โครงการวิจัย

ผลการเสริมแคปซูล Lactobacillus sp. ขนาดเล็กในอาหารกุ้งเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานโรคของกุ้งกุลาดำและยับยั้งเชื้อ Vibrio parahaemolyticus

Effects of Supplements Alginate-Microencapsulated Lactobacillus spp. in Shrimp Diets on Enhancement Immune Response of Penaeus monodon Protection Against Vibrio parahaemolyticus

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2561
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2561
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2560
ประเภททุนวิจัย งบประมาณแผ่นดิน
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ผลการตรึงเซลล์แบคทีเรียแลคติก ได้แก่ Lactobacillus acidophilus Lactobacillus plantarum Lactobacillus casei และ Lactobacillus bulgaricus ด้วยโซเดียมอัลจิเนตเป็นวัสดุตรึงเซลล์ โดยมีการใช้แคปซูลอัลจิเนตขนาดเล็ก Lactobacillus spp. (Alginate Microencapsulated Lactobacillus spp, AML) อัตราร้อยละ 0 0.2 0.4 0.6 0.8 และ 1.0 โดยน้้าหนัก ส้าหรับการเสริมในอาหารเลี้ยงกุ้งกุลาด้า เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและการตอบสนองภูมิคุ้มกัน การทดลองมีการใช้ลูกกุ้งกุลาด้าน้้าหนักในช่วง 1-4 กรัม จ้านวน 50 ตัว ต่อชุดการทดลองจ้านวน 3 ซ้้า ด้วยการให้อาหารวันละ 2 ครั้ง เป็นวันเวลา 5 เดือน ผลการทดลอง พบว่ากุ้งกุลาด้าที่มีการเสริมแคปซูลขนาดเล็กแลคติกแอซิดแบคทีเรีย อัตราร้อยละ 1.0 โดยน้้าหนัก กุ้งกุลาด้ามีประสิทธิภาพการเจริญเติบโตดีที่สุด มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยส้าคัญ(p<0.05) ทั้งนี้ พบว่ามีอัตราเจริญเติบโตรวดเร็วในช่วง 14 – 15 วัน กุ้งกุลาด้ามีอัตราการเจริญเติบโตต่อวันเฉลี่ย 0.118 กรัม/วัน และอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อเฉลี่ย 2.18 ภายหลังท้าการทดสอบความสามารถในการต้านทานเชื้อ Vibrio parahaemolyticus ของกุ้งกุลาด้าเป็นระยะเวลาเป็นเวลา 60 วัน พบว่ากุ้งกุลาด้าที่ผ่านการเลี้ยงด้วยอาหารที่เสริมด้วยแคปซูลอัลจิเนต Lactobacillus spp. ขนาดเล็ก และกุ้งกุลาด้าชุดควบคุมมีอัตราการรอดชีวิตร้อยละ 100 กุ้งกุลาด้าที่เลี้ยงด้วยอาหารไม่เสริมแคปซูลขนาดเล็ก Lactobacillus spp. มีสุขภาพไม่ดี ตับกุ้งมีลักษณะผิดปกติ กุ้งกุลาด้าที่ผ่านการเสรมอาหารแคปซูล Lactobacillus spp. ขนาดเล็กในอัตราที่สูงพบจ้านวนเลือดแดงทั้งหมด กิจกรรมฟีนอลอ็อกซิเดส และความสามารถในการท้าลายเชื้อสูงขึ้นอย่างมีความแตกต่างทางสถิติ อย่างมีนัยส้าคัญ (p<0.05) แต่การตอบสนองภูมิต้านทานกุ้งกุลาด้าที่มีการเลี้ยงด้วยอาหารที่เสริมแคปซูลขนาดเล็ก Lactobacillus spp. อัตรามากที่สุดจะเกิดกระบวนการยับยั้งการตอบสนองภูมิ ต้านทานเชื้อโรค เมื่อฉีดสารละลายเซลล์ Vibrio parahaemolyticus ปริมาณ 106 ซีเอฟยู/มิลลิลิตร เมื่อท้าการศึกษาการเลี้ยงกุ้งกุลาด้าในบ่อดิน ณ ฟาร์มกุ้ง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.สิเกา จ.ตรัง ในช่วงเดือนสิงหาคม - พฤศจิกายน 2561 พบว่าการเลี้ยงกุ้งกุลาด้าที่เสริมแคปซูลขนาดเล็กร้อยละ 0.2 โดยน้้าหนักมีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อเฉลี่ยร้อยละ1.24 ส้าหรับหน่วยการทดลองควบคุมมีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อเฉลี่ยร้อยละ 1.27 มีการเพิ่มน้้าหนักเฉลี่ยร้อยละ 39.37 กุ้งกุลาด้าที่เลี้ยงด้วยการเสริมแคปซูลขนาดเล็ก ส่วนหน่วยการทดลองควบคุมมีการเพิ่มน้้าหนักเฉลี่ยร้อยละ 36.40 ส้าหรับผลการศึกษาเมตาจีโนมิกส์ในล้าไส้กุ้งกุลาด้าที่เลี้ยงด้วยเสริมแคปซูลอัลจิขนาดเล็กLactobacillus spp. และชุดควบคุม ด้วยวิธีการ Next generation sequencing พบว่ามีการจ้าแนก แบคทีเรียได้จ้านวน 7 ไฟลัม โดยล้าไส้ของกุ้งกุลาด้าที่เลี้ยงด้วยเสริมแคปซูลอัลจิเนตขนาดเล็กข Lactobacillus spp. อัตรา 2 กรัม/กิโลกรัม สามารถจ้าแนกประชากรของแบคทีเรียประกอบด้วยไฟลัม Proteobacteria, Actinobacteria, Bacteroidetes, Chlamydiae, Verrucomicrobia และ Planctomycetes การใช้แคปซูลอัลจิเนตขนาดเล็ก Lactobacillus spp. มีส่วนช่วยดัดแปลงความ หลากหลายของจุลินทรีย์ ซึ่งสามารถน้าไปใช้เป็นตัวบ่งชี้ในการมอนิเตอร์ฟาร์มเลี้ยงกุ้งกุลาด้าเพื่อการค้าต่อไป คำสำคัญ: แคปซูลอัลจิเนตขนาดเล็ก; Penaeus monodon; Vibrio parahaemolyticus; กิจกรรมฟีนอลอ็อกซิเดส; จ้านวนเม็ดเลือดแดงทั้งหมด; การตอบสนองภูมิต้านทาน
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. ณรงค์ชัย ชูพูลคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ40
2ผศ.ดร. ศิรินาถ ศรีอ่อนนวลคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20
3ผศ.ดร. น้อมจิตต์ แก้วไทย อันเดรคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20
4ผศ.ดร. ธณิกานต์ ธรสินธุ์คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20