โครงการวิจัย

ผลของสารสกัดหยาบจากใบทุเรียนเทศต่อการควบคุมโรคเหี่ยวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum

The Effect of Annona muricata Leaf Crude Extract for Controlling Bacterial Wilt cause by Ralstonia solanacearum

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2563
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2562
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2563
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2562
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา001
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ผลของสารสกัดหยาบจากใบทุเรียนเทศต่อการควบคุมโรคเหี่ยวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum พรศิลป์ สีเผือก1 และ พัชราภรณ์ วาณิชย์ปกรณ์1 บทคัดย่อ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบจากใบทุเรียนเทศ ในการควบคุมโรคเหี่ยวเขียวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Ralstonia solanacearum ทาการสกัดสารจากใบทุเรียนเทศด้วยตัวทาละลายเอทานอลความเข้มข้น 99.99 เปอร์เซ็นต์ ทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศต่อการเจริญของเชื้อ R. solanacearum ในห้องปฏิบัติการ โดยวิธี paper disc diffusion และ double layer บนอาหารเลี้ยงเชื้อ NA วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (Completely Randomized Design; CRD) จานวน 8 กรรมวิธี 4 ซ้า ประกอบด้วย สารสกัดหยาบจากทุเรียนเทศความเข้มข้น 1.0, 3.0, 5.0, 7.0 และ 10.0 เปอร์เซ็นต์ เปรียบเทียบกับ เอทานอล 99.99 เปอร์เซ็นต์ คอปเปอร์ ไฮดรอกไซด์ (copper hydroxide) และน้ากลั่นนึ่งฆ่าเชื้อ (ชุดควบคุม) ผลการศึกษาประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ R. solanacearum ของสารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศโดยวิธี paper disc diffusion พบความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสาคัญยิ่ง (P<0.01) ความเข้มข้นของสารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศ 10.0 เปอร์เซ็นต์ มีประสิทธิภาพสูงสุดในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ R. solanacearum เท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์ ตลอดการทดลอง เช่นเดียวกับการใช้ คอปเปอร์ ไฮดรอกไซด์ รองลงมาคือ การใช้สารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศที่ระดับความเข้มข้น 7 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อเท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 14 ของการทดลอง ในขณะที่การใช้สารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศที่ระดับความเข้มข้น 5.0, 3.0 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ R. solanacearum เท่ากับ 48.75, 24.75 และ 24.75 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ สาหรับการใช้เอทานอล 99.99 เปอร์เซ็นต์ ประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อ R. solanacearum เท่ากับ 23.75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการใช้น้ากลั่นนึ่งฆ่าเชื้อ (ชุดควบคุม) ไม่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ R. solanacearum ผลการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศ โดยวิธี double layer เป็นไปในทิศทางเดียวกับวิธี paper disc diffusion พบว่า การใช้สารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศความเข้มข้น 10 เปอร์เซ็นต์ มีประสิทธิภาพในการยับยั้งสูงสุด ไม่พบโคโลนีของเชื้อ R. solanacearum เจริญบนอาหาร NA เช่นเดียวกับการใช้คอปเปอร์ ไฮดรอกไซด์ ไม่พบความแตกต่างทางสถิติ รองลงมาคือ การใช้สารสกัดใบทุเรียนเทศที่ระดับความเข้มข้น 7.0, 5.0, 3.0 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ พบจานวนโคโลนีที่นับได้ เท่ากับ 56.35, 148.93, 260.75 และ 275.75 x 104 cfu/ml ตามลาดับ 1 สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ง ในขณะที่การใช้เอทานอล 99.99 เปอร์เซ็นต์ และน้ากลั่นนึ่งฆ่าเชื้อ พบจานวนโคโลนีที่นับได้มากที่สุด เท่ากับ 311.23 และ 325.75 x 104 cfu/ml ตามลาดับ ผลการศึกษาประสิทธิภาพในการยับยั้งการเกิดโรคเหี่ยวของต้นดาวเรือง พบความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสาคัญยิ่ง (P<0.01) การใช้คอปเปอร์ ไฮดรอกไซด์ ทาให้พืชเกิดโรคน้อยที่สุด เท่ากับ 6.67 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา คือการใช้สารสกัดหยาบใบทุเรียนเทศที่ระดับความเข้มข้น 10.0 เปอร์เซ็นต์ การเกิดโรค เท่ากับ 10.00 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่การใช้สารสกัดใบทุเรียนเทศที่ระดับความเข้มข้น 7.0, 5.0, 3.0 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ พบการเกิดโรคเหี่ยว เท่ากับ 16.67, 36.67, 50.00 และ 50.00 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ ในขณะที่การใช้เอทานอล 99.99 เปอร์เซ็นต์ และ น้ากลั่นนึ่งฆ่าเชื้อ พบการเกิดโรคเหี่ยวเท่ากับ 80.00 และ 90.00 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ ผลการทดสอบการควบคุมปริมาณเชื้อ R. solanacearum ในดินทดสอบปริมาณเชื้อทดสอบเริ่มต้น 1 x 108 cfu/ml พบความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสาคัญยิ่ง (P<0.01) การใช้ คอปเปอร์ ไฮดรอกไซด์ ทาให้ปริมาณเชื้อในดินเหลือน้อยที่สุด เท่ากับ 1.16 x 104 cfu/ml รองลงมา คือ การใช้สารสกัดใบหยาบทุเรียนเทศ ความเข้มข้น 10.0, 7.0, 5.0, 3.0 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณเชื้อ R. solanacearum ลดลงอยู่ในช่วง 2.10 x 104 -- 1.98 x 107 cfu/ml ในขณะที่การใช้เอทานอล 99.99 เปอร์เซ็นต์ และน้ากลั่นนึ่งฆ่าเชื้อ ปริมาณเชื้อ R. solanacearum เท่ากับ 2.46 และ 4.13 x 108 cfu/ml ตามลาดับ คาสาคัญ: ทุเรียนเทศ, โรคเหี่ยวแบคทีเรีย, สารสกัดหยาบ, R. solanacearum จ The Efficacy of Annona muricata Leaf Crude Extract for Controlling Bacterial Wilt caused by Ralstonia solanacearum Pornsil Seephueak1 and Patcharaporn Vanichpakorn1 Abstract The objective of this research was to study the efficacy of using a crude extract of Annona muricata leaves for controlling Ralstonia solanacearum caused bacterial wilt disease. The experimental design was set up in Completely Randomized Design (CRD) which consisted of 8 treatments and 4 replications including making a crude extract of soursop leaves by using 99.99 % ethanol diluted with distilled water to a concentration of 1.0, 3.0, 5.0, 7.0 and 10.0 %, respectively, compared with 99.99 % ethanol, copper hydroxide and distilled water (control). The experimental measurements were by paper disc diffusion and double layer on nutrient agar (NA) at 28 days of collecting data. For the paper disc diffusion method showed the statistical difference was significant (P<0.01). The results showed that the greatest efficiency of inhibition of R. solanaceraum was found when the crude extract concentrations of 10.00 % were used. That was the highest as same as used with copper hydroxide. The inhibited were obtained to 100.00 % throughout the inoculation. This was followed by the use of 7.0 % crude extract of soursop leaves which inhibited the R. solanacearum and was obtained at a concentration of 100.00 % at 14 days after being inoculated. On the other hand, use of crude extract of soursop leaves concentration 5.0, 3.0 and 1.0 % resulted in the inhibition that was obtained 48.75, 24.75 and 24.75 %, respectively. The use of 99.99 % ethanol showed the percentage of inhibition obtained was 23.75 %. The use of distilled water was not effective for inhibition R. solanacearum. The efficiency of using a crude extract of soursop leaves for inhibition R. solanacearum by the double layer method showed results according to the paper disc diffusion method. Use of 10% crude extract of soursop leaves showed the highest percentage inhibition, with no detected colony of R. solanacearum on NA media which was the same result as with the use of copper hydroxide. Followed by use of crude extract of soursop leaves at a concentration of 7.0, 5.0, 3.0 and 1.0 %, the number of colonies that were obtained was 56.35, 148.93, 260.75 and 275.75 x 104 ฉ cfu/ml, respectively. On the other hand, use of 99.99 % solution of ethanol and distilled water resulted in the number of colonies obtained being 311.23 and 325.75 x 104 cfu/ml, respectively. Tests of the efficiency of use of crude extract of soursop leaves for inhibition of bacterial wilt disease of Morning gold (Tagetes spp.) showed that the statistical difference was significant (P<0.01). The use of copper hydroxide showed the lowest level of wilt disease which was 6.67 %. Followed by application of crude extract of soursop leaves at a concentration 10.0 %, the disease was obtained at a level of 10.00 %. On the other hand, the use of crude extract of soursop leaves at concentrations of 7.0, 5.0, 3.0, 1.0 % resulted in the following levels of wilt disease being obtained 16.67, 36.67, 50.00 and 50.00 %, respectively. While, use of 99.99 % ethanol and distilled water the wilt disease showed up as 80.00 % and 90.00 %, respective. The efficiency of a crude extract of soursop leaves for the control of R. solanacearum in soil by use of 1 x 108 cfu/ml of an initial inoculum showed a statistical difference that was significant (P<0.01). Use of copper hydroxide showed the lowest levels of inoculum were obtained 1.16 x 104 cfu/ml. Followed by the use of 10.0, 7.0, 5.0, 3.0 and 1.0 % of a crude extract of soursop leaves the inoculum of R. solanacearum was obtained in amounts as follows 2.10 x 104 - 1.98 x 107 cfu/ml. With the use of 99.99 % ethanol and distilled water the inoculum of R. solanacearum were obtained at 2.46 and 4.13 x 108 cfu/ml, respectively. Keywords: Annona muricata, bacterial wilt, crude extract, R. solanacearum 1 Division of Agriculture Science, Faculty of Agriculture, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Thung Yai District, Nakhon Si Thammarat Province
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1พรศิลป์ สีเผือกคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ60
2ผศ.ดร. พัชราภรณ์ วาณิชย์ปกรณ์คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย40