การออกแบบกระบวนการรีไซเคิลเปลือกปูเพื่อผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดในระดับอุตสาหกรรมในครัวเรือนและวิสาหกิจชุมชน

Design of Waste crab Shell Recyciling Process for Biofertilizer Pellests Production in Cottage Industry and Small and Micro Community Enterprise (SMCE)

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2561
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2560
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2561
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
ประเภททุนวิจัย งบประมาณแผ่นดิน
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การออกแบบกระบวนการรีไซเคิลเปลือกปูเพื่อผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดในระดับอุตสาหกรรมในครัวเรือนและวิสาหกิจชุมชน เอนก สาวะอินทร์1 กัตตินาฏ สกุลสวัสดิพันธ์1 เตือนใจ ปิยัง1 วรรณวิภา ไชยชาญ1 ฌานิกา แซ่แง่ ชูกลิ่น1 สุภาษิต ชูกลิ่น2 และ ชุตินุช สุจริต1 บทคัดย่อ งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดจากของเสีย เปลือกปู และมูลสัตว์แบ่งการทดลองตามอัตราส่วนผสมออกเป็น เปลือกปู:มูลไก่ เปลือกปู:มูลวัว และเปลือกปู:มูลวัว:มูลไก่ ที่มีอัตราส่วนต่างกันการพิจารณาเลือกเม็ดปุ๋ยชีวภาพที่ดีที่สุดจากผลการวิเคราะห์อินทรียวัตถุของเม็ดปุ๋ยชีวภาพของชุดการทดลองทั้งหมด สำหรับการทดสอบอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของพืชสองชนิด คือ ผักบุ้งจีน และ ผักกาดเขียว ผลการศึกษาทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเม็ดปุ๋ยชีวภาพในการเพิ่มการเจริญเติบโตของพืช ผลการทดลองแสดงว่าผักกาดเขียวมีการเจริญเติบโตสูงกว่าการทดลองอื่น ๆ หลังจากการใส่เม็ดปุ๋ยชีวภาพตามอัตราส่วน เปลือกปู:มูลวัว เท่ากับ 1:0.50 ผลการทดลองแตกต่างจากการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้งจีนที่มีการเจริญเติบโตสูงกว่าการทดลองอื่น ๆ หลังจากการใช้เม็ดปุ๋ยชีวภาพตามอัตราส่วน เปลือกปู:มูลวัว:มูลไก่ เท่ากับ 1:0.25:0.25 ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการใช้เปลือกปูสำหรับการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด (รวมกับมูลสัตว์) มีแนวโน้มที่จะนำไปใช้ได้จริง อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการผลิต และกระบวนการปรับปรุงคุณภาพเม็ดปุ๋ยชีวภาพ การศึกษาการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดจากเปลือกปูผสมมูลสัตว์ โดยมีรูปแบบการทดลองตามส่วนผสมของวัตถุดิบแบ่งออกเป็น 4 สูตร ได้แก่ สูตรที่ 1 เปลือกปู: มูลแพะ สูตรที่ 2 เปลือกปู: มูลนกกระทา สูตรที่ 3 เปลือกปู : มูลค้างคาว และสูตรที่ 4 เปลือกปู : มูลแพะ : มูลนกกระทา : มูลค้างคาว ที่มีอัตราส่วนต่างกัน พิจารณาการอัดเม็ด ลักษณะของเม็ดปุ๋ย และวิเคราะห์อินทรียวัตถุ ความเป็นกรด - ด่าง (pH) ความชื้น และค่าการนำไฟฟ้า (EC) ของเม็ดปุ๋ยชีวภาพของชุดการทดลองทั้งหมด สำหรับการทดสอบการเจริญเติบโตของพืชสามชนิด คือ ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ ผักคะน้า และพริกขี้หนู จากการศึกษาชุดการทดลองทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดเปลือกปูผสมมูลสัตว์ต่อการเจริญเติบโตของพืช ผลการทดลองแสดงถึง ผักกวางตุ้งฮ่องเต้มีการเจริญเติบโตดี หลังจากการใส่ปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดตามส่วนผสม เปลือกปู : มูลนกกระทาที่อัตราส่วน 0.125 : 1 ผลจากการทดลองกับพริกขี้หนู พบว่า มีการเจริญเติบโตดี หลังจากการใช้ปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดตามส่วนผสม เปลือกปู : มูลแพะ : มูลนกกระทา : มูลค้างคาว ที่อัตราส่วน 0.125 : 1 : 0.125 : 0.5 ผลการทดลองแสดงให้เห็นถึงการใช้เปลือกปูผสมมูลสัตว์สำหรับการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด มีแนวโน้มที่จะนำไปใช้ได้จริง แต่ควรมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการผลิต วิธีการใช้งาน และกระบวนการปรับปรุงคุณภาพเม็ดปุ๋ยชีวภาพ การเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของผักวอเตอร์เครสและคุณภาพน้ำ ในระบบอควาโปนิกส์ โดยศึกษาการเจริญเติบโตของของผักวอเตอร์เครสจากการใช้น้ำจากการเลี้ยงปลาดุก ในระบบอควาโปนิกส์ ผลการศึกษาการเจริญเติบโตของผักวอเตอร์เครสที่ปลูกในระบบอควาโปนิกส์ ทุกชุดการทดลอง ระยะช่วง 10 วัน ความสูง ความยาวราก มีการเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เซนติเมตร และระยะหลังจาก 20 วัน มีการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันมากทั้ง ความสูง และ ความยาวราก การเปรียบเทียบ การเจริญเติบโตของผักวอเตอร์เครส์ของทั้ง 3 ชุดการทดลอง โดยชุดการทดลองที่ 3 น้ำจากการเลี้ยงปลาดุกเติมปุ๋ยชีวภาพจากเปลือกปูมีการเจริญเติบโตดีที่สุด เนื่องจากได้รับสารอาหารจากปุ๋ย รองลงมา ชุดการทดลองที่ 2 น้ำจากการเลี้ยงปลาดุก มีการเจริญเติบโตได้ดี เนื่องจากได้รับสารอาหารจากของเสียในบ่อเลี้ยงปลาดุก และ ชุดการทดลองที่ 1 น้ำธรรมดา มีการเจริญเติบโตช้าที่สุดเพราะไม่ได้รับสารอาหาร ผลการศึกษาการเปรียบเทียบคุณภาพน้ำจากการเลี้ยงปลาดุกในระบบอควาโปนิกส์ไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่าความเป็นกรดด่าง สำหรับปริมาณออกซิเจนในน้ำจะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงในบางวัน อาจเนื่องมาจากเกิดฝนตก และ ปริมาณของแข็งละลายในน้ำเพิ่มขึ้นอาจเกิดจากการฟุ้งกระจายจากพื้นบ่อ และ อุหณภูมิของน้ำจะมี การเปลี่ยนแปลงตามสภาพภูมิอากาศภายนอก เมื่อเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ำตลอดระยะเวลาการทดลอง พบว่า ค่าบีโอดีเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการสะสมของตะกอนของเสียในบ่อเลี้ยงปลาดุก คำสำคัญ: ปุ๋ยชีวภาพ, เปลือกปู, เนื้อปู, รีไซเคิล, อุตสาหกรรมในครัวเรือน
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. เอนก สาวะอินทร์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ30
2วรรณวิภา ไชยชาญคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
3กัตตินาฏ สกุลสวัสดิพันธ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
4ผศ.ดร. ฌาณิกา แซ่แง่ ชูกลิ่นคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10