การศึกษาภูมิทัศน์วัฒนธรรม เพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวอำเภอฉวาง และพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดนครศรีธรรมราช

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2563
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2562
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2563
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 3 เมษายน 2563
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การศึกษาภูมิทัศน์วัฒนธรรม เพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวอำเภอฉวาง และพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดนครศรีธรรมราช สุรศักดิ์ ชูทอง1 วัฒนา ณ นคร2 และจารีพร เพชรชิต3 บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ศึกษาภูมิทัศน์วัฒนธรรม เพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวอำเภอฉวาง และพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้วิจัยได้จัดทำเครื่องมือในการวิจัยซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน คือ แบบสำรวจ แบบประเมิน แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสถิติสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ โดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบแบบที (T-test) ผลการวิจัยพบว่า การประเมินศักยภาพทรัพยากรการท่องเที่ยวของแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางประวัติศาสตร์การทำเหมืองแร่ ส่วนใหญ่มีศักยภาพทรัพยากรการท่องเที่ยวในระดับสูง ได้แก่ จุดชมวิวทะเลหมอกเขาศูนย์ มีค่าคะแนน 3.84 รองลงมาคือ หลุมแร่นายกรีด 2.95 ในระดับปานกลาง อุโมงค์บริษัท มีค่าคะแนน 2.59 และอุโมงค์เจดีย์ทอง มีค่าคะแนน 2.38 ตามลำดับ เส้นทางศึกษาวัฒนธรรมตามรอยพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ส่วนใหญ่มีศักยภาพทรัพยากรการท่องเที่ยวในระดับปานกลาง ได้แก่ วัดธาตุน้อย มีค่าคะแนนสูงสุด 2.88 รองลงมา วัดสวนขัน 2.73 และน้อย ได้แก่ ศาลาพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ 2.07 วัดหาดสูงและวัดวังม่วง 1.95 ตามลำดับ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่ได้ดำเนินการสำรวจนั้นพบว่า ส่วนใหญ่มีศักยภาพทรัพยากรการท่องเที่ยวในระดับปานกลาง โดยแหล่งท่องเที่ยวที่มีคะแนนสูงสุด คือ น้ำตกสวนอาย ค่าคะแนน 3.10 รองลงมา อ่างเก็บน้ำกะทูน 2.81 และ อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง 2.63 ตามลำดับ ระดับศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวที่มีผลต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว พบว่า ศักยภาพด้านคุณค่าและความดึงดูดใจของทรัพยากรการท่องเที่ยว อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.75) ศักยภาพด้านการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.93) ศักยภาพด้านโอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยว โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.29) การทดสอบสมมติฐานระดับศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวที่มีผลต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว พบว่า ศักยภาพด้านคุณค่าและความดึงดูดใจของทรัพยากรการท่องเที่ยว ศักยภาพด้านการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว ศักยภาพด้านโอกาสในการพัฒนาการท่องเที่ยว มีผลต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว อย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ (p ≤ 0.01) แนวทางการปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมตามศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว ควรมีการปรับปรุงจุดรักษาความปลอดภัยเดิม พัฒนาลานจอดรถให้สามารถรองรับได้ถึง 200 คัน และมีพื้นที่กางเต็นท์ 180 หลัง พัฒนาห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และสร้างจุดชมวิว รองรับนักท่องเที่ยว เพิ่มพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชน ปรับปรุงภูมิทัศน์รอบๆองค์พระ และบริเวณสถานีรับส่งสัญญาณ ให้สะอาด เรียบร้อย สวยงาม บริเวณยอดสูงสุดของเขาศูนย์ และพัฒนาระบบสื่อความหมายธรรมชาติ ในพื้นที่บริเวณหลุมแร่นายกรีด โดยมีการกำหนดเส้นทางศึกษาธรรมชาติและประวัติศาสตร์เขาศูนย์ มีการฝึกอบรมนักสื่อความหมายในพื้นที่ นำบุคคลที่มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ ชนิดพันธุ์ไม้ สร้างคู่มือในการชมธรรมชาติ พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัย และระบบสื่อความหมายในพื้นที่ โดยมีจุดสำคัญในการนำชม เริ่มต้นจากต้นเหรียงใหญ่ ผ่านวังบัวบานจุดที่พบแร่มากที่สุด ไปตามแนวทางเดินที่เป็นหินที่ขุดจากเหมืองแร่ด้วยแรงคน อนุญาตให้มีการกางเต็นท์พักแรมบนจุดสูงสุดที่ปรากฏถังน้ำเดิม อนุญาตให้นักสื่อความหมายนำนักท่องเที่ยวมุดลงหลุมแร่ ชมความงามของเสือขาวแกะสลัก เดินชมภายในอุโมงค์ สักการะหลวงปู่ทวด ก่อนที่จะปีนขึ้นอุโมงค์เพื่อความท้าทายในการเดินทางและเมื่อขึ้นผ่านอุโมงค์จะมีรถมารับนักท่องเที่ยว คำสำคัญ: ภูมิทัศน์วัฒนธรรม , ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว, นครศรีธรรมราช 1 2 3 อาจารย์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1สุรศักดิ์ ชูทองราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ60
2จารีพร เพชรชิตคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20
3รศ. วัฒนา ณ นครคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20