โครงการวิจัย
การพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมของผู้สูงวัยสู่สังคมไทย 4.0
The Behavior Development in Social of ageing Thailand 4.0
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2562 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2562 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | บทคัดย่อ การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาบริบทและสภาพการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมของผู้สูงอายุ สู่สังคมไทย 4.0 และศึกษากระบวนการเรียนรู้และพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมของผู้สูงอายุสู่สังคมไทย 4.0 บ้านกองเสา ตำบลนาบอน อำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เป็นวิจัยเพื่อพัฒนา(R&D) โดยศึกษาข้อมูลจากเอกสาร (Documentary research) และศึกษาภาคสนาม ด้วยการ การสำรวจ การสังเกตปรากฏการณ์ การสัมภาษณ์ลึก การสนทนากลุ่ม (Focus Group) ผลการศึกษาพบว่า บริบทและสภาพการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมของผู้สูงอายุ พื้นที่ชุมชนบ้านกองเสาเป็นพื้นที่ราบดินอุดมสมบูรณ์ทำสวนยางพาราและสวนผลไม้เป็นหลัก คนในชุมชนเป็นเครือญาติมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแบบใกล้ชิด เป็นสังคมจารีตประเพณีนำ กระบวนการเรียนรู้และพัฒนาพฤติกรรมเกิดจากปัจจัยผลัก ด้านปัญหาสุขภาพกาย การต้องอยู่บ้านอย่างโดดเดี๋ยว จึงจำเป็นจะต้องเข้าสู่สังคมออนไลน์ เพื่อพัฒนาตนสู่สังคม 4.0 จึงเรียนรู้การใช้โทรศัพท์ออนไลน์ด้วยตนเอง ปัจจัยดึง คือคนที่เป็นสมาชิกกลุ่มผู้สูงอายุ ทำให้ได้ร่วมกิจกรรมและอยู่ในสังคมอย่างเป็นสุข เกิดพลังพัฒนาตนสู่สังคม 4.0 ทำให้ช่วยคลี่คลายปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิตของผู้สูงอายุ คำสำคัญ : พฤติกรรมทางสังคม, ผู้สูงวัย 4.0 |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | สรุปผลการวิจัย ผลการศึกษาบริบทและสภาพการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมของผู้สูงวัยสู่สังคมไทย 4.0 สังคมการเกษตร บ้านกองเสา เป็นพื้นที่ราบดินอุดมสมบูรณ์ คนในชุมชนมีอาชีพการเกษตร ทำสวนยางพาราเป็นอาชีพหลัก และอาชีพทำสวนผลไม้เป็นอาชีพรอง มีการปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์บริเวณรอบ ๆ บ้านไม่มากนัก บ้านและที่พักอาศัยกระจายตัวไปตามแนวถนน และบางส่วนในพื้นที่ทำกินบริเวณสวนผลไม้ ผู้สูงอายุบ้านกองเสาจึงเป็นคนทำการเกษตรมาเกือบตลอดชีวิตที่ผ่านมา เกือบทุกคนมีประสบการในการทำการเกษตร จึงยังคงปลูกผักและดูแลสัตว์เลี้ยงในบริเวณบ้าน พบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จึงใช้ชีวิตแบบพอเพียงได้เป็นอย่างดี สังคมใกล้ชิด คนในตำบลนาบอนส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกในเครือญาติไม่กี่ตระกูล การเคารพนับถือญาติ ระบบอาวุโส ทำให้ชาวกอเสาไปมาหาสู่ เยี่ยมญาติอย่างสม่ำเสมอ และเป็นสังคมเพื่อนบ้านที่สนิทสนม มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแบบใกล้ชิด การช่วยเหลือเรื่องแรงงาน อุปกรณ์ของใช้งานเกษตรแบบเอื้อเฟื้อต่อกันมีสูง สังคมจารีตประเพณีนำ ชาวกองเสาตระหนักและให้ความสำคัญกับประเพณีและความเชื่อทางพระพุทธศาสนาอย่างมาก เมื่อมีงานบุญ งานบ้านในชุมชน ผู้สูงอายุจะกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีเสมอ ในแต่ละปีจะมีงานตามเทศกาลอิงศาสนา และงานบ้านทั้งงานบวช งานแต่งงาน และงานศพฯ ผู้สูงอายุจะพยายามไปร่วมตามโอกาส และความสามารถในการเดินทาง รวมถึงการกดดันให้ลูกหลานเพื่อนบ้าน รับส่งอยู่เสมอ เมื่ออายุเข้าสู่วัยสูงอายุ ผู้มีอาชีพการเกษตร หรืออาชีพอื่น ๆ ในบ้านกองเสา เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายภาพและทางสังคม เปลี่ยนจากคนที่มีศักยภาพ มีความพร้อมในการประกอบอาชีพของตนลดลง รายได้ลดลง สุขภาพเริ่มมีปัญหาพร้อม ๆ กับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาลค่อยๆ เพิ่มขึ้น เมื่อสุขภาพกายและรายได้น้อยลง จึงต้องอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยวมากขึ้น โรคประจำตัวเกี่ยวกับสุขภาพผู้สูงอยุทำให้มีโอกาสซึมเศร้า ทำให้ปัญหาผู้สูงอายุค่อยๆ มากขึ้น ศักยภาพการดำเนินชีวิตที่พึ่งตนเองได้ลดต้องพึ่งพาลูกหลาน คนใกล้ชิดเป็นภาระต่อคนในสังคมรอบข้าง ชีวิตที่ผ่านวัยทำงานสู่วัยสูงอายุ ทำให้สภาพจิตใจ สุขภาพกาย และสังคม มีค่อยๆ มีผลต่อด้านลบต่อการดำเนินชีวิต การดิ้นรนเพื่อปรับตัว คือการได้ร่วมกิจกรรมสังคมตามแบบของผู้สูงอายุ ชมรมผู้สูงอายุบ้านกองเสา ตำบลนาบอน โดยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เป็นจุดเริ่มต้นที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ ชมรมจึงได้รับความร่วมมือ มีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมอย่างมาก เพราะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านกองเสา ทำให้มีโอกาสได้พบเพื่อน ญาติมิตรอย่างสม่ำเสมอ ผู้สูงอายุจะเพียรพยายามไปร่วมกิจกรรมของชมรมอย่างต่อเนื่อง |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | นางกฤตพร แซ่แง่ สายจันทร์ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 80 |
2 | ผศ.ดร. ฌาณิกา แซ่แง่ ชูกลิ่น | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |