอบปลา มีรายได้จากการ ท าการประมงรวม 8,093.49 บาทต่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 2 พื้นที่ คือ แนวปะการัง เทียม และแนวโขดหิน (ค่าเฉลี่ย 6,511.67และ 4,745.46 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) ไม่มีความแตกต่างกันที่ ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า t=0.339 ค่า p-value=0.740 (8) ลอบหมึก มีรายได้จากการท าการประมงรวม 25,005.63 บาทต่อเดือน โดยจ าแนกตามพื้นที่ท าการประมง 3 พื้นที่ คือ แนวปะการังเทียม แนวโขดหิน และมวลน้ าพื้นทะเลทั่วไป (ค่าเฉลี่ย 10,326.38, 5,839.42 และ 17,630.00 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) มีความ แตกต่างกันที่ระดับนัยส าคัญ 0.05 ค่า F=8.781 ค่า p-value=0.001 การเปรียบเทียบรายได้ของ ค ชาวประมงพื้นบ้านที่ท าการประมงในแนวปะการังเทียมในจังหวัดตรัง จ าแนกตามชนิดเครื่องมือประมง 8 ชนิด พบว่า รายได้จากการท าการประมงด้วยเบ็ดตกปลา เบ็ดลากปลาอินทรีเบ็ดตกหมึก อวนจมปลา/อวนลอยปลา อวนจมปูอวนจมกุ้ง ลอบปลา และลอบหมึก (ค่าเฉลี่ย 6,498.77, 7,047.35, 2,730.08, 11,130.78, 4,177.55, 6,828.67, 6,511.67 และ 10,326.38 บาทต่อเดือน ตามล าดับ) มีความแตกต่างกันที่ระดับ นัยส าคัญ 0.05 ค่า F=3.685 ค่า p-value=0.001 โดยอวนจมปลา/อวนลอยปลา และลอบหมึก มีรายได้ สูงกว่าเครื่องมือประมงชนิดอื่น การวิเคราะห์ความอ่อนไหวจากการลงทุน พบว่า รายได้และต้นทุนผันแปร ส่งผลกระทบต่อการลงทุนท าการประมงในแนวปะการังเทียม เมื่อรายได้ลดลงร้อยละ 1 และต้นทุนผันแปร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ส่งผลให้ก าไรสุทธิของการท าการรประมงในแนวปะการังเทียมด้วยเบ็ดตกปลา เบ็ดลากปลา อินทรี เบ็ดตกหมึก อวนจมปลา/อวนลอยปลา อวนจมปู อวนจมกุ้ง ลอบปลา และลอบหมึก มีก าไรสุทธิลดลง ร้อยละ 3.31, 8.77, 6.18, 8.94, 11.66, 6.40 และ 7.36 ตามล าดับ ส่วนเบ็ดตกหมึกมีขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น ร้อยละ 19.51 ค าส าคัญ: ผลผลิตทางการประมง, ผลกระทบทางเศรษฐกิจ, ปะการังเทียม, ชาวประมงพื้นบ้าน
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ.ดร. ณัฐทิตา โรจนประศาสน์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ40
2เดือนรุ่ง ช่วยเรืองคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย20
3ผศ.ดร. ประเสริฐ ทองหนูนุ้ยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย40