การผลิตถ่านกัมมันต์จากก้านใบปาล์มเพื่อชะลอการสุกของผลไม้

Production of Activated Carbon from Oil Palm Petiole delay ripening Fruits.

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2562
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2562
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
ประเภททุนวิจัย งบประมาณแผ่นดิน
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ งานวิจัยนี้ศึกษาการผลิตถ่านกัมมันต์จากก้านใบปาล์มโดยการกระตุ้นด้วยพลังงานไมโครเวฟ ขั้นตอนแรกการคาร์บอไนซ์ก้านใบปาล์มที่อุณหภูมิ 500 550 และ 600°C เป็นเวลา 60 นาที มีปริมาณคาร์บอนคงตัวร้อยละ 53.48 64.58 และ 64.76 ตามลำดับ แล้วนำก้านใบปาล์มคาร์บอไนซ์ที่ 550 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 60 120 และ 180 นาที พบว่าเวลาที่เหมาะสมคือ 60 นาที มีปริมาณความชื้นร้อยละ 4.36 สารระเหยร้อยละ 20.84 เถ้าร้อยละ 10.24 และคาร์บอนคงตัวร้อยละ 64.58 นำถ่านชาร์ที่ผ่านคาร์บอไนซ์ที่ 550°C(60 นาที) แช่สารละลายโซเดียมคลอไรด์อิ่มตัว ในอัตราส่วนถ่านชาร์ 1 กรัมต่อสารละลาย 1.94 กรัม เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นกระตุ้นด้วยรังสีไมโครเวฟ 800 วัตต์ วิเคราะห์พื้นที่ผิวด้วยเทคนิค BET พบว่าที่เวลาการกระตุ้น 0 5 10 15 20 และ 30 นาที มีพื้นที่ผิว 333.2 352.3 337.8 354.3 343.3 และ 330.1 ตารางเมตรต่อกรัม ปัจจัยที่ปริมาณถ่านกัมมันต์มีผลต่อที่มีผลต่อการดูดซับอนุภาคยาง จากผลการทดลองพบว่า ปริมาณถ่านกัมมันต์ที่เหมาะสมในการดูซับเท่ากับ 0.1 กรัมต่อมิลลิลิตร
รายละเอียดการนำไปใช้งาน จากการศึกษาอุณหภูมิการคาร์บอไนซ์ก้านใบปาล์ม พบว่าอุณหภูมิการเผามีผลต่อร้อยละของคาร์บอนคงตัวโดยร้อยละคาร์บอนจะเพิ่มตามอุณหภูมิที่เผาจนถึงอุณหภูมิ 550° C ค่าเริ่มคงที่ และปัจจัยเรื่องเวลาในการเผา ปริมาณร้อยละของคาร์บอนคงตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อน้ำถ่านชาร์เผาที่ 550°C เป็นเวลา 60 นาที ใช้ NaCl เป็นสารกระตุ้นและกระตุ้นด้วยไมโครเวฟที่ 800 วัตต์ ในการกระตุ้นมีผลต่อพื้นที่ผิวของถ่านกัมมันต์จะเพิ่มตามเวลาจนถึงเวลา 15 นาทีมีพื้นที่ผิวมากที่สุด และจะค่อยๆลดลงตามลำดับ การนำถ่านกัมมันต์มาใช้ประโยชน์โดยคำนึงถึงขนาดของรูพรุนที่ได้มีขนาดระดับไมโครเมตรใหญ่กว่าอนุภาคยางเล็กน้อย โดย ถ่านกัมมันต์จากก้านใบปาล์มสามารถดูดซับอนุภาคยางโดยการวัดปริมาณของแข็งทั้งหมดที่เหลืออยู่ในน้ำตัวอย่างที่ปริมาณถ่านกัมมันต์ร้อยละ 0.1 w/v ปริมาณของแข็งทั้งหมดมีค่าน้อยที่สุดและนำถ่านหลังการดูดซับถ่ายภาพด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด (SEM) จะเห็นมีอนุภาคยางในรูพรุนของถ่านกัมมันต์จากก้านทางปาล์ม
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1อนิรุทธิ์ ส่งศรีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ80
2ผศ. สำคัญ รัตนบุรีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20