โครงการวิจัย
ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหยจากใบชะพลู เปลือกส้มโอ และเหง้าข่า ที่มีต่อปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus
Efficacy of Essential Oils fromPiper sarmentosum Leaf, Citrus grandis Peel and Alpinia galanga Rhizome against Subterranean Termite, Coptotermes curvignathus
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2562 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2562 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | 229 |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | ปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus เป็นแมลงศัตรูสาคัญที่สร้างความเสียหายในสวนยางพารา การใช้น้ามันหอมระเหยจากพืชจัดเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อการควบคุมปลวก จึงทาการทดสอบพิษทางการกินและสัมผัส พิษทางการรม ฤทธิ์ไล่ ฤทธิ์ยับยั้งการสร้างท่อทางเดิน และประสิทธิภาพในการรักษาเนื้อไม้ของน้ามันหอมระเหยใบชะพลู เหง้าข่า และเปลือกส้มโอ ในห้องปฏิบัติการ การสกัดน้ามันหอมระเหยจากพืชทดสอบใช้วิธีกลั่นด้วยน้าและไอน้า และวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของน้ามันหอมระเหยด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี/แมสสเปกโทรมิเตอร์ ผลการทดสอบ พบว่า น้ามันหอมระเหยจากใบชะพลูมีสารที่เป็นองค์ประกอบหลักได้แก่ ได้แก่ 1,3 benzodioxole, 4 methoxy-6--(2 propenyl)- (46.96%), β-caryophyllene (5.55%) และ β-pinene (5.14%) ส่วนน้ามันหอมระเหยเหง้าข่ามีสารองค์ประกอบหลักคือ eucalyptol (44.42%), (1S,4R,5R)-1,3,3 trimethyl-2 oxabicyclo[2.2.2]octen-5 yl acetate (6.47%) และ phenol, 4--(2 propenyl)-, acetate (6.25%) และพบ d-limonene เป็นองค์ประกอบหลักของน้ามันหอมระเหยจากเปลือกส้มโอในปริมาณ 83.77% ผลการทดสอบพิษทางการกินและสัมผัสของน้ามันหอมระเหยจากใบชะพลู เหง้าข่า และเปลือกส้มโอต่อปลวก C. curvignathus พบว่า น้ามันหอมระเหยจากใบชะพลูมีพิษทางการกินและสัมผัสสูงสุด รองลงมา ได้แก่ น้ามันหอมระเหยจากเหง้าข่า และน้ามันหอมระเหยจากเปลือกส้มโอ โดยมีค่า LC50 ที่เวลา 7 วัน เท่ากับ 21.78, 61.06 และ 2,369.63 พีพีเอ็ม ตามลาดับ น้ามันหอมระเหยจากใบชะพลูยังมีพิษทางการรมสูงสุด รองลงมา ได้แก่ น้ามันหอมระเหยจากเหง้าข่า และน้ามันหอมระเหยจากเปลือกส้มโอ โดยค่า LC50 ที่เวลา 7 วัน เท่ากับ 689.43, 1,041.17 และ 1,574.88 พีพีเอ็ม ตามลาดับ สาหรับฤทธิ์ไล่ปลวก พบว่า น้ามันหอมระเหยจากเหง้าข่ามีฤทธิ์ไล่ปลวกสูงสุด (89.71%) รองลงมาได้แก่ น้ามันหอมระเหยจากใบชะพลู (84.57%) และน้ามันหอมระเหยเปลือกส้มโอ (57.07%) ตามลาดับ นอกจากนี้ยังพบว่าน้ามันหอมระเหยจากใบชะพลูความเข้มข้น 15,000 และ 10,000 พีพีเอ็ม และน้ามันหอมระเหยจากเปลือกส้มโอความเข้มข้น 15,000, 8000 และ 4,000 พีพีเอ็ม มีประสิทธิภาพดีที่สุดสามารถยับยั้งไม่ให้ปลวกสร้างท่อทางเดินตลอดระยะเวลา 21 วันของการทดสอบ ในขณะที่ปลวกในสิ่งทดลองชุดควบคุมสามารถเคลื่อนที่เต็มความยาวของท่อแก้ว 150 มิลลิเมตรที่เวลา 7 วัน ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพในการรักษาเนื้อไม้ของน้ามันหอมระเหยจากการทาลายของปลวกเป็นเวลา 30 วัน ผลปรากฏว่า น้ามันหอมระเหยจากใบชะพลูความเข้มข้น 15,000, 10,000 และ 8,000 พีพีเอ็ม และน้ามันหอมระเหยจากเปลือกส้มโอความเข้มข้น 15,000 และ 10,000 พีพีเอ็ม มีประสิทธิภาพดีที่สุดทาให้ปลวกตายทั้ง 100% และมีค่าเฉลี่ยน้าหนัก ไม้ที่สูญหายต่าสุดเท่ากับ 0.11--0.21% ส่วนชุดควบคุมไม่พบการตายของปลวกและมีค่าเฉลี่ยน้าหนักไม้ที่สูญหายสูงสุดเท่ากับ 2.63% การประเมินประสิทธิภาพของน้ามันหอมระเหยควบคุมปลวกในสวนยางเปรียบเทียบกับสารฆ่าแมลงสารฟิโปรนิล (fipronil) โดยประเมินผลจากจานวนปลวกในกับดัก น้าหนักไม้ที่สูญหาย และคะแนนประเมินความเสียหายของไม้จากการทาลายของปลวก พบว่า สารฆ่าแมลงสารฟิโปรนิลและน้ามันหอมระเหยใบชะพลู มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการควบคุมปลวก C. curvignathus โดยไม่พบปลวกในกับดัก และมีน้าหนักไม้ที่สูญหายต่าสุดเท่ากับ 0.23 และ 0.52%ตามลาดับ ในขณะที่ชุดควบคุมพบปลวกสูงสุดจานวน 2,897.67 และมีน้าหนักไม้ที่สูญหายสูงสุดเท่ากับ 4.90% นอกจากนี้พบว่าสิ่งทดลองที่ใช้สารฆ่าแมลงสารฟิโปรนิลมีค่าเฉลี่ยคะแนนประเมินความเสียหายของไม้เท่ากับ 10 หรือไม้อยู่ในสภาพดีไม่ถูกปลวกทาลาย ส่วนสิ่งทดลองที่ใช้น้ามันหอมระเหยใบชะพลูมีคะแนนประเมินความเสียหายของไม้เท่ากับ 9.83% หรือไม้ถูกทาลายเพียงเล็กน้อย ส่วนชุดควบคุมมีคะแนนประเมินความเสียหายของไม้เท่าหับ 8.10 หรือไม้ถูกทาลายปานกลาง แสดงให้เห็นว่าน้ามันหอมระเหยจากใบชะพลู มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นชีวภัณฑ์สาหรับการควบคุมปลวก ค้าส้าคัญ: น้ามันหอมระเหย, ชะพลู, ข่า, ส้มโอ, ปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ผศ.ดร. พัชราภรณ์ วาณิชย์ปกรณ์ | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 100 |