โครงการวิจัย

การประเมินสถานภาพของธาตุอาหารเพื่อการจัดการปุ๋ยสำหรับปาล์มน้ำมัน

Assessment of Nutrient Status to Fertilizer Management for Oil Palm

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2558
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการต่อเนื่อง
ประเภทโครงการ โครงการย่อย
โครงการหลัก (Master Project)การปรับปรุงผลผลิตปาล์มน้ำมันในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2599
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2601
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2599
ประเภททุนวิจัย งบประมาณแผ่นดิน
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การประเมินสถานภาพของธาตุอาหารเพื่อการจัดการปุ๋ยสาหรับ ปาล์มนามัน สกุลรัตน์ แสนปุตะวงษ์1 อรพิน รัตนสุภา1 กัญจนัสม์ พาพล2 และสรพงค์ เบญจศรี3 บทคัดย่อ งำนวิจัยนี้ศึกษำเกี่ยวกับกำรประเมินสถำนภำพของธำตุอำหำรเพื่อกำรจัดกำรปุ๋ยสำหรับปำล์มน้ำมัน ใช้ต้นปำล์มน้ำมันอำยุ 6-7 ปี โดยทำกำรทดลองใน 2 พื้นที่ คือ พื้นที่อำเภอทุ่งสง และพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นระยะเวลำ 2 ปี (2558-2559) โดยวำงแผนกำรทดลองแบบ Factorial in randomized complete block design (RCBD) เปรียบเทียบค่ำเฉลี่ยโดยวิธี Duncan’s multiple range test (DMRT) ทำกำรบันทึกกำรเจริญเติบโตและกำรให้ผลผลิตของปำล์มน้ำมัน เปรียบเทียบกันระหว่ำงอัตรำปุ๋ยที่ใช้และกำรตอบสนองในแต่ละพื้นที่ เมื่อเปรียบเทียบพื้นที่ใบของปำล์มน้ำมันในพื้นที่ที่ทำกำรทดลองพบว่ำ ใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 4 มีค่ำเฉลี่ยพื้นที่ใบสูงสุด 8.21 ตำรำงเมตร โดยค่ำเฉลี่ยของพื้นที่ใบในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีพื้นที่ใบเฉลี่ยอยู่ที่ 7.53 และ 6.02 ตำรำงเมตร กำรใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 4 มีค่ำเฉลี่ยน้ำหนักแห้งทำงใบสูงสุด 2.77 กิโลกรัม โดยค่ำเฉลี่ยของน้ำหนักแห้งทำงใบในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีน้ำหนักแห้งทำงใบเฉลี่ยอยู่ที่ 21.67 และ 19.46 ตำรำงเมตร กำรใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 5, 4 และ 3 มีค่ำเฉลี่ยกำรสร้ำงทำงใบ 7.28, 7.05 และ 7.05 ทำงใบ ไม่แตกต่ำงทำงสถิติ (p˃0.05) โดยค่ำเฉลี่ยของกำรสร้ำงทำงใบในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีกำรสร้ำงทำงใบเฉลี่ยอยู่ที่ 7.33 และ 6.53 ทำงใบ กำรใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 4, 5 และ 3 มีค่ำเฉลี่ยกำรสร้ำงทะลำยของปำล์มน้ำมัน 5.32, 5.17 และ 5.10 ทะลำย ไม่แตกต่ำงทำงสถิติ (p˃0.05) โดยค่ำเฉลี่ยของกำรสร้ำงทะลำยของปำล์มน้ำมันในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีกำรสร้ำงทะลำยของปำล์มน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 5.24 และ 4.72 ทะลำย จะเห็นได้ว่ำต้นปำล์มน้ำมันในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีกำรเจริญเติบโตดีกว่ำอำเภอทุ่งสง เมื่อเปรียบเทียบจำนวนทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันในพื้นที่ที่ทำกำรทดลองพบว่ำ กำรใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 5, 6 และ 4 มีค่ำเฉลี่ยจำนวนทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมัน 2.53, 2.53 และ 2.43 ทะลำย แตกต่ำงทำงสถิติอย่ำงมีนัยสำคัญยิ่ง (p≥0.01) โดยค่ำเฉลี่ยของจำนวนทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีจำนวนทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 2.43 และ 2.33 ทะลำย กำรใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 4 มีค่ำเฉลี่ยน้ำหนักทะลำยต่อหนึ่งทะลำยของปำล์มน้ำมันสูงสุด 14.68 กิโลกรัม รองลงมำคือ อัตรำที่ 2 และ 3 โดยมีค่ำเฉลี่ยน้ำหนักทะลำยต่อหนึ่งทะลำยของปำล์มน้ำมันทะลำย 13.43 และ 13.40 กิโลกรัม ตำมลำดับ แตกต่ำงทำงสถิติอย่ำงมีนัยสำคัญยิ่ง (p≥0.01) โดยค่ำเฉลี่ยของน้ำหนักทะลำยต่อหนึ่งทะลำยของปำล์มน้ำมันในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีน้ำหนักทะลำยต่อหนึ่งทะลำยของปำล์ม (ค) น้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 14.17 และ 12.64 กิโลกรัม กำรใส่ปุ๋ยในอัตรำที่ 4 มีค่ำเฉลี่ยน้ำหนักทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันสูงสุด 21.35 กิโลกรัม รองลงมำคือ อัตรำที่ 1 และ 5 โดยมีค่ำเฉลี่ยน้ำหนักทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันทะลำย 21.06 และ 20.40 กิโลกรัม ตำมลำดับ ไม่แตกต่ำงทำงสถิติ (p˃0.05) โดยค่ำเฉลี่ยของน้ำหนักทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันในอำเภอเฉลิมพระเกียรติมีค่ำมำกกว่ำในอำเภอทุ่งสง มีน้ำหนักทะลำยต่อต้นต่อเดือนของปำล์มน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 22.02 และ 17.91 กิโลกรัม เมื่อพิจำรณำค่ำใช้จ่ำยในกำรจัดกำรปุ๋ยพบว่ำ กำรใส่ปุ๋ยอัตรำที่ 4 ให้กำไรสุทธิมำกกว่ำกำรใส่ปุ๋ยอัตรำอื่นๆ กำรใส่ปุ๋ยในปริมำณที่น้อยเกินไป ส่งผลให้ต้นปำล์มน้ำมันมีกำรเจริญเติบโตช้ำและผลผลิตไม่มำกเท่ำที่ควร หำกได้รับในปริมำณที่มำกเกินไปธำตุอำหำรอำจมีกำรขัดขวำงกำรทำงำนของธำตุด้วยกันเอง หรืออำจใส่เกินควำมจำเป็นทำให้สิ้นเปลืองต้นทุน ดังนั้นกำรใส่ปุ๋ยควรพิจำรณำถึงควำมต้องกำรของธำตุอำหำรเป็นหลัก ไม่ใส่มำกหรือน้อยเกินไป อย่ำงไรก็ตำมควรมีกำรวิเครำะห์ธำตุอำหำรในดินและในใบปีละครั้ง เพื่อวิเครำะห์กำรจัดกำรปุ๋ยที่ใส่ไปและเพื่อกำรจัดกำรปุ๋ยในปีต่อไป คาสาคัญ: ปำล์มน้ำมัน ธำตุอำหำร ปุ๋ย 1 คณะเกษตรศำสตร์ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลศรีวิชัย วิทยำเขตนครศรีธรรมรำช นครศรีธรรมรำช 80110 2 กรมกำรข้ำว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรุงเทพมหำนคร 10900 3 หน่วยวิจัยพืชเขตร้อนในภำคใต้คณะเทคโนโลยีและกำรพัฒนำชุมชน มหำวิทยำลัยทักษิณ พัทลุง 93110 (ง) Assessment of Nutrient Status to Fertilizer Management for Oil Palm Sakulrat Sanputawong 1 Orapin Rattanasupa1 Kunjanut Parpol2 and Sorapong Benchasri3 Abstract This research was study on the evaluation of the nutrient status of fertilizer for palm oil. Using palm oil age 6-7 years conducted in two main areas: Thungsong and Chaloem Phra Kiat district for a period of two years (2015-2016), the experimental design was Factorial in randomized complete block design (RCBD) comparison by Duncan's multiple range test (DMRT) recorded a growth and yield. The data were comparison between fertilizer use and responses in each area. For the vegetative growth of oil palm in the experiment, fertilizer at a rate of four an average area of 8.21 square meters, the highest average leaf area in the Chaloem Phra Kiat district (7.53 m2) is greater than in Thungsong district (6.02 m2). Fertilizer at a rate of four an average weight of 2.77 kg, the highest average dry weight in Chaloem Phra Kiat district (21.67 square meters) is greater than in Thungsong district (19.46 square meters). Fertilizer at the rate of 5, 4 and 3, with an average build of the 7.28, 7.05 and 7.05, the leaves are not statistically different (p˃0.05). The average value of the building in Chaloem Phra Kiat district (7.33 leaf) is greater than in Thungsong district (6.53 leaf). Fertilizer at a rate of 4, 5 and 3, with an average build bunches of palm oil, 5.32, 5.17 and 5.10 Bunch no statistical difference (p˃0.05) by the average of the building bunches of oil palm in the Chaloem Phra Kiat district (5.24 bunches) is greater than in Thungsong district (4.72 bunches). It is seen that oil palm is growing in the Chaloem Phra Kiat district better than Thungsong district. The comparing the number of bunches per plant per month of oil palm in the experiment. Fertilizer at the rate of five, six and four, the average number of fresh fruit bunches per plant per month of oil palm at 2.53, 2.53 and 2.43 bunch differ statistically significantly greater (p≥0.01) by the average number of bunches per month of oil palm in Chaloem Phra Kiat district (2.43 bunch) is greater than in Thungsong district (2.33 Bunch). Fertilizer at a rate of four an average weight of bunches per bunch (จ) of palm oil up to 14.68 kg, followed by a rate of two and three, with an average weight of bunches per bunches of oil palm fruit bunches 13.43 and 13.40 kg, respectively break. statistically significantly greater (p≥0.01) by dividing the average weight per bunch of oil palm in Chaloem Phra Kiat district (14.17) is greater than in Thungsong district (12.64 kg). Fertilizer at a rate of four an average weight of bunches per plant per month of oil palm up to 21.35 kg, followed by a rate of one and five, with an average weight of bunches per plant per month of oil palm fruit bunches 21.06 and 20.40 kg. the order is not statistically different (p˃0.05) by the average weight per bunch of oil palm per month in Chaloem Phra Kiat district (22.02 kg) greater than in Thungsong district (17.91 kg). When considering the cost of the fertilizer found. Fertilization rates, the net profit over the four other fertilizer and fertilizer in small quantities too. The palm oil is growing slowly and not very productive as they should be. If given in excessive amounts of nutrients may hamper the functioning of the elements themselves. Or it may unnecessarily consume costs. The fertilizer should consider the needs of the primary nutrients. Do not put much or too little. However, there should be an analysis of nutrients in the soil and in the leaves once a year. Analysis is the management to put fertilizer and manure management for the following year. Keywords: Oil Palm, Nutrient, Fertilizer 1 Faculty of Agriculture. Rajamangala University of Technology Srivijaya, Nakhon Si Thammarat Province, 80110 2 Rice Department, Ministry of Agriculture and Cooperatives Bangkok 10900 3 Southern Tropical Plants Research Unit, Faculty of Technology and Community Development, Thaksin University, Phatthalung, 93110
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1สกุลรัตน์ หาญศึกคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ70
2ผศ. อรพิน รัตนสุภาคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10