ปีงบประมาณ |
2562 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ |
|
ลักษณะโครงการ |
โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ |
โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย |
โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) |
1 ตุลาคม 2561 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) |
30 กันยายน 2562 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) |
1 ตุลาคม 2561 |
ประเภททุนวิจัย |
งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ |
สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา |
ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม |
ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ |
บทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นงานวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียว และทำการตรวจก่อน-หลังการทดลอง เพื่อศึกษาประสิทธิผลของมณีเวชต่อการลดภาวะปวดประจำเดือนในสตรีวัยเจริญพันธุ์ งานวิจัยครั้งนี้ผ่านคณะจริยธรรมวิจัยในมนุษย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยทำการบันทึกแบบประเมินลงในโปรแกรม Epidata Version 3 และคํานวณค่าทางสถิติด้วยโปรแกรม Spss v.16 จากการศึกษาในครั้งนี้พบว่าอาสาสมัครมีอายุอยู่ในช่วง 18-23 ปี และมีค่าดัชนีมวลกายอยู่ในเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 40 ส่วนใหญ่ระดับของ PSIS อยู่ในระดับปกติร้อยละ 80 แนวกระดูกสันหลัง ร้อยละ 70 แต่พบว่าความยาวขาไม่เท่ากัน ร้อยละ 60 ค่าเฉลี่ยของระดับความเจ็บปวดก่อนทำการศึกษาเท่ากับ 7.85±1.18 และหลังทำการศึกษาเท่ากับ 5.10±1.37 ซึ่งมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ข้อมูลทางนรีเวชพบว่าหลังการทำกายบริหารด้วยมณีเวชสามารถช่วยปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย และระบบไหลเวียนส่งผลต่อการลดอาการปวดประจำเดือนและสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ การศึกษาครั้งนี้ สรุปได้ว่ามณีเวชช่วยลดระดับความเจ็บปวดของประจำเดือน เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือนโดยไม่ใช้ยา
คำสำคัญ: ปวดประจำเดือน, มณีเวช
|
รายละเอียดการนำไปใช้งาน |
จากการศึกษาความชุกและปัจจัยที่สัมพันธ์ในหญิงที่มีอาการปวดประจำเดือน ในระยะเวลา 60 วันตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม-19 ธันวาคม 2562 มีผู้เข้าร่วมวิจัยในครั้งนี้จำนวน 20 คน ช่วงอายุ 18-23 ปี มีอาการปวดประจำเดือน น้ำหนักของอาสาสมัครอยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกัน ระดับความเจ็บปวดตั้งแต่ 3-10 ค่าดัชนีมวลกายส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะสมในช่วง 18-23 กิโลกรัมต่อเมตร² การตรวจโครงสร้างร่างกายส่วนใหญ่ไม่พบความผิดปกติ มีเพียงบางรายเท่านั้นที่พบว่ามีการคดหรือเบี้ยวของกระดูกสันหลัง ความไม่สมมาตรของกระดูก PSIS และความยาวของขา
การศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่าการทำกายบริหารมณีเวชเป็นประจำสามารถช่วยปรับสมดุลโครงสร้างและระบบไหลเวียนของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อการลดระดับอาการปวดประจำเดือน และช่วยให้สามารถทำกิจวัตรประวันได้ตามปกติ และสามารถนำผลการศึกษาในครั้งนี้ไปใช้ทางคลินิกในสถานพยาบาลจริง เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือนโดยไม่ใช้ยา
ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าควรเพิ่มระยะเวลาในการทำการศึกษา ควรมีเกณฑ์คัดออกเมื่อมีการรับประทานยาหรือใช้วิธีอื่นบรรเทาและ ควรคัดอาสมัครที่เราเข้าถึงได้เพื่อง่ายต่อการติดตามผล
|
เอกสาร Final Paper(s) |
|