โครงการวิจัย
การศึกษาการติดพยาธิในทางเดินอาหารของแพะเนื้อที่เลี้ยงในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในรอบ 1 ปี
Year-round prevalence study of intestinal parasitic infestations in meat goat in Nakhon Si Thammarat Province
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2561 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2560 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2561 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 มกราคม 2560 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การศึกษาการติดพยาธิในทางเดินอาหารของแพะเนื้อ ที่เลี้ยงในจังหวัดนครศรีธรรมราชใน 1 ปี สินีนาฎ เข็มบุบผา1นิจจารีย์ญาศิริศรีโร1และกันติชา แก้วกับเพชร2 บทคัดย่อ วัตถุประสงค์การวิจัยครั้งนี้ เพื่อทำการเก็บข้อมูลความชุกของพยาธิในทางเดินอาหารของกวาง 4 สายพันธุ์ที่เลี้ยงในฟาร์มกวางอินทรีย์ในเขตจังหวัดเพชรบุรี ประเทศไทย ในรอบ 1 ปี โดยการเก็บตัวอย่างอุจจาระจากกวางที่เลี้ยงโดยโครงการสวนป่าหนองเขื่อน จังหวัดเพชรบุรี เป็นช่วง รวม 6 ช่วง เพื่อนำมาตรวจหาชนิด จำนวนของไข่ ตัวอ่อนของพยาธิในทางเดินอาหาร โดยวิธีการลอยตัวอย่างง่าย ตกตะกอนอย่างง่าย และการประยุกต์ใช้วิธีแมคมาสเตอร์ เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติมัลติแวเรียนต์ ที่ระดับความน่าเชื่อถือ ค่านัยสำคัญทางสถิติ P < 0.05 การวิจัยนี้ให้ผลพบว่า กวางน้อยกว่า ¼ ของโครงการมีไข่ของพยาธิใบไม้กระเพาะ (Paramphistomum sp.) น้อยกว่า 1% ของกวางตรวจพบพยาธิใบไม้ตับ (Fasciola sp.) และน้อยกว่า 5% ของกวางมีสัตว์เซลล์เดียวในทางเดินอาหาร (Eimeria sp.) ที่ช่วงฤดูกาลต่างกันไป คือ การติดพยาธิตัวแบนในทางเดินอาหารพบมากในช่วงต้น และกลางฤดูฝน (Paramphistomum sp. และ Fasciolasp.) ส่วนการติดสัตว์เซลล์เดียวในทางเดินอาหารพบมากที่สุดในช่วงฤดูร้อน การตรวจหาชนิดพยาธิในครั้งนี้ไม่พบอุบัติการณ์ติดพยาธิตัวกลม เนื่องจากกวางในโครงการทุกตัว ยกเว้นกวางดาวได้รับการถ่ายพยาธิโดยใช้ ไอเวอร์เมคทิน (50 มก./กก.) ทุก 4 เดือน ผลจากงานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า ความชุกของพยาธิมีมากในช่วงเริ่มทำการศึกษาวิจัย แต่สามารถควบคุมการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดพยาธิได้เมื่อมีการจัดการที่เหมาะสม ทำให้อัตราการตรวจพบไข่ของทั้งพยาธิใบไม้ และสัตว์เซลล์เดียวEimeria sp. จึงลดลงอย่างชัดเจน ด้วยกระบวนการเกี่ยวข้องกับการควบคุมสุขาภิบาลที่เข้มงวด และระบบการจัดการสุขภาพที่ดี ส่งผลให้สภาพร่างกาย ผลผลิต และความต้านทานต่อโรคและพยาธิเพิ่ม ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากระบบภูมิคุ้มโรคที่เกิดขึ้นสามารถต่อต้านพยาธิได้โดยไม่ต้องพึ่งพายาถ่ายพยาธิเพียงอย่างเดียว . คำสำคัญ:กวาง พยาธิใบไม้ตับ พยาธิใบไม้กระเพาะ ไอเมอเรีย |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | สินีนาฏ เข็มบุบผา | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | กันติชา แก้วกับเพชร | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |
3 | นิจจารีย์ญา ศิริศรีโร | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |