โครงการวิจัย
แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้ประกอบการธุรกิจ SMEsเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในบริบทอาเซียน อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส
Guidelines to developing competency of entrepreneur’SMEs for enhance competitiveness in ASEAN context in Su-ngaiKolokNaratiwat Province
รายละเอียดโครงการ
| ปีงบประมาณ | 2562 |
| หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
| ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
| ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
| ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
| วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
| วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2562 |
| วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2561 |
| ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
| สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
| เลขที่สัญญา | |
| เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
| เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
| บทคัดย่อโครงการ | การเปิดเสรีการค้าบริการภายใต้ความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการของประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน ส่งผลให้ผู้ประกอบการการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย ต้องหันมาทบทวนและพิจารณาสมรรถนะของ ตัวผู้ประกอบการการค้า เพื่อให้องค์กรสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง สร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการ SMEs อ าเภอสุ ไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส 2) เพื่อประเมิน และพัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการ SMEs อ าเภอสุไหงโกลกจังหวัดนราธิวาส 3) เพื่อจัดท าโมเดลสมรรถนะของผู้ประกอบการ SMEsอ าเภอสุไหงโก-ลกจังหวัดนราธิวาส 4) เพื่อก าหนดแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันใน บริบทอาเซียนของอ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ และคุณภาพ โดยประชากรที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ ผู้ประกอบการ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลกจังหวัดนราธิวาส จ านวน 400 คน ส าหรับการสัมภาษณ์นั้นจะท าการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลกจังหวัด นราธิวาส นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามและแบบ สัมภาษณ์ การวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นมีค่าสูงกว่า 0.75 การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูป และ สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน T-test และ F-test ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 55.25 อายุ 41 – 50 ปี คิดเป็นร้อยละ 40.50 ประเภทของธุรกิจเป็นธุรกิจค้าปลีก คิดเป็นร้อยละ 46.50 ขนาดของธุรกิจเป็นแบบ ขนาดย่อม (การจ้างงานไม่เกิน 50 คน) คิดเป็นร้อยละ 96.72 ระยะเวลาด าเนินการของธุรกิจช่วง 5 – 10 ปี คิดเป็นร้อยละ 33.50 ความต้องการพัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีค่าโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.06 และความต้องการพัฒนาสมรรถนะของ ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการตลาด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ความต้องการพัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่มี เพศ อายุ ประเภทธุรกิจ ขนาดของธุรกิจ ที่แตกต่างกัน มีความต้องการพัฒนาสมรรถนะที่แตกต่างกัน ยกเว้น ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ที่มีสถานภาพทางธุรกิจที่แตกต่างกันมีความ ต้องการพัฒนาสมรรถนะที่ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยส าคัญทางสถิติ 0.05 การประเมินสมรรถนะของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พบว่า สมรรถนะของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีค่าโดยรวมอยู่ในระดับมาก มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.13 และสมรรถนะของผู้ประกอบการ SMEs ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านอัตมโนทัศน์มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.47 ส าหรับโมเดลสมรรถนะของผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มี 8 ด้าน คือ ภาวะผู้น า เทคโนโลยีการสื่อสาร จริยธรรมและกฎหมาย ความมุ่งมั่น การวางแผนเป็นระบบ การ แก้ไขปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การจัดการความเสี่ยง ส าหรับแนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้ประกอบการ ธุรกิจ SMEs อ าเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส มีดังนี้ 1) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรมีแลกเปลี่ยนปัญหา เพื่อ น ามาเป็นแนวทางในการปรับปรุงและก าหนดนโยบาย เปูาหมาย ยุทธศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม 2) รัฐบาล ควรมีการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการเงินในการก าหนดโครงการความร่วมมือในด้านการสนับสนุนเงินทุน ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs 3)หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเพิ่มทักษะในการแกไขปญหาและการตัดสินใจ กรณี เกิดสถานการณ์ต่าง ๆ 4) หน่วยงานภาครัฐควรมีการจัดเก็บข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับผู้ประกอบการ SMEs ให้มี ความถูกต้องและทันสมัย 5) สถาบันการศึกษาสามารถที่จะน าข้อมูลเป็นตัวอย่างในด้านกรณีศึกษา 6) สถาบันการศึกษา ควรมีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานที่นอกเหนือจากความรู้ ทางด้านวิชาชีพ |
| รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
| เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
| ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
|---|---|---|---|---|
| 1 | ผศ.ดร. อรพรรณ จันทร์อินทร์ | คณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 55 |
| 2 | ชาญวิทย์ จันทร์อินทร์ | มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |
| 3 | กิตติยา อินทกาญจน์ | คณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 15 |
| 4 | ดร. พินิจ ดวงจินดา | มหาวิทยาลัยทักษิณ | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |