โครงการวิจัย
การพัฒนาระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะเพื่อประเมินการขับขี่ปลอดภัยของรถตู้โดยสารสาธารณะและรถบรรทุกขนส่ง
Development 0f intelligent system of logistic to evaluate safe driving behaviors of passenger van and truck transportation
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2561 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการวิจัยและพัฒนา |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2560 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2561 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 กันยายน 2560 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณแผ่นดิน |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | งานวิจัยนี้ประกอบด้วยการพัฒนาและวิเคราะห์ข้อมูลจุดเกิดอุบัติเหตุ การตรวจสอบความ ปลอดภัยทางถนน และการทำระบบติดตามยานพาหนะสำหรับประเมินการขับขี่ปลอดภัย สถิติและลักษณะสาเหตุของอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก พบว่า อุบัติเหตุ ส ่วนใหญ ่เกิดขึ้นในช ่วงเวลาหัวรุ ่ง ในระหว ่าง 04.01 – 08.00 น. โดยปัจจัยเกิดจากการหลับใน เนื่องจากความล้าและหลับใน เนื่องจากร่างกายถูกใช้งานผิดไปจากฬิกาชีวิต ที่ช่วงเวลากลางคืนนั้น สมควรจะเป็นเวลาพักผ่อน ประกอบกับขับรถขนาดใหญ่ที่ร่างกายต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ ใน ด้านความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดอุบัติเหตุกับขนาดรถโดยสารสาธารณะนั้น พบว่า รถโดยสาร 1 ชั้น และรถตู้โดยสาร มีจำนวนการเกิดเหตุมากกว่ารถขนาดอื่น ๆ ซึ่งอธิบายได้ว่าเกิดจากกายภาพขนาด ของรถทั้งคู่ที่มีความคล่องตัวกว่ารถขนาดอื่น ๆ ไม่ว่าจะรถโดยสารสองชั้นที่มีน้ำหนักและขนาดใหญ่ กว่า ทำให้เร่งหรือทำความเร็วได้ช้ากว่า ด้านรถสองแถวที่มักจะขับภายในตัวจังหวัด มีการจอด รับส่งผู้โดยสารตลอดทาง ทำให้เร่งความเร็วได้ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับรถโดยสารหนึ่งชั้นและรถตู้ โดยสาร สำหรับปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุที่สำคัญของรถโดยสารสาธาณะ คือ ขับรถด้วยความเร็ว ขับ รถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ฝนตกถนนลื่น ขับตามหลังในระยะกระชั้นชิด หลับใน และประมาท ตามลำดับ ส ่วนปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุของรถบรรทุก ได้แก ่ ขับรถด้วยความเร็ว หลับใน ขับ ตามหลังในระยะกระชั้นชิด ขับรถตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ประมาท ฝนตกถนนลื่น ระบบเบรก ชำรุด ขับแซงอย ่างผิดกฎหมาย/แซงในที ่คับขัน จอดในที ่ห้ามจอด/จอดไหล ่ทางล้ำ/จอดไม ่ให้ เครื่องหมายหรือสัญญาณ ขับล้ำเข้าไปในช่องทางฝั่งตรงข้าม และไม่ชำนาญเส้นทาง ตามลำดับ กล่าวโดยสรุปทั้งรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกจะมีปัจจัยการเกิดเหตุเหมือนกันในลำดับแรก คือ ขับรถด้วยความเร็ว และความล้าของร่างกาย ในด้านการพัฒนาและวิเคราะห์ข้อมูลภูมิสารสนเทศด้านอุบัติเหตุทางถนน ผู้วิจัยเลือกที่จะ ใช้ข้อมูลที่แสดงถึงความรุนแรงของจุดเกิดเหตุจากการเสียชีวิตเป็นหลัก เพื่อที่จะใช้อ้างอิงถึงความ รุนแรงและความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ โดยพบว่า พื้นที่ภาคอีสานมีจำนวนอุบัติเหตุมาก ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งอธิบายได้ว่าเนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นแหล่งกำเนิดและดึงดูดการเดินทางของรถทั้งสอง ประเภท ทั้งในแง่กิจกรรมการจ้างงาน การเรียน และที่พักอาศัย เมื่อพิจารณาแยกรายภูมิภาคแล้ว การเกิดอุบัติเหตุจะเกิดในเมืองใหญ่ บริเวณชายแดนของ ประเทศ รอยต่อระหว่างจังหวัดและภูมิภาค เนื่องจากสภาพการจราจรจะมีลักษณะความหนาแน่น น้อยกว่าบริเวณเมือง ซึ่งทำให้การเกิดอุบัติเหตุในสภาพการจราจรดังกล่าวมีความน่าจะเป็นน้อยกว่า บริเวณชุมชนที่มีปริมาณจราจรหนาแน่นกว่า และการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทยจะเกิดบนถนนใน ท้องถิ่น คือ ถนนของกรมทางหลวงชนบทและถนนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มากกว่าการเกิด อุบัติเหตุบนถนนของกรมทางหลวง เนื่องจากกิจกรรมของเมืองและปริมาณจราจรที่หนาแน่นที่ทำให้ เกิดความน่าจะเป็นของอุบัติเหตุมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ ค การพิจารณาช่วงถนนที่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงนั้น พบว่า ตอนถนนที่มีความเสี่ยงสูงจะ เกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของเมืองใหญ่ ได้แก่ อำเภอเมือง บริเวณชายแดน ปริมณฑล ถนนระหว่าง เมืองขนาดใหญ่ ท่าเรือน้ำลึก แหล่งท่องเที่ยว การตรวจสอบความปลอดภัยทางถนน พบว่า อุบัติเหตุบนทางหลวง ที่ทำให้เกิดการตาย และบาดเจ็บสาหัส ที่สำคัญ มีอยู่ 5 ประเภทคือ การชนแบบประสานงา การขับตกข้างทางและ พลิกคว่ำหรือชนสิ่งอันตรายข้างทาง รวมถึงต้นไม้ เสาสาธารณูปโภค เสาป้ายจราจรและหลักกิโลเมตร การชนบริเวณทางแยกซึ่งรวมถึงจุดกลับรถ การชนรถจักรยานยนต์ รถจักรยาน หรือคนเดินเท้า และการชนท้าย ซึ่งมักนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัส โดยแนวทางการแก้ไขและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ ได้แก่ การติดตั้งระบบป้องกันความ รุนแรง การลดจุดขัดแย้งบริเวณทางแยก การเพิ่มพื้นที่ปลอดภัยให้บริเวณจุดขัดแย้ง การยับยั้งการ กระทำผิด และการใช้การแนะนำหรือเตือนด้วยเครื่องหมายจราจรที่มีประสิทธิมากกว่าเดิม สุดท้ายการพัฒนาระบบโปรแกรมติดตามยานพาหนะ ผู้วิจัยเลือกใช้ระบบ Opensource Traccar เพื ่อใช้ประเมินการขับขี ่ปลอดภัยของยานพาหนะ โดยการสร้างฐานข้อมูลผู้ขับขี่ ฐานข้อมูลความปลอดภัยทางถนน ฐานข้อมูลยานพาหนะ ระบบการเตือน และการรายงานผลแบบ ทันกาล ซึ ่งประโยชน์ที ่ได้จากการพัฒนาโปรแกรมดังกล ่าวจะมีผลประโยชน์ต ่อผู้ขับขี ่ ถนน ยานพาหนะ และผู้ประกอบ ในการช่วยเตือนและติดตาม และรายงานการขับขี่ของยานพาหนะ |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ชลัท ทิพากรเกียรติ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 80 |
2 | ถนัด เหลืองนฤทัย | ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(NECTEC) | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |