โครงการวิจัย
ประสิทธิภาพของน้ำส้มควันไม้และสารสกัดสะเดาในการควบคุมปรสิตภายนอกในฟาร์มไก่ไข่ระบบเปิด
Efficiency of Wood Vinegar and Crude Neem Extract for Control External parasite of Laying Hensin Open System Farm
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2562 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2562 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | ประสิทธิภาพของน้ำส้มควันไม้และสารสกัดสะเดาในการควบคุมปรสิตภายนอก ในฟาร์มไก่ไข่ระบบเปิด สิริศักดิ์ ชีช้าง1 และ ธัญญารัตน์ สมสู่1 บทคัดย่อ การทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้น้ำส้มควันไม้และสารสกัดสะเดาในการควบคุมปรสิตภายนอกในฟาร์มไก่ไข่ระบบเปิด โดยใช้ไก่ไข่สายพันธุ์ทางการค้า Hy-line brown เพศเมีย อายุ 6 เดือน จำนวน 144 ตัวแบ่งออกเป็น 8 กลุ่มการทดลอง กลุ่มการทดลองละ 3 ซ้ำ คือ กลุ่มที่มีการใช้น้ำส้มควันไม้ในปริมาณ 2%, กลุ่มที่มีการใช้น้ำส้มควันไม้ในปริมาณ 4%, กลุ่มที่มีการใช้สารสกัดสะเดาปริมาณ 2%, กลุ่มที่มีการใช้สารสกัดสะเดาปริมาณ 4%, กลุ่มที่มีการใช้น้ำส้มควันไม้ผสมกับสารสกัดสะเดาปริมาณ 2%, กลุ่มที่มีการใช้น้ำส้มควันไม้ผสมกับสารสกัดสะเดาปริมาณ 4%, กลุ่มที่ใช้น้ำเปล่าและกลุ่มที่มีการใช้ Trichlorfon ในการกำจัดปรสิตภายนอกในไก่ไข่ แล้วทำการนับจำนวนไรไก่บริเวณขนในวันที่ 0, 1, 7, 14, 21 และ 28 จากการวัดค่าความเป็นกรด-ด่างพบว่าน้ำส้มควันไม้มีค่าความเป็นกรด-ด่างเท่ากับ 3.31 สารสกัดสะเดามีค่าความเป็นกรดด่างเท่ากับ 4.08 และน้ำส้มควันไม้ผสมสารสกัดสะเดามีค่าความเป็นกรด-ด่างเท่ากับ 3.77 และการศึกษาผลของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในการควบคุมปรสิตภายนอกพบว่า กลุ่มทดลองที่ได้รับ Trichlorfon มีประสิทธิภาพดีกว่ากลุ่มที่ได้รับ น้ำส้มควันไม้ความเข้มข้น 2%, น้ำส้มควันไม้ความเข้มข้น 4% และสารสกัดสะเดาความเข้มข้น 4% แต่มีประสิทธิภาพด้อยกว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดสะเดาความเข้มข้น 2% และกลุ่มที่มีการใช้น้ำส้มควันไม้ผสมกับสารสกัดสะเดาปริมาณ 2% และ 4%จากการศึกษาข้างต้นแนะนำฟาร์มไก่ไข่ระบบเปิดควรมีการสร้างโปรแกรมการกำจัดไรในไก่ไข่ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และสามารถนำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมาใช้ทดแทนการใช้สารเคมีได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงานและตัวสัตว์อีกด้วย |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | สิริศักดิ์ ชีช้าง | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 50 |
2 | ธัญญารัตน์ สมสู่ | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 50 |