โครงการวิจัย
การสำรวจและประเมินศักยภาพการใช้ประโยชน์ผักกินใบพื้นบ้านเพื่อพัฒนาเป็นสวนผักคนเมือง
The Surveying and development the potential of native for edibles leave in Urban Communities.
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2562 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการต่อเนื่อง |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2562 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | 20483 |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | 265 บทที่ 4 สรุปผลการทดลอง การสํารวจพันธุผักพื้นบาน โดยสํารวจและวางแนวเก็บตัวอยาง ใชการวางแปลงแบบชั่วคราว Line Transect พื้นที่สํารวจละ 10 line ประกอบดวยอําเภอในจังหวัดนครศรีธรรมราช 9 อําเภอ ไดแก อําเภอทุงสง (อําเภอทุงสง มีจํานวน 2 line คือ ตําบลน้ําตก อําเภอทุงสง และพื้นที่ในอําเภอทุงสง) อําเภอสิชล อําเภอพระ พรหม อําเภอพิปูน อําเภอเชียรใหญ อําเภอชางกลาง อําเภอหัวไทร อําเภอลานสกา และอําเภอบางขัน โดยให ความกวาง x ยาว เปน 50 x 5000 เมตร/line รวมทั้งหมด 9 อําเภอ พบวา พรรณผักพื้นบานในพื้นที่ 9 อําเภอ ดังกลาวขางตนรวมทั้งหมด 4,236,978 ตน โดยจําแนกเปนกลุมไมคลุมดินมากที่สุด เทากับ 11 วงศ 33 ชนิด (จํานวน 2,662,272 ตน) คิดเปนรอยละ 62.83 รองลงมา คือ กลุมไมพุม 20 วงศ 35 ชนิด (จํานวน 671,282 ตน) คิดเปนรอยละ 15.84 กลุมกลุมไมเลื่อย 10 วงศ 19 ชนิด (จํานวน 521,320 ตน) คิดเปนรอยละ 12.30 พรรณไม ในกลุมไมยืนตนและกลุมไมน้ําพบนอยที่สุด พบวา กลุมไมยืนตน 20 วงศ 46 ชนิด (จํานวน 191,354 ตน) คิดเปน รอยละ 4.52 และกลุมไมน้ํา 5 วงศ 6 ชนิด (จํานวน 190,750 ตน) คิดเปนรอยละ 4.50 ผลการวิเคราะหคาดัชนีความหลากหลาย (diversity indices : H') ของผักพื้นบานในพื้นที่ 9 อําเภอ 10 line พบวา อําเภอหัวไทรมีคาดัชนีความหลากหลายมากที่สุด เทากับ 5.517 ดัชนีความหลากหลายสวนใหญแสดง ไวที่อําเภอหัวไทร เปน 5.517 ดัชนีความหลากหลายนอยที่สุดถูก คือ อําเภอชางกลาง เปน 3.985 และ ผลการวิเคราะหคาดัชนีความสม่ําเสมอในการกระจาย (Evenness indices) พบวา อําเภอหัวไทรมีคา ดัชนีความสม่ําเสมอในการกระจายมากที่สุด เทากับ 0.829 คาดัชนีความสม่ําเสมอในการกระจายของผักพื้นบาน สวนใหญแสดงไวที่อําเภอหัวไทร และอําเภอพิปูน และพบวาคาดัชนีความสม่ําเสมอในการกระจายต่ําสุดแสดงใน อําเภอชางกลาง การประเมินศักยภาพของผักกินใบพื้นบานเพื่อพัฒนาเปนสวนผักคนเมือง พบวา กลุมไมยืนตนของผักกิน ใบพื้นบานที่มีศักยภาพ พบวา มะมวงหิมพานตมีคะแนนการประเมินศักยภาพสูงสุด มีคะแนนเฉลี่ยเทากับ 0.76 (ระดับคะแนนดี) กลุมไมพุมของผักกินใบพื้นบานที่มีศักยภาพ พบวา เล็บครุฑใบฝอย และผักหวานบาน มีคะแนน การประเมินศักยภาพสูงสุด มีคะแนนเฉลี่ยเทากับ 0.81 (ระดับคะแนนดี) กลุมไมคลุมดินของผักกินใบพื้นบานที่มี ศักยภาพ พบวา กะเพราแดง กะเพราขาว ผักชีฝรั่ง ยี่รา และ โหระพา มีคะแนนการประเมินศักยภาพสูงสุด มี คะแนนเฉลี่ยเทากับ 0.86 0.86 0.86 0.86 และ 0.86 (ระดับคะแนนดี) และกลุมไมเลื้อยของผักกินใบพื้นบานที่มี ศักยภาพ พบวา พาโหม มีคะแนนการประเมินศักยภาพสูงสุด มีคะแนนเฉลี่ยเทากับ 0.81 (ระดับคะแนนดี) การประเมินศักยภาพโดยใชแบบสอบถาม ผลการศึกษา คือ การรับรูระบบสวนผักคนเมือง พบวา กลุม ตัวอยางที่ตองการปลูกผักกินใบเปนสวนผักคนเมืองสวนใหญเคยรับรูระบบสวนผักแนวตั้ง สวนผักในกระบอกไมไผ และสวนผักในสวนสาธารณะ คิดเปนรอยละ 100.00 100.00 และ 100.00 ตามลําดับ ชองทางขาวสารที่ไดรับรู เกี่ยวกับรูปแบบการปลูกผักกินใบ พบวา กลุมตัวอยางที่ตองการปลูกผักกินใบเปนสวนผักคนเมืองสวนใหญไดรับรู ถึงขาวสารมากที่สุดจากสื่อออนไลน คิดเปนรอยละ 79.1 ขอมูลความคิดเห็นที่มีตอระบบการปลูกผักกินใบพื้นบาน พบวา ดานสุขภาพและความพอเพียงอาหารที่ปลอดภัย คือ การปลูกผักกินใบพื้นบาน จะชวยใหสุขภาพอนามัย ของผูทําดีขึ้น เนื่องจากไดออกกําลังกายสม่ําเสมอ มีคาเฉลี่ยเทากับ 4.44 และดานการผลิตและผลตอบแทน คือ การปลูกผักกินใบพื้นบาน เปนการใชพื้นที่วางบริเวณบานใหเปนประโยชน มีคาเฉลี่ยเทากับ 4.60 และความ 266 ตองการในการปลูกผักกินใบพื้นบาน พบวา กลุมตัวอยางที่ตองการปลูกผักกินใบเปนสวนผักคนเมืองสวนใหญมี ความตองการปลูกผักกินใบพื้นบาน คิดเปนรอยละ 72.7 รูปแบบพื้นที่ที่ใชทําการปลูกผักกินใบพื้นบาน พบวา กลุม ตัวอยางที่ตองการปลูกผักกินใบพื้นบานสวนใหญมีพื้นที่ที่จะใชทําการปลูกผักกินใบพื้นบานรูปแบบสีเหลี่ยมผืนผา คิดเปนรอยละ 84.50 ขนาดพื้นที่ที่ใชทําการปลูกผักกินใบพื้นบาน พบวา พื้นที่ที่จะใชทําการปลุกผักกินใบพื้นบาน ของกลุมตัวอยางสวนใหญมีขนาดพื้นที่นอยกวา 1 เมตร คิดเปนรอยละ 58.2 รูปแบบเกษตรที่ปลูกผักกินใบ พื้นบานที่อยากทํา พบวา รูปแบบที่กลุมตัวอยางสนใจมากที่สุด คือ สวนผักแนวตั้ง คิดเปนรอยละ 53.60 และ กิจกรรมการปลูกผักกินใบพื้นบาน พืชที่กลุมตัวอยางตองการปลูกพบจํานวน 3 กลุม คือ กลุมไมยืนตน (มะกรูด เปนพืชที่ตองการปลูกมากที่สุด คิดเปนรอยละ 72.70) ไมพุม (ผักหวานเปนพืชที่ตองการปลูกมากที่สุด คิดเปนรอย ละ 52.70) และไมคลุมดิน (ขมิ้นและโหรพาเปนพืชที่ตองการปลูกมากที่สุด คิดเปนรอยละ 74.50 และ 74.50 ตามลําดับ) การพัฒนาผักกินใบยืนตนมีความนิยมนํามารับประทานมากที่สุด 3 ชนิด ไดแก มะกรูด มะมวงหิมพานต และมะกอก นํามาวางแผนการทดลองปลูกในกระถางที่มีขนาดตางกัน 3 ขนาด คือ ขนาด 12 ,15 และ 17 นิ้ว ผล ปรากฏวา การเจริญเติบโตดานความสูงตน พบวากระถางขนาด 17 นิ้ว มีคาเฉลี่ยความสูงตนมากที่สุด และชนิด พืช พบมะกอกมีคาเฉลี่ยความสูงตนมากที่สุด ซึ่งสรุปไดวามีปฏิสัมพันธระหวางขนาดกระถางและชนิดพืชที่สงผล ตอความสูงของผักกินใบยืนตน และปริมาณการแตกใบใหม พบวา กระถางขนาด 17 นิ้ว มีคาเฉลี่ยปริมาณการ แตกใบใหมมากที่สุด และชนิดพืช พบมะกรูดมีคาเฉลี่ยปริมาณการแตกใบใหมมากที่สุ ซึ่งสรุปไดวาการปฏิสัมพันธ ระหวางขนาดกระถางและชนิดพืชมีความแตกตางกันทางสถิติ แสดงวามีปฏิสัมพันธระหวางขนาดกระถางและชนิด พืชที่สงผลตอปริมาณการแตกใบใหมของผักกินใบยืนตน การพัฒนาผักพื้นบานกินใบขนาดเล็กที่มีความนิยมนํามารับประทานมากที่สุด 3 ชนิด ไดแก กะเพราขาว กะเพราแดง และโหรพา นํามาวางแผนการทดลองปลูกในกระถางที่มีขนาดตางกัน 3 ขนาด คือ ขนาด 6, 8 และ 10 นิ้ว ผลปรากฏวา การเจริญเติบโตดานความสูงตน พบวา กระถางขนาด 8 นิ้ว มีคาเฉลี่ยความสูงตนมากที่สุด และชนิดพืช พบโหรพามีคาเฉลี่ยความสูงตนมากที่สุด และตน และปริมาณการแตกใบใหม พบวากะเพราขาวมี คาเฉลี่ยปริมาณการแตกใบใหมมากที่สุด ซึ่งสรุปไดวาการปฏิสัมพันธระหวางขนาดกระถางและชนิดพืชไมมีความ แตกตางกันทางสถิติ แสดงวาไมมีปฏิสัมพันธระหวางขนาดกระถางและชนิดพืชที่สงผลตอปริมาณการแตกใบใหม ของผักกินใบ |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | รศ. วัฒนา ณ นคร | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 80 |
2 | ผศ. จรัญ ไชยศร | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |
3 | ชลชาสน์ ช่วยเมือง | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |