โครงการวิจัย
แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมเปอรานากันเพื่อพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดตรังและภูเก็ต
Guidelines for conservations Peranakan culture to development of Potential attraction in Trang and Phuket Province.
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2560 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2559 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2560 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2559 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยมีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษา ลักษณะของวัฒนธรรมเปอรานากันในประเด็นด้านการแต่งกาย การกิน และประเพณีต่างๆ 2) เพื่อ ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลของนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่มาเที่ยวจังหวัดภูเก็ตกับการ จดจ าภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมเปอรานากัน โดยมีขั้นตอนในการท าวิจัยดังนี้กลุ่มตัวอย่างเชิงปริมาณ เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต จ านวน 400 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบสะดวก และ กลุ่ม ตัวอย่างในเชิงคุณภาพคือ พนักงานประจ าพิพิธภัณฑ์เปอรานากัน และลูกหลานที่สืบเชื้อสายเปอรานา กัน จ านวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการท าวิจัยประกอบด้วย แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ ค่าเฉลี่ย และร้อยละ ผลการวิจัย กลุ่มตัวอย่างโดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60.5 มีอายุระหว่าง 21-30 ปี สถานภาพแต่งงานแล้ว มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี มีอาชีพท าธุรกิจส่วนตัว และมีรายได้ 10,001-20,000 บาท โดยศึกษาตามวัตถุประสงค์ดังนี้ (1) การแต่งกายของชาวเปอรานากันเป็นการศึก ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะการแต่งกายของชาวเปอรานากันในจังหวัดภูเก็ตซึ่งชาวเปอรานา กันส่วนใหญ่จะแต่งกายด้วยชุด บ้าบ๋า และย่าหย่า โดยมีเครื่องประดับที่แตกต่างกันออกไปได้แก่ ชุด บ้าบ๋าจะใส่เสื้อคอตั้งแขนจีบติดกระดุมทอง กลัดปิ่นตั้ง และนุ่งผ้าปาเต๊ะ ชุดย่าหย่า ใส่ผ้าป่านหลายสี ปลายเสื้อด้านหน้าจะแหลมยาวด้านหลังสั่นกว่าคลุมสะโพก ประดับด้วย กอรอสัง และนุ่งผ้าปาเต๊ะ ชุด เจ้าสาว ใส่เสื้อบ้าบ๋าด้านในคลุมด้วยครุยยาว ประดับด้วยมงกุฎเจ้าสาว ต่างหูหางหงส์ สร้อยหลันเต๋ป๋าย แหวนบาเย๊ะ ก าไลข้อเท้า รองเท้าลูกปัด และนุ่งผ้าปาเต๊ะ ด้านการกินจะนิยมน าเอาวัตถุดิบในท้องถิ่น มาผสมผสานกับอาหารดั้งเดิมของชาวจีน และด้านประเพณี นิยมจัดงานประเพณีที่ระลึกถึงบรรพบุรุษ เช่น งานกินเจ (2) กลุ่มตัวอย่างมีความเห็นชอบให้มีการน าเอาวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวเปอรานา กันไปพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อสืบทอดและสงวนรักษาวัฒนธรรมการแต่งกายให้เป็น เอกลักษณ์ของคนในท้องถิ่น (2) ด้านการจดจ าภาพลักษณ์เป็นการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม นักท่องเที่ยวชาวไทย พบว่า อายุมีความสัมพันธ์กับภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมเปอรานากัน โดย นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดตรังและภูเก็ต จะมีอายุระหว่าง 21-30 ปี กลุ่มนี้จะมีการจดจ าวัฒนธรรม เปอรานากันประเภทการแต่งกาย มากที่สุด รองลงมาคือเทศกาลต่างๆ ด้านสถานภาพของนักท่องเที่ยว กลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับภาพลักษณ์ของวัฒนธรรมเปอรานากัน คือนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดตรัง และภูเก็ต ที่มีสถานภาพโสด มีการจดจ าวัฒนธรรมเปอรานากันประเภทการแต่งกายมากที่สุด |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ผศ. ฟ้าพิไล ทวีสินโสภา | วิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยว ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | หัวหน้าโครงการ | 80 |
2 | กิตติศักดิ์ ทวีสินโสภา | คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |
บทความประชุมวิชาการ
ที่ | บทความประชุมวิชาการ | ชื่อการประชุม | สถานที่จัดการประชุม | ปีที่จัดการประชุม (พ.ศ.) |
---|---|---|---|---|
1 | อัตลักษณ์และการรับรู้ภาพลักษณ์วัฒนธรรมเปอรานากันของนักท่องเที่ยวชาวไทยในจังหวัดตรังและภูเก็ต | การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ "สานสัมพันธ์วัฒนธรรมอาเซียน" ครั้งที่ 3 "ศิลปหัตถกรรมอาเซียน" | มหาวิทยาลัยวลักษณ์ลักษณ์ | 2561 |