โครงการวิจัย
การพัฒนากระบวนการประชาสัมพันธ์การรับนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2560
A Development of Public Relations Process for New Student Admission of the Faculty of Science and Technology, Rajamangala University of Technology Srivijaya of the Academic Year 2017.
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2561 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | |
ประเภททุนวิจัย | วิจัยสถาบัน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ และปรับปรุงหรือพัฒนากระบวนการรับนักศึกษาใหม่เพื่อการเพิ่มประสิทธิผล โดยศึกษากับกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาที่เข้าเรียนปีแรกของปีการศึกษา 2560 จำนวน 161 คน ผลการวิจัยพบว่า ช่องทางการรับรู้ข่าวสารการรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รับรู้ข่าวสารการรับสมัครจากข่าวสารการรับสมัครจากสื่อบุคคล (ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ครูแนะแนว ครูที่ปรึกษา เพื่อน คนในครอบครัว/ญาติ) รองลงมารับรู้ข่าวสารประชาสัมพันธ์จากเว็บไซต์มหาวิทยาลัย (www.rmutsv.ac.th) และข่าวสารประชาสัมพันธ์จากเว็บไซต์คณะ (http://scitech.rmutsv.ac.th) และช่องทางการรับรู้ข่าวสารการรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อที่ผู้ตอบแบบสอบถามตอบน้อยที่สุด คือ ข่าวสารประชาสัมพันธ์การรับสมัครจากสื่อวิทยุ ระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามต่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.83, S.D. = .89) เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่าด้านที่มีผู้ตอบแบบถามพึงพอใจมากที่สุดคือ ช่องทางการรับรู้ข้อมูลการรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( =3.86, S.D. = .96) ระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.98, S.D. = .82) เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่าด้านที่มีผู้ตอบแบบถามพึงพอใจมากที่สุดคือ ระยะเวลาในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ( =4.06, S.D. = .89) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ พบว่า 1) เพศหญิงและเพศชายมีความคิดเห็นด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์ การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อไม่แตกต่างกัน 2) ผู้ตอบแบบสอบถามที่เรียนระดับหลักสูตร 4 ปี และระดับหลักสูตรเทียบโอน มีความคิดเห็นด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุต่างกัน มีความคิดเห็นด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาพบว่า 1) เพศหญิงและเพศชายมีความคิดเห็นด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาไม่แตกต่างกัน 2) ผู้ตอบแบบสอบถามที่เรียนระดับหลักสูตร 4 ปี และหลักสูตรเทียบโอน มีความคิดเห็นด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุต่างกัน มีความคิดเห็นด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนากระบวนการประชาสัมพันธ์การรับนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2560 โดยมีเนื้อหาตามลำดับ ดังนี้ 5.1 สรุปผลการวิจัย 5.2 อภิปรายผลวิจัย 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการวิจัย ผลการวิจัย เรื่อง การพัฒนากระบวนการประชาสัมพันธ์การรับนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2560 สรุปผลการวิจัยได้ดังนี้ 1) ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง จำนวน 59 คน คิดเป็นร้อยละ 36.6 และเพศชาย จำนวน 102 คน คิดเป็นร้อยละ 63.4 ส่วนใหญ่อายุ 19 ปี จำนวน 42 คน คิดเป็นร้อยละ 26.1 รองลงมาอายุ 22 ปีขึ้นไป จำนวน 39 คน คิดเป็นร้อยละ 24.2 และผู้ตอบแบบสอบถามอายุน้อยสุด 18 ปีจำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5 กำลังศึกษาในระดับหลักสูตร 4 ปี จำนวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ55.9 และศึกษาในระดับหลักสูตรเทียบโอน จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 44.1 ศึกษาในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวน 84 คน คิดเป็นร้อยละ 52.2 รองลงมาสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 16.1 และสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยจำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 14.3 2) การแสดงความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับการศึกษาประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2560 จำแนกตามช่องทางการรับรู้ข่าวสารการรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่รับรู้ข่าวสารการรับสมัครจากข่าวสารการรับสมัครจากสื่อบุคคล (ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน ครูแนะแนว ครูที่ปรึกษา เพื่อน คนในครอบครัว/ญาติ) จำนวน 68คน คิดเป็นร้อยละ 17.5รองลงมารับรู้ข่าวสารประชาสัมพันธ์จากเว็บไซต์มหาวิทยาลัย (www.rmutsv.ac.th) จำนวน65คน คิดเป็นร้อยละ 16.8และข่าวสารประชาสัมพันธ์จากเว็บไซต์คณะ (http://scitech.rmutsv.ac.th) จำนวน43 คน คิดเป็นร้อยละ 11.1และช่องทางการรับรู้ข่าวสารการรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อที่ผู้ตอบแบบสอบถามตอบน้อยที่สุด คือ ข่าวสารประชาสัมพันธ์การรับสมัครจากสื่อวิทยุ จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 2.6 3) การแสดงความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับการศึกษาประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2560 จำแนกตามการเข้า แนะแนวการศึกษาเพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตรที่เปิดรับสมัคร ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ได้รับการแนะแนวการศึกษาเพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตรที่เปิดรับสมัครจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 95คน คิดเป็นร้อยละ 59.0และไม่ได้รับการแนะแนวการศึกษา จำนวน 66คน คิดเป็นร้อยละ 41.0 4) การแสดงความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2560 จำแนกตามวิธีการสมัครเรียน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่สมัครเรียนผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 116 คน คิดเป็นร้อยละ 72.0 และสมัครเรียนด้วยตนเอง ณ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 28.0 5) การแสดงความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามต่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์หลักสูตรเพื่อรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.83, S.D. = .89)เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่าด้านที่มีผู้ตอบแบบถามพึงพอใจมากที่สุดคือ 1) ช่องทางการรับรู้ข้อมูลการรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( =3.86, S.D. = .96) 2) ข้อมูลการประชาสัมพันธ์สามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( =3.84, S.D. = .95) และ 3) เนื้อหาของสื่อประชาสัมพันธ์แนะนำหลักสูตรที่เปิดรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี( =3.83, S.D. = .94) 6) การแสดงความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.98, S.D. = .82) เมื่อพิจารณาแต่ละด้านพบว่าด้านที่มีผู้ตอบแบบถามพึงพอใจมากที่สุดคือ 1) ระยะเวลาในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ( =4.06, S.D. = .89) 2) การให้บริการของเจ้าหน้าที่ในวันรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( =4.06, S.D. = .94) และ 3) ขั้นตอนการสอบคัดเลือกเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาใหม่ ( =4.00, S.D. = .94) 7) การศึกษาประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ จำแนกตามเพศชาย พบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.91, S.D. = .94) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ช่องทางการรับรู้ข้อมูลการรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 3.95, S.D. = .99) รองลงมาคือ ข้อมูลการประชาสัมพันธ์สามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 3.92, S.D. = .97) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านความเหมาะสมของการประชาสัมพันธ์เพื่อการรับสมัครและการสอบคัดเลือก ( = 3.88, S.D. = 1.02) จำแนกตามเพศหญิงพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.79, S.D. = .85) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ช่องทางการรับรู้ข้อมูลการรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 3.81, S.D. = .93) รองลงมาคือ เนื้อหาของสื่อประชาสัมพันธ์แนะนำหลักสูตรที่เปิดรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 3.80, S.D. = .92) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การให้คำแนะนำข้อมูลการรับสมัครหรือตอบข้อซักถาม ( = 3.75, S.D. = 1.01) 8) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำแนกตามเพศด้านความ พึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ พบว่า เมื่อพิจารณาในภาพรวมและ รายข้อผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน 9) ประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำแนกตามระดับหลักสูตร4 ปีพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.54, S.D. = .79) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือเนื้อหาของสื่อประชาสัมพันธ์แนะนำหลักสูตรที่เปิดรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 3.55, S.D. = .89) รองลงมาคือข้อมูลการประชาสัมพันธ์สามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 3.54, S.D. = .86 ) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การประชาสัมพันธ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของสังคม ( = 3.49, S.D. = .87) และจำแนกตามระดับหลักสูตรเทียบโอนพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.16, S.D. = .87) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือช่องทางการรับรู้ข้อมูลการรับสมัครของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( = 4.22, S.D. = .90) รองลงมาคือการประชาสัมพันธ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของสังคม ( = 4.19, S.D. = .93) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ การให้คำแนะนำข้อมูลการรับสมัครหรือตอบข้อซักถาม ( = 4.10, S.D. = 1.02) 10). ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำแนกตามระดับหลักสูตรที่เข้าศึกษา ด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อพบว่า เมื่อพิจารณาในภาพรวมและรายข้อผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 11) ประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำแนกตามเพศชายด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.10, S.D. = .85) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในวันรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( = 4.18, S.D. = .86) รองลงมาคือระยะเวลาในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ( = 4.14, S.D. = .97) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ สถานที่และสภาพแวดล้อมของการรับสมัคร/รายงานตัว ( = 4.00, S.D. = 1.05) และ จำแนกตามเพศหญิงพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.92, S.D. = .80) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือระยะเวลาในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ( = 4.01, S.D. = .84) รองลงมาคือการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในวันรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( = 3.99, S.D. = .97) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายในการรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( = 3.82, S.D. = .96) 12) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่จำแนกตามเพศด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาพบว่า เมื่อพิจารณาในภาพรวมและรายข้อผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน 13) ประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำแนกตามระดับหลักสูตร 4 ปีพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.71, S.D. = .80) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือระยะเวลาในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ( = 3.79, S.D. = .87) รองลงมาคือการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในวันรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( = 3.78, S.D. = .98) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือสถานที่และสภาพแวดล้อมของการรับสมัคร/รายงานตัว ( = 3.63, S.D. = .95) และจำแนกตามระดับหลักสูตรเทียบโอนพบว่าภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.29, S.D. = .75) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในวันรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( = 4.37, S.D. = .78) รองลงมาคือระยะเวลาในการรับสมัครเข้าศึกษาต่อ ( = 4.35, S.D. = .82) ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายในการรับสมัครนักศึกษาใหม่ ( = 4.20, S.D. = .92) 14) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จำแนกตามระดับหลักสูตรที่เข้าศึกษา ด้านความพึงพอใจต่อกระบวนการรับสมัครนักศึกษาพบว่าเมื่อพิจารณาในภาพรวมและรายข้อผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 15) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ จำแนกตามอายุพบว่า เมื่อพิจารณาในภาพรวมและรายด้านผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 16) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ จำแนกตามอายุด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเข้าศึกษาต่อ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 17) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ จำแนกตามอายุด้านช่องทางการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 18) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ จำแนกตามสาขาวิชาเรียนด้านความพึงพอใจต่อการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ ในภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) แต่ละด้าน พบว่า คู่ที่มีความแตกต่างกัน ได้แก่ 1) ด้านการประชาสัมพันธ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของสังคม แตกต่างกันในสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยและสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 2) ด้านข้อมูลการประชาสัมพันธ์สามารถใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แตกต่างกันในสาขาวิชาการแพทย์แผนไทย 3) ด้านการให้คำแนะนำข้อมูลการรับสมัครหรือตอบข้อซักถาม แตกต่างกันในสาขาวิชาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ 19) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ จำแนกตามสาขาวิชาเรียนด้านช่องทางการประชาสัมพันธ์การรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 20) ผลการเปรียบเทียบประสิทธิภาพด้านประสิทธิผลของการประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาใหม่ จำแนกตามสาขาวิชาเรียน ด้านกระบวนการรับสมัครนักศึกษาใหม่ ในภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference: LSD) แต่ละด้าน พบว่า คู่ที่มีความแตกต่างกัน ได้แก่ 1) ด้านการให้บริการของเจ้าหน้าที่ในวันรับสมัครนักศึกษาใหม่ แตกต่างกันในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหการ 2) ด้านสถานที่และสภาพแวดล้อมของการรับสมัคร/รายงานตัว แตกต่างกันในสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยและสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร 3) ด้านขั้นตอนการรับสมัครเพื่อเข้าศึกษาต่อมีความสะดวกและรวดเร็ว แตกต่างกันในสาขาวิชาสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยและสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | นางสาวเพชรลดา เรืองเพชร | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | ผศ. วิทยากร ฤทธิมนตรี | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 40 |