การขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าใหม่ของธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัดตรัง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนประมงชายฝั่ง

Driving New Value Chain of Seafood Business in Trang Province to Boost Local Economy of Inshore Fishing Community

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2562
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการพื้นฐาน
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2562
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 14 มิถุนายน 2562
ประเภททุนวิจัย อื่นๆ
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญาSIP62A0012
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ

การขับเคลื่อนห่วงโซ่คุณค่าใหม่ของธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัดตรัง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนประมงชายฝั่ง บทคัดย่อ อภิรักษ์ สงรักษ์ 1* จีรวรรณ จันทร์คง2 เจษฎา ร่มเย็น3 บุญรัตน์ บุญรัศมี 4 วิชชุลฎา ถาวโรจน์ 5 และเสาวนีย์ ชัยเพชร6 โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื ่อการจัดการห่วงโซ่คุณค่าของผลผลิตสัตว์น้ำ เพื ่อยก เศรษฐกิจฐานรากของชาวประมงชายฝั่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการทรัพยากรผลผลิตสัตว์น้ำในกลุ่มอาหาร ทะเลให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ด้วยแนวคิดห่วงโซ่คุณค่า (Network value chain) มาเป็น กลไกขับเคลื่อน ซึ่งจะให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยการพัฒนาให้เกิด กลุ่มธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยแนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคม “Social Enterprise” การศึกษากำหนดใช้การวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานและเศรษฐกิจของระบบอาหารทะเลในจังหวัด ตรัง ครอบคลุมสัตว์น้ำในพื้นที่ คือ ปูม้า กุ้งแชบ๊วย ปลาทราย หมึกหอม และหอยตะเภา ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล รวม 10 ชุมชนชายฝั ่ง ของอำเภอหาดสำราญและอำเภอปะเหลียน วิเคราะห์สภาวะการประมง และมูลค่าการหมุนเวียนของเศรษฐกิจชุมชน ของลุ ่มตัวอย่าง 3 กลุ ่ม ประกอบด้วย ชาวประมงชายฝั ่ง ผู้ รวบรวมผลผลิตสัตว์น้ำในชุมชน และผู้ประกอบการร้านอาหารทะเล ผลการศึกษาพบว่าชาวประมงชายฝั่ง ในรอบการผลิตมีรายได้รวมสูงสุดจากการทำประมงปูม้า เท่ากับ 259,855.83 บาท รองลงมาคือ กุ้ง แชบ๊วย เท่ากับ 234,293.75 บาท และผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของการประมง ชายฝั ่ง ในสัตว์น้ำทั ้ง 5 ชนิดพบว่าการประมงกุ ้งแชบ๊วย มีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงที ่สุด 25.27 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือการประมงปูม้า มีผลตอบแทนจากการลงทุน เท่ากับ 21.27 เปอร์เซ็นต์ และ การประมงหมึกหอม ปลาทราย หอยตะเภา มีผลตอบแทนจากการลงทุน เท่ากับ 13.81 เปอร์เซ็นต์, 12.84 เปอร์เซ็นต์ และ 10.78 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ทั ้งนี ้ทางโครงการวิจัยได้พัฒนากิจกรรมเพิ ่มขับเคลื ่อนห่วงโซ่อุปทานใหม่ เพื ่อเพิ ่มกระบวนการ จัดการวัตถุดิบที ่ต้นทาง และการสร้างช่องทางการตลาดที ่ให้ผู ้รวบรวมในพื ้นที ่สามารถจำหน่ายผลผลิต สัตว์น้ำให้เพิ ่มขึ ้น ซึ ่งช่วยให้กิจกรรมตลอดห่วงโซ่การผลิตกระจายรายได้ตั ้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลาย น้ำ โดยการพัฒนาโมเดลธุรกิจในชื่อ แบรนด์กลางเล ซึ่งสามารถสร้างผู้ประกอบการใหม่ในพื้นที่ ส่งผลให้ ชุมชนชายฝั่งมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจากการประเมินมูลค่าที่เพิ่มขึ้นทางเศรษฐศาสตร์ พบว่าชุดความรู้ที่เกิดขึ้น และการพัฒนาธุรกิจชุมชนผ่าน กลางเลโมเดล สามารถสร้างการกระจายรายได้และเศรษฐกิจหมุนเวียน ให้กับผู ้มีส่วนเกี ่ยวข้องตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยผลผลิตปูม้า มีมูลค่ารวมเพิ ่มขึ ้น 68.16 เปอร์เซ็นต์ กุ ้งแซ บ๊วยมีมูลค่ารวมเพิ ่มขึ ้น 84.92 เปอร์เซ็นต์ และผลผลิตอาหารทะเลกลุ ่มรอง ประเภทปลาทราย มีมูลค่า รวมเพิ่มขึ้น 84.16 เปอร์เซ็นต์ และหมึกหอม มีมูลค่ารวมเพิ่มขึ้น 78.98 เปอร์เซ็นต์  

รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1อภิรักษ์ สงรักษ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ25
2ศุภวัฒน์ อินทร์เกิดคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
3เจษฏา ร่มเย็นคณะเทคโนโลยีการจัดการ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10
4บุญรัตน์ บุญรัศมีคณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย10
5ดร. วิชชุลฎา ถาวโรจน์คณะศิลปศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย10
6ผศ.ดร. เสาวณีย์ ชัยเพชรคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10
7จรีวรรณ จันทร์คงคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10