การพัฒนาระบบการเลี้ยงหอยนางรมแบบความหนาแน่นสูงเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนลุ่มน้ำ ปะเหลียน ตำบลวังวน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

Development of High-Density System of Oyster to Raise Local Economy in Palian Basin, Wangwon Subdistrict, Kantang District, Trang Province

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2563
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการชุด
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2562
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2563
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 15 พฤษภาคม 2563
ประเภททุนวิจัย ทุน บพท.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญาPMUA-1452966-06
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ บทคัดย่อ การพัฒนาการเลี้ยงหอยนางรมระยะกึ่งวัยรุ่นแบบความหนาแน่นสูงในพื้นที่ลุ่มน้ำปะเหลียน ตำบลวังวน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยการเลี้ยงด้วย 2 ระบบการเลี้ยง คือเลี้ยงด้วยตะแกรงพลาสติก 3 ชั้น และเลี้ยงด้วยตะกร้าพลาสติก 3 ชั้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับของลูกหอยนางรมต่อพื้นที่เลี้ยงขนาด 9 ตารางเมตร โดยทั้ง 2 ระบบเป็นการเลี้ยงที่มีความหนาแน่นสูงต่างจากการเลี้ยงแบบดั้งเดิมในชุมชน เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตและอัตราการรอดและต้นทุน ผลตอบแทนการเลี้ยงทั้งก่อนการเริ่มวิจัยและหลังแล้วเสร็จจากการวิจัย เป็นระยะเวลา 7 เดือน หอยนางรมระยะกึ่งวัยรุ่นในการวิจัยในครั้งนี้เป็นผลผลิตหอยนางรมจากโรงเพาะฟักของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ที่มีขนาดตั้งแต่ 0.5-1.0 เซนติเมตร ต้นทุนและผลตอบแทนของกลุ่มผู้เลี้ยงหอยนางรม บ้านแหลม ตำบลวังวน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ก่อน มีโครงการวิจัยฯ พบว่ากลุ่มผู้เลี้ยงหอยนางรมด้วยวิธีการเลี้ยงแบบแปะปูนแขวนพวง มีกำไรสุทธิเฉลี่ย เท่ากับ 27,923.44 บาท/รอบการเลี้ยง โดยมี อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เท่ากับ 163.52 การเลี้ยงหอยนางรมด้วยตะแกรงพลาสติก 3 ชั้น มีกำไรสุทธิเฉลี่ย เท่ากับ 110,056.72 บาท/รอบการเลี้ยง โดยมี อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เท่ากับ 324.24 และการเลี้ยงหอยนางรมด้วยตะกร้าพลาสติก 3 ชั้น มีกำไรสุทธิเฉลี่ย เท่ากับ 116,721 บาท/รอบการเลี้ยง โดยมี อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เท่ากับ 350.75 ตามลำดับ การทดลองเลี้ยงหอยนางรมระยะกึ่งวัยรุ่นด้วยระบบที่ออกแบบคือ แบบตะแกรงพลาสติก 3 ชั้น ที่มีขนาดตะแกรง 0.5 เซนติเมตร ลูกหอยที่ใช้ในการทดลองเริ่มต้นมีขนาดความยาวเปลือกเฉลี่ย 0.76 เซนติเมตร ความกว้างเปลือกเฉลี่ย 0.71 เซนติเมตร จัดแบ่งตะแกรงพลาสติก 4 ชุด แทนด้วยความหนาแน่น 4 ระดับ คือ 150 300 450 และ 600 ตัวต่อตะแกรงพลาสติก ความหนาแน่นล่ะ 3 ซ้ำ ตลอดระยะเวลาการเลี้ยงเป็นเวลา 7 เดือน พบว่า อัตราการเจริญเติบโตด้านความกว้าง (AGRW) และความยาวเปลือก (AGRL) อัตราการเจริญเติบโตจำเพาะและอัตราการอดของลูกหอย ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในทุกระดับความหนาแน่น (p>0.05) และระหว่างการทดลองพบว่าถุงกระเป๋าสำหรับอนุบาลลูกหอยมีการหลุดร่วงออกจากโครงสร้างตะแกรงเลี้ยงบางส่วน เนื่องจากตัวน็อตสำหรับยึดโครงเกิดการขึ้นสนิมและหลุดออก การทดลองเลี้ยงหอยนางรมระยะกึ่งวัยรุ่นด้วยตะกร้าพลาสติก 3 ชั้น ด้วยความหนาแน่น 4 ระดับ คือ 100 150 200 และ 250 ตัวต่อตะกร้าพลาสติก ลูกหอยที่ใช้ในการทดลองมีขนาดความยาวเปลือกเริ่มต้นเฉลี่ย 1.31 เซนติเมตร ความกว้างเปลือกเฉลี่ย 1.24 เซนติเมตร จากการเลี้ยงเป็นระยะเวลา 7 เดือน พบว่า อัตราการเจริญเติบโตด้านความยาวและความกว้างเปลือก ไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) อัตราการเจริญเติบโตจำเพาะและอัตราการรอด พบว่า ลูกหอยนางรมที่เลี้ยงด้วยความหนาแน่น 100 ตัวต่อตะกร้าพลาสติก มีค่าแตกต่างกันทางสถิตกับความหนาแน่นอื่น (p<0.05) ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมบริเวณแหล่งหอยนางรมพบว่าทั้ง อุณหภูมิ ความเค็ม ปริมาณแอมโมเนียในน้ำ ปริมาณไนไตรท์และปริมาณสารแขวนลอยทั้งหมด อยู่ในช่วงที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
รายละเอียดการนำไปใช้งาน ระบบการเลี้ยงหอยนางรมระยะกึ่งวัยรุ่นแบบตะแกรง 3 ชั้น และแบบตะกร้า 3 ชั้น จะเป็นระบบการเลี้ยงหอยนางรมที่สามารถเลี้ยงได้ที่ความหนาแน่นสูงกว่าการเลี้ยงดั้งเดิมในพื้นที่ ดูแลจัดการง่าย เป็นผลให้อัตราการรอดและการเจริญเติบโตที่สูง
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ.ดร. สุพัชชา ชูเสียงแจ้วคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ35
2รศ.ดร. สุวัจน์ ธัญรสคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
3ภูมินทร์ อินทร์แป้นคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
4อรอนงค์ อำภาวิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยว ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
5กัตตินาฏ สกุลสวัสดิพันธ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
6เตือนใจ ปิยังคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15