เปรียบเทียบคุณค่าทางโภชนาการ โลหะหนักตกค้าง สารสี และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของไข่น้ำ(Wolffia) จากธรรมชาติและการเลี้ยง

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2562
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2562
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา389
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระไข่น้ำจากธรรมชาติและจากการนำมาเลี้ยง ซึ่งไข่น้ำจากธรรมชาติได้เก็บตัวอย่างมาจากอำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และนำไข่น้ำจากธรรมชาติมาทำการเลี้ยงด้วยปุ๋ยมูลไก่เพื่อได้เป็นไข่น้ำจากการเลี้ยง การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีประกอบด้วย การศึกษาคุณค่าทางโภชนาการ ปริมาณแคโรทีนอยด์ ส่วนการศึกษาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวมและฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระเพื่อศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพซึ่งทำการสกัดด้วยน้ำด้วยตัวทำละลายที่ต่างกัน 3 ชนิดได้แก่ เอทิลอะซิเตท เอทานอล และเมทานอล ผลการศึกษาพบว่า ไข่น้ำจากธรรมชาติและการเลี้ยงมีคุณค่าทางโภชนาการ ปริมาณแคโรทีนอยด์ ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดและฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระ มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p<0.05) โดยพบว่า ในสารสกัดไข่น้ำจากธรรมชาติที่สกัดด้วยเมทานอลมีปริมาณฟีนอลิกสูงสุด เท่ากับ 38.499±2.789 mg GAE/g extract ส่วนของฤทธิ์ยับยั้ง DPPH radical พบว่าสารสกัดไข่น้ำจากธรรมชาติที่สกัดด้วยเอทานอลสามารถยับยั้งได้ดีที่สุด โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.018±0.00 mg/ml จากการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของค่า IC50 ของฤทธิ์กำจัดอนุมูลอิสระกับสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดพบว่าสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดมีความสัมพันธ์เชิงลบกับค่า IC50 ของฤทธิ์กำจัดอนุมูลอิสระ (r= - 0.264) คำสำคัญ: ผำ,อนุมูลอิสระ,จังหวัดพัทลุง
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. วรรณิณี จันทร์แก้วคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ70
2อัมพร รัตนมูสิกคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย30