โครงการวิจัย
การพัฒนาศักยภาพเชิงพื้นที่ในการจัดการโครงข่ายระบบการเก็บขนขยะมูลฝอยของเทศบาลนครสงขลา จังหวัดสงขลา
The Potential Area-based Development for Management of Solid Waste Collection and Transportation Network System of Songkhla Municipality, Songkhla Province.
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2564 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2563 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2564 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2563 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์หาเส้นทางที่สั้นที่สุดในการให้บริการเก็บขนขยะเขตพื้นที่เทศบาลนครสงขลา และ 2) เพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการกลบฝังขยะ โดยนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้เพื่อวิเคราะห์โครงข่าย ในการหาเส้นทางการเดินรถเก็บขยะ ตั้งแต่ตำแหน่งจุดเริ่มต้น จุดเก็บขยะ จนถึงจุดปลายทางที่ทิ้งขยะของรถแต่ละคันในแต่ละเส้นทาง และการหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการกลบฝังขยะแหล่งใหม่จากการคัดเลือกปัจจัยเชิงพื้นที่โดยใช้ฉากทัศน์ 2 รูปแบบ คือ ฉากทัศน์แรก การนำปัจจัยและเกณฑ์ในการคัดเลือกสถานที่กลบฝังขยะมูลฝอยแบบถูกหลักสุขาภิบาลของกรมควบคุมมลพิษ ภายใต้ 2 เงื่อนไข คือ 1) ถ้าผ่านเกณฑ์มีค่าเป็น 1 กับไม่ผ่านเกณฑ์มีค่าเป็น 0 และฉากทัศน์ที่สอง จากการทบทวนวรรณกรรม แนวโน้มของงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อกำหนดปัจจัยที่เหมาะสมตามสภาพปัจจุบัน ร่วมกับวิธีการวิเคราะห์ด้วยกระบวนการตัดสินใจแบบหลายกฎเกณฑ์ (MCDA) โดยใช้วิธีการให้ค่าน้ำหนักอิงตามฉากทัศน์แรกและขยายการให้ค่าคะแนนเพิ่ม ร่วมกับการกำหนดค่าถ่วงน้ำหนักของปัจจัยด้วยกระบวนการวิเคราะห์แบบลำดับชั้น (AHP) ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ พื้นที่เหมาะสมมาก พื้นที่เหมาะสมปานกลาง และพื้นที่เหมาะสมน้อย และทำการกรองพื้นที่โดยกันออกของข้อมูลประเภทแหล่งน้ำ พื้นที่เหมาะสม ปานกลาง พื้นที่เหมาะสมน้อย และป่าไม้รวมไปถึงพิจารณาคัดเลือกเฉพาะขนาดพื้นที่ที่มากกว่า 500 ไร่ ผลการศึกษา พบว่า สามารถลดระยะทางในการเก็บขนขยะลงได้ 13.20 กิโลเมตร และการหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการกลบฝังขยะ ฉากทัศน์แรก พบว่า มีปัจจัยทางกายภาพ จำนวน 8 ปัจจัย ได้แก่ 1) สภาพทางธรณีวิทยา 2) เขตชุมชน 3) แหล่งน้ำธรรมชาติหรือคลองขุด 4) ระยะห่าง จากบ่อน้ำใต้ดิน 5) ระยะห่างจากแหล่งโบราณคดี/ประวัติศาสตร์และปูชนียสถาน 6) ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ 7) พื้นที่สนามบิน และ 8) เขตพื้นที่อนุรักษ์โดยมีพื้นที่ผ่านเกณฑ์จำนวน 292,217 ไร่ซึ่งมีอำเภอสะเดา อำเภอคลองหอยโข่ง และอำเภอระโนด มีพื้นที่มากที่สุดสามลำดับแรก คือ 87,650 ไร่ 29,491 ไร่ และ 28,931 ไร่ ตามลำดับ และฉากทัศน์ที่สอง พบว่า มี 5 ปัจจัย ได้แก่ 1) ด้านโบราณสถาน 2) ระยะห่างจากทางหลวงสายหลัก 3) ระยะห่างจากแหล่งน้ำธรรมชาติหรือคลองขุด 4) ระยะห่างจากแหล่งชุมชน และ 5) ความลาดชัน โดยมีพื้นที่ผ่านเกณฑ์ 5 แห่ง ในอำเภอคลองหอยโข่งและอำเภอสะเดา ซึ่งผลการวิเคราะห์ จะเป็นทางเลือกสนับสนุนการตัดสินใจการบริหารจัดการขยะ ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บขยะ และการวางแนวทางในการพิจารณากฎเกณฑ์และพื้นที่ในการกำหนดแหล่งกลบฝังในอนาคตต่อไป |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ดร. ธิดาภัทร อนุชาญ | คณะบริหารธุรกิจ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 100 |