การตรวจสอบคุณสมบัติและองค์ประกอบของน้ำนมแพะในจังหวัดนครศรีธรรมราช

Characterization and composition of goat milk in Nakhon Si Thammarat

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2562
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการพื้นฐาน
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2562
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การตรวจคุณสมบัติและองค์ประกอบของน้ำนมแพะในจังหวัดนครศรีธรรมราช กัตติเนตร สกุลสวัสดิพันธ์1 และ สิริศักดิ์ ชีช้าง1 บทคัดย่อ การศึกษาคุณสมบัติและองค์ประกอบของน้ำนมแพะในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการเก็บตัวอย่างจากแพะรีดนมทั้งหมด 4 ฟาร์ม ใน 3 พื้นที่ ได้แก่อำเภอนาบอน จำนวน 1 ฟาร์ม อำเภอเมืองจำนวน 1 ฟาร์ม อำเภอสิชลจำนวน 2 ฟาร์ม เก็บตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ (systemic random sampling) จากแพะนมทุกตัวภายในฟาร์มที่ให้ผลผลิตน้ำนม เก็บน้ำนมแพะปริมาณ 200 มิลลิลิตรต่อตัวอย่างรวมทั้งหมด 44 ตัวอย่าง นำตัวอย่างมาตรวจสอบคุณสมบัติทางกายภาพด้วยการดูลักษณะสีของน้ำนมแพะ การดมกลิ่นน้ำนมแพะ และลักษณะที่ปรากฎภายนอก พบว่าน้ำนมมีสีขาวนวล กลิ่นหอมนมปกติ ไม่มีสิ่งปนเปื้อนในน้ำนม มีน้ำนมแพะดิบผ่านเกณฑ์ตรวจสอบจำนวน 44 ตัวอย่าง คิดเป็น 100%การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของน้ำนมเฉลี่ยทั้งจังหวัดมีค่าองค์ประกอบที่ผ่านเกณฑ์มาตราฐานเมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (2551)ได้แก่ค่าไขมัน (Fat)3.62 %ความหนาแน่นของของเหลว (Density) 27.64 %น้ำตาลแลตโตส (Lactose)4.32 อุณหภูมิของน้ำนม (Temperature of milk)36ปริมาณเกลือ (Salt) 0.64 % ปริมาณของแข็งในน้ำนม (Total solids) 13.24 %pH6.5-6.8 ค่าความถ่วงจําเพาะ1.031 ค่าโซมาติกเซลล์688.68 µlและค่าองค์ประกอบที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตราฐานเมื่อเทียบกับเกณฑ์การประเมินของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (2551)ได้แก่ ของแข็งในนมที่ไม่รวมไขมัน (Solids not fat,SNF)7.84 %โปรตีน (Proteins)2.90 %ปริมาณน้ำ (Water content) 5.60 จุดเยือกแข็งน้ำนม (Freezing point) 0.5 % การทดสอบการตกตะกอนด้วยแอลกอฮอล์พบว่าน้ำนมแพะดิบให้ลักษณะของตะกอนที่มีขนาดใหญ่ คิดเป็น 36.40 %การทดสอบคุณภาพโดยการต้มน้ำนมดิบพบว่าไม่พบตะกอนในน้ำนมแพะตัวอย่างคิดเป็น 100% การทดสอบค่าแบคทีเรียโดยใช้สีเมธีลีนบลูพบว่ามีน้ำนมแพะดิบที่มีการเปลี่ยนแปลงของสีเมธีลีนบูลก่อน 4 ชั่วโมง9.10 % จากตัวอย่างทั้งหมด การวิเคราะห์หาปริมาณแบคทีเรียรวมโดยวิธี Standard Plate Count พบว่าจำนวนจุลินทรีย์ในน้ำนมแพะดิบทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ดีมาก 61.36% (<5x104 cfu/ml) และอีก 15.91% (5x104 -105cfu/ml) จัดอยู่ในเกณฑ์ดี การแยกเชื้อ Staphylococcus Aureus อาหาร Braid-Parker Agarพบว่าตัวอย่างน้ำนมแพะดิบ ทั้งหมดไม่พบเชื้อ S. aureus คิดเป็น 100% อยู่ในเกณฑ์มาตราฐานมาสารถนำไปผลิตเพื่อบริโภคได้
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1กัตติเนตร สกุลสวัสดิพันธ์คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ50
2สิริศักดิ์ ชีช้างคณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย50