การพัฒนาเทคนิคโครมาโทกราฟีของเหลวสมรรถนะสูงแบบอัลตร้าโดยใช้ของเหลวไอออนิคเป็นสารเติมแต่งเฟสเคลื่อนที่สำหรับวิเคราะห์หาปริมาณสารกลุ่มบีตาอะโกนิสต์ที่ตกค้างในเนื้อสัตว์

Development of Ultra High Performance Liquid Chromatography using ionic liquids as mobile phase additive for simultaneous determination of beta-agonist residues in meat

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2563
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2562
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2563
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 7 กุมภาพันธ์ 2563
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาศักยภาพและข้อจากัดของการใช้ของเหลวไอออนิคเป็นสารเติม แต่งเฟสเคลื่อนที่เพื่อวิเคราะห์หาปริมาณซาลบูทามอลและเคลนบูเทอรอลได้พร้อมกัน ด้วยเทคนิคUHPLC จากงานวิจัยพบว่า สามารถใช้ 0.5 mM 1-บิวทิล-3-เมทิลอิมมิดาโซเลียม เตตราฟูออโรบอเรท pH 3.0 เป็น เฟสเคลื่อนที่ในเทคนิค UHPLC เพื่อวิเคราะห์หาปริมาณซาลบูทามอลและเคลนบูเทอรอลได้พร้อมกัน หลักใน การแยกสารคืออาศัยการแข่งขันระหว่างอิมมิดาโซเดียม แคทไอออน(Imidazolium cation) และหมู่ที่มีขั้ว (Polar group) ของสารที่ต้องการจะวิเคราะห์(Analytes) กับหมู่ไซลานอล(Silanol group) บนผิวอัลคิลซิลิกา (Alkylsilica surface) ทาให้เกิดการแยกขึ้น ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าการใช้สารละลายไอออนิกเป็นเฟสเคลื่อนที่ นั้นให้ผลการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและเที่ยงตรงในเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับได้ โดยสภาวะที่ใช้คือ อัตราการไหล 0.5 ml/min; ตรวจวัดที่ความยาวคลื่น 280 nm; คอลัมน์ชนิด C18 ขนาด 100 mm. x 2.1 mm. โดยที่การ วิเคราะห์ซาลบูตามอล มี % recovery อยู่ในช่วง 88.12 – 105.0% (n = 6) สาหรับตัวอย่างที่ถูกเติม (spiked) ที่ 3 ความเข้มข้น( 1, 4 และ 8 mg/L) มีค่าขีดต่าสุดที่วิธีทดสอบสามารถตรวจได้ (Limit of detection ; LOD) เท่ากับ 0.25 mg/L และมีค่าขีดต่าสุดที่วิธีทดสอบได้และรายงานอย่างมีความถูกต้องและ แม่นยา(Limit of Quantitation ; LOQ) เท่ากับ 1.00 mg/L มีค่า system linearity อยู่ในช่วง 0.25 – 8 mg/L (R2 = 0.993) และมีค่า Method linearity อยู่ในช่วง 1 – 8 ppm(R2 = 0.990) เคลนบูเทรอล มี % recovery อยู่ในช่วง 94.01 – 103.11% (n = 6) สาหรับตัวอย่างที่ถูกเติม(spiked) ที่ 3 ความเข้มข้น( 1, 4 และ 8 ppm) มีค่าขีดต่าสุดที่วิธีทดสอบสามารถตรวจได้ (Limit of detection ; LOD) เท่ากับ 0.50 mg/L และมีค่าขีดต่าสุดที่วิธีทดสอบได้และรายงานอย่างมีความถูกต้องและแม่นยา(Limit of Quantitation ; LOQ) เท่ากับ 1.00 mg/L มีค่า system linearity อยู่ในช่วง 1 – 8 (R2 = 0.995) และมีค่า Method linearity อยู่ ในช่วง 1 – 8 mg/L (R2 = 0.991) เมื่อนาวิธีการวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นไปวิเคราะห์หาปริมาณซาลบูตามอล และเคลนบูเทรอลในตัวอย่างเนื้อสุกรและเนื้อโค ตรวจพบ ซาลบูตามอล ในเนื้อสุกร 0.8935 mg/L ในเนื้อโค 4.4485 mg/L จากตลาดสด 1 สาหรับเคลนบูเทรอลตรวจไม่พบทั้งในเนื้อสุกรและเนื้อโคทั้งจากตลาดสด 1 และ 2 การใช้สารละลายไอออนิกเป็นเฟสเคลื่อนที่นั้นยังเป็นการลดการใช้ตัวทาละลายอินทรีย์ซึ่งเป็น อันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งโดยทั่วไปการวิเคราะห์ตัวยากลุ่มนี้จะใช้ตัวทาละลายอินทรีย์เป็นเฟส เคลื่อนที่ในเทคนิค HPLC นอกจากนี้แล้ววิธีการวิเคราะห์ที่ถูกพัฒนาขึ้นในงานวิจัยนี้เป็นการใช้ระบบการชะ แบบไอโซเครติกซึ่งง่ายในการปฏิบัติงานอีกด้วย ความเที่ยงของการวิเคราะห์แสดงด้วยค่าส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานสัมพัทธ์ (%RSD) พบว่ามีค่าไม่เกิน10% คาสาคัญ : ซาลบูทามอล เคลนบูเทอรอล ของเหลวไอออนิค เฟสเคลื่อนที่ ........................................................................................................................................................ 1คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 2 คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ.ดร. กฤตยา หนูสายคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ70
2ผศ.ดร. เสาวณีย์ ชัยเพชรคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย30