โครงการวิจัย
การพัฒนาระบบการให้บริการเภสัชสนเทศด้วยฐานความรู้ออนโทโลยีกรณีศึกษางานเภสัชกรรม โรงพยาบาลควนขนุน จังหวัดพัทลุง
The Development of Drug Information Service System Base on Ontology Case Study:PharmaceuticalDepartmentKhuankhanun HospitalPhatthalung
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2562 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2562 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการให้บริการเภสัชสนเทศของงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลควนขนุนจังหวัดพัทลุง 2) เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ระบบ ผู้วิจัยได้ออกแบบและพัฒนาระบบ จากความต้องการของผู้ใช้งาน โดยกำหนดให้ระบบสามารถจัดเก็บ สืบค้น ข้อมูลเภสัชสนเทศได้ และพัฒนาตามกระบวนการพัฒนาออนโทโลยี และวงจรการพัฒนาระบบ (SDLC) สร้างต้นแบบออนโทโลยีด้วยโปรแกรม Protege และแปลงให้อยู่ในรูปแบบภาษา OWL ใช้ภาษา PHP สำหรับพัฒนาเว็บระบบในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชัน และเชื่อมโยงข้อมูลที่จัดเก็บในฐานข้อมูล MySQL เข้ากับต้นแบบออนโทโลยีที่อยู่ในภาษ า OWL ซึ่งระบบแบ่งการทางานเป็น 2 ส่วน คือ 1) ส่วนผู้ใช้งานระบบ และ 2) ส่วนผู้ดูแลระบบ การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อระบบจากผู้ใช้ 23 คน ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ พบว่า ความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.51 คำสำคัญ ระบบให้บริการเภสัชสนเทศ ออนโทโลยี |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | การพัฒนาระบบการให้บริการเภสัชสนเทศด้วยฐานความรู้ออนโทโลยีเป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศตามกระบวนการของการพัฒนาระบบเพื่อแก้ปัญหาและอำนวยความสะดวกในการให้บริการเภสัชสนเทศ โดยระบบถูกพัฒนาในรูปแบบของเว็บแอพพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกในเข้าถึงข้อมูล ฟังก์ชั่นงานหลักประกอบด้วยการให้บริการค้นหาข้อมูลเภสัชสนเทศและการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเภสัชสนเทศ ผลของการประเมินความพึงพอของผู้ใช้ระบบซึ่งประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก คือ การประเมินประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ ความเหมาะสมของการออกแบบส่วนประสานกับผู้ใช้ และ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้ 1. ด้านประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ พบว่าผู้ใช้มีความพึงพอใจเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ 4.49 อยู่ในเกณฑ์มาก โดยระบบอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลได้รับความพึงพอใจสูงสุดมีภาพรวมค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 และ ระบบสามารถเรียนรู้เพื่อใช้งานได้ง่ายได้รับความพึงพอใจน้อยที่สุดอยู่ที่ 4.35 2. ด้านความเหมาะสมของการออกแบบส่วนประสานกับผู้ใช้ พบว่าผู้ใช้มีความพึงพอใจเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ 4.35 อยู่ในเกณฑ์มาก โดยความเหมาะสมในการใช้สัญลักษณ์หรือรูปภาพการสื่อความหมายและความเหมาะสมในการวางตำแหน่งของส่วนประกอบบนจอภาพได้รับความพึงพอใจสูงสุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 และ ความเหมาะสมในการใช้ข้อความเพื่ออธิบายสื่อความหมายได้รับความพึงพอใจน้อยที่สุดอยู่ที่ 4.35 3. ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบ พบว่าผู้ใช้มีความพึงพอใจเฉลี่ยในภาพรวมอยู่ที่ 4.88 อยู่ในเกณฑ์มากที่สุด โดยการกำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานระบบและการควบคุมให้ใช้งานตามสิทธิ์ผู้ใช้ได้อย่างถูกต้องได้รับความพึงพอใจสูงสุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 และ ความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลได้รับความพึงพอใจน้อยที่สุดอยู่ที่ 4.65 โดยภาพรวมผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ของระบบอยู่ที่คะแนนเฉลี่ย 4.51 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มากที่สุด โดยมีค่าเบ่งเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.51 |
เอกสารประกอบโครงการ |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | นางชริยา นนทกาญจน์ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 100 |