โครงการวิจัย
ผลของสารกันเสียจากธรรมชาติจากพืชสมุนไพรต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของกุ้งขาวแวนนาไมและเนื้อปลาแล่ในระหว่างการแช่เย็น
Effect of natural preservative form herb extract on quality change of white shrimp and fish fillet
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2561 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2560 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2561 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2560 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | ผลของสารกันเสียจากธรรมชาติจากพืชสมุนไพรต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของ กุ้งขาวแวนาไมและเนื้อปลาแล่ในระหว่างการแช่เย็น สุแพรวพันธ์ โลหะลักษณาเดช1 ชุตินุช สุจริต2 และมาลินี ฉินนานนท์3 บทคัดย่อ การศึกษาระดับความเข้มข้นของสารละลายสารสกัดอบเชยและสารสกัดจากกระเทียมที่เหมาะสมสำหรับแช่กุ้งขาวแวนาไม โดยการศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณภาพทางเคมี กายภาพ จุลชีววิทยาและประสาทสัมผัส พบว่าการใช้สารสกัดอบเชยร้อยละ 0.50 มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาคุณภาพของกุ้งขาวแวนาไมได้ดีที่สุด นอกจากนี้กุ้งข้าวแวนาไมในทุกชุดการทดลองยังตรวจไม่พบการเจริญของจุลินทรีย์ก่อโรค และ E. coli ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา 18 วัน ส่วนการศึกษาการแช่กุ้งขาวแวนาไมในสารสกัดจากกระเทียมพบว่าที่ระดับความเข้มข้นร้อยละ 8 มีประสิทธิภาพในการช่วยรักษาคุณภาพได้ดีที่สุด ผลการศึกษาเปรียบเทียบการใช้สารสกัดทั้งสองร่วมกันพบว่าการใช้สารสกัดจากกระเทียม, น้ำมันอบเชย ต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของกุ้งขาว แวนาไมสดในระหว่างการเก็บรักษาภายใต้อุณหภูมิตู้เย็นเป็นเวลา 18 วัน การทดลองมี 4 การทดลอง คือ การทดลองควบคุม (T1), การทดลองใช้สารสกัดจากกระเทียมร้อยละ 8 (T2), ใช้น้ำมันอบเชย (T3) และสารสกัดจากกระเทียมรวมกับน้ำมันอบเชย (T4). ผลการรทดลองพบว่าการใช้สารสกัดกระเทียมร่วมกับสารสกัดจากอบเชย (T4) มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ได้สูงสุด เมื่อพิจารณาผลการวิเคราะห์คุณภาพทางเคมีพบว่า สามารถลดค่า TVB-N ได้อย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) อย่างไรก็ตามผลของคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสแสดงให้เห็นว่าการทดลอง T4 ได้รับคะแนนทางประสาทสัมผัสสูงกว่าการทดลองอื่นๆ เนื่องจากมื่อจุลินทรีย์ลดลงทำให้การเสื่อมเสียลดลง ส่งผลต่อคุณลักษณะทางสัมผัสที่ดี เมื่อพิจาณาผลการวิเคราะห์คุณภาพทางจุลชีววิทยา เคมี และประสาทสัมผัส แล้ว พบว่าการใช้สารสกัดกระเทียมร้อยละ 8 ร่วมกับสารสกัดอบเชยร้อยละ 0.5 สามารถยืดอายุการเก็บได้ 12 วัน ใช้สารสกัดอบเชยร้อยละ 0.5 เก็บได้นาน 6 วัน ในขณะที่การใช้สารสกัดกระเทียมเพียงอย่างเดียวร้อยละ 8 และกลุ่มควบคุมสามารถเก็บได้นาน 3 วัน คำสำคัญ : กุ้ง ปริมาณสารประกอบไนโตรเจนที่ระเหยได้ สารสกัดอบเชย สารสกัดกระเทียม |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | รศ. สุแพรวพันธ์ โลหะลักษณาเดช | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | หัวหน้าโครงการ | 70 |
2 | ผศ. มาลินี ฉินนานนท์ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 15 |
3 | รศ.ดร. ชุตินุช สุจริต | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 15 |