โครงการวิจัย
การพัฒนาผลิตภัณฑ์เหยื่อพิษผสมน้ำมันหอมระเหยจากใบทุเรียนเทศเพื่อควบคุมปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus
Product Development of Poisoned Bait Mixed with Essential oils from Annona muricata Leaf for Controling Subterranean Termite,Coptotermes curvignathus
รายละเอียดโครงการ
| ปีงบประมาณ | 2563 |
| หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
| ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
| ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
| ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
| วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2562 |
| วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2563 |
| วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2562 |
| ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
| สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
| เลขที่สัญญา | 002 |
| เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
| เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
| บทคัดย่อโครงการ | บทคัดย่อ ความเสี่ยงจากการใช้สารฆ่าแมลงสังเคราะห์เพื่อควบคุมปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus ในสวนยาง ที่มีต่อสภาพแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ นาไปสู่ความสนในสารธรรมชาติจากพืช การวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของน้ามันหอมระเหยที่มีส่วนผสมระหว่างน้ามันหอมระเหยจากใบทุเรียนเทศกับดอกกานพลูหรือเปลือกส้มโอ เพื่อเป็นทางเลือกในการควบคุมปลวกใต้ดินสายพันธุ์ C. curvignathus โดยศึกษาพิษทางการกินของน้ามันหอมระเหยผสมอัตราส่วนต่างๆ แล้วคัดเลือกอัตราส่วนที่เหมาะสมนามาศึกษาประสิทธิภาพในการรักษาเนื้อไม้ การถ่ายทอดพิษของน้ามันหอมระเหยผสมจากปลวกงานที่ได้รับพิษสู่ปลวกงานปกติ และประสิทธิภาพในการควบคุมปลวกสายพันธุ์ดังกล่าวในสวนยาง ผลการทดสอบพบว่า น้ามันหอมระเหยจากใบทุเรียนเทศผสมกับน้ามันหอมระเหยจากดอกกานพลูความเข้มข้น 4,000 พีพีเอ็ม ในอัตราส่วน 25:75, 50:50 และ 75:25 มีพิษทางการกินสูงสุด ทาให้ปลวกตาย 100% ในวันแรกของการทดสอบ น้ามันหอมระเหยที่มีส่วนผสมระหว่างน้ามันหอมระเหยจากใบทุเรียนเทศและดอกกานพลู อัตราส่วน 25:75 ความเข้มข้น 4,000-10,000 พีพีเอ็ม มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาเนื้อไม้ในระยะเวลา 1 เดือน โดยพบการตายสะสมของปลวก 100% และมีน้าหนักไม้สูญหาย 3.16-4.08% แตกต่างอย่างมีนัยสาคัญยิ่งทางสถิติกับชุดควบคุม ซึ่งพบการตายของปลวก 35.00% และมีน้าหนักไม้สูญหาย 10.20% น้ามันหอมระเหยผสมดังกล่าวอัตราส่วน 25:75 ความเข้มข้น 4,000 พีพีเอ็ม มีประสิทธิภาพในการรักษาเนื้อไม้นาน 4 เดือน โดยพบการตายสะสมของปลวก 90.00% และมีน้าหนักไม้สูญหาย 3.76% ปลวกที่ได้รับน้ามันหอมระเหยดังกล่าวนาน 50 นาที สามารถถ่ายทอดพิษทาให้ปลวกงานปกติตายสูงสุดเท่ากับ 98.00% ส่วนปลวกที่ได้รับน้ามันหอมระเหยนาน 10 นาที ถ่ายทอดพิษทาให้ปลวกงานปกติตายต่าสุด 63.00% สาหรับประสิทธิภาพการควบคุมปลวกใต้ดินสายพันธุ์ C. curvignathus ในสวนยางของน้ามันหอมระเหยที่มีส่วนผสมระหว่างน้ามันหอมระเหยจากใบทุเรียนเทศและดอกกานพลู อัตราส่วน 25:75 ความเข้มข้น 4,000, 8,000 และ 10,000 พีพีเอ็ม เปรียบเทียบกับสารฆ่าแมลงไบเฟนทริน (bifenthrin) พบว่า น้ามันหอมระเหยทุกความเข้มข้นมีประสิทธิภาพในการควบคุมปลวกไม่แตกต่างทางสถิติกับสารฆ่าแมลงไบเฟนทริน โดยพบปลวกในกับดัก 0.00-14.67 ตัว มีน้าหนักไม้ที่สูญหาย 6.08-14.15% และมีคะแนนประเมินความเสียหายของไม้จากการทาลายของปลวกในช่วง 9.50-10.00 คะแนน ในขณะที่ชุดควบคุมพบปลวก 50.67 ตัว มีน้าหนักไม้ที่สูญหาย 38.99% และมีคะแนนประเมินความเสียหายของไม้ 6.67 คะแนน ผลการทดสอบอาจสรุปได้ว่า น้ามันหอมระเหยที่มีส่วนผสมระหว่างน้ามันหอมระเหยจากใบทุเรียนเทศและดอกกานพลู อัตราส่วน 25: 75 ความเข้มข้นตั้งแต่ 4,000 พีพีเอ็มขึ้นไปมีศักยภาพใช้เป็นทางเลือกในการควบคุมปลวก C. curvignathus ในสวนยางได้ ค้าส้าคัญ: น้ามันหอมระเหย, ทุเรียนเทศ, กานพลู, ส้มโอ, ปลวกใต้ดินสายพันธุ์ Coptotermes curvignathus Abstract The risk of using synthetic insecticides for control subterranean termite, Coptotermes curvignathus, in rubber plantation, to the environment and human health, has led to attention in natural compounds. This study aimed to evaluate the effects of essential oil blends between essential oils from Annona muricata Leaf and Syzygium aromaticum flower bud or Citrus grandis peel as an alternative for controlling C. curvignathus. The feeding toxicity of the essential oil blends at various ratios was investigated against C. curvignathus. The wood protection, toxicant transmission and efficacy of the suitable ratio of the essential oil blends in rubber plantation were also studied. The blends between essential oils from A. muricata Leaf and S. aromaticum flower bud at 4,000 ppm in the ratios of 25:75, 50:50 and 75:25 were the most toxc with termite mortality of 100.00% within 1 day of exposure. The essential oil blends between essential oils from A. muricata Leaf and S. aromaticum flower bud in the ratio of 25:75 at 4,000-10,000 ppm caused 100.00% termite mortality and gave the wood weight loss of 3.16-4.08% which was significantly less than that of the control, 10.20% at 1 month of exposure. The blends at 4,000 ppm in the ratio of 25:75 also could protect woods from termite infestation up to 4 months. They gave 90.00% termite mortality and the wood weight loss of 3.76% within 4 months. In stransfer studies, the highest recipient mortality of 98.00% was obtained when they were released with the donors exposed to the essential oil blends at 4,000 ppm in the ratio of 25:75 for 50 minutes. Toxicant transfer from donor exposed to the essential oil blends at the same concentration and ratio for 10 minutes caused the lowest recipient mortality (63.00%). Additionally, the essential oil blends at 4,000, 8,000 and 10,000 ppm in the ratio of 25:75 gave satisfactory control of C. curvignathus in rubber plantation compared to bifentrin within 3 months. They caused wood weight loss ranging from 7.13-14.15% and visual rating score for termite attack of 9.50-10.00. On the other hand, the highest wood weight loss of 38.99% and the lowest visual rating score for termite attack of 6.67 were obtained from the control. The results revealed that the blends between essential oils from A. muricata Leaf and S. aromaticum flower bud at least 4,000 ppm in the ratio of 25:75 have potential as an alternative for C. curvignathus in rubber plantation Keywords: essential oil, Annona muricata, Syzygium aromaticum, Citrus grandis, Coptotermes curvignathus |
| รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
| เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
| ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
|---|---|---|---|---|
| 1 | ผศ.ดร. พัชราภรณ์ วาณิชย์ปกรณ์ | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 75 |
| 2 | ผศ.ดร. ยืนยง วาณิชย์ปกรณ์ | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 25 |