เทคโนโลยีที่เหมาะสมของการจัดการเพลี้ยไฟสำหรับผลิตมังคุดคุณภาพในอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

Appropriate Technology of Thrips Management for Quality Mangosteen Production in Chang Klang District Nakhon Si Thammarat Province

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา007/1/2564
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ บทคัดย่อ เพลี้ยไฟจัดเป็นแมลงศัตรูสาคัญทางเศรษฐกิจของมังคุด ซึ่งยังขาดวิธีการที่มีประสิทธิภาพใน การจัดการเพลี้ยไฟ การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการเปลี่ยนแปลงประชากรเพลี้ยไฟใน รอบปี 2) ประเมินความเสียหายของมังคุดจากการท าลายของเพลี้ยไฟ และ 3) ประเมินวิธีการ ผสมผสานที่เหมาะสมในการจัดการเพลี้ยไฟ ผลการส ารวจประชากรเพลี้ยไฟในสวนมังคุดโดยใช้กับดัก กาวเหนียวสีเหลือง ระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบ ประชากร เพลี้ยไฟสูงสุดในเดือนมกราคมจานวนเฉลี่ย 948 ตัว/กับดัก เป็นช่วงที่มีอุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 78.5% ปริมาณน้าฝน 13.5 มิลลิเมตร และมังคุดอยู่ในระยะแตกใบอ่อน นอกจากนี้ ยังพบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ฝนตกอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคมถึง เดือนพฤษภาคม ส่งผลให้ประชากรเพลี้ยไฟลดลง ผลการสารวจความเสียของมังคุดที่เกิดจากเพลี้ยไฟในสวนเกษตรกร อ าเภอช้างกลาง จังหวัด นครศรีธรรมราช ระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2564 พบว่า ผลมังคุดต้นฤดู กลางฤดู และปลาย ฤดูเก็บเกี่ยว มีน้าหนักใกล้เคียงกันเฉลี่ย 83.00 – 86.35 กรัม/ผล มังคุดในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยวมี อาการผิวผลลายระดับ 6.67 มากกว่ามังคุดกลางฤดูและปลายฤดูเก็บเกียว ซึ่งพบอาการผิวผลลาย ระดับ 3.46 และ 4.39 ตามลาดับ นอกจากนี้ยังพบว่า มังคุดต้นฤดูเก็บเกี่ยวมีจานวนผลยางไหลมาก สุดเฉลี่ย 94.00% ขณะที่มังคุดปลายฤดูเก็บเกี่ยวมีจานวนผลยางไหลน้อยสุดเฉลี่ย 62.40% รวมทั้ง พบว่า มังคุดทั้ง 3 ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวมีอาการรอยขีดบนกลีบเลี้ยง 100% การคัดเลือกวิธีผสมผสานที่เหมาะสมในการจัดการเพลี้ยไฟ ดาเนินการในสวนมังคุดของ เกษตรกร อาเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างเดือนมากราคม – สิงหาคม 2564 โดย วางแผนการทดลองแบบสุ่มในบล็อกสมบูรณ์ จานวน 3 ซ้า 6 สิ่งทดลองดังนี้ 1) วิธีเกษตรกร (T1) 2) การใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองร่วมกับการจัดการธาตุอาหาร (T2) 3) การใช้กับดักกาวเหนียวสี เหลืองร่วมกับการฉีดพ่นน้ามันหอมระเหยกานพลู (T3) 4) การใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองร่วมกับการ ใช้สารฆ่าแมลง (T4) 5) การใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองร่วมกับการจัดการธาตุอาหารและฉีดพ่น น้ ามันหอมระเหยกานพลู (T5) และ 6) การใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองร่วมกับการจัดการธาตุอาหาร และการใช้สารฆ่าแมลง (T6) โดยประเมินผลจากน้าหนักผล อาการผิวผลลาย จานวนผลยางไหล จ านวนผลที่มีรอยขีดบนกลีบเลี้ยง และสัดส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุน ผลการทดสอบพบว่า วิธีผสม ผสารระหว่างการใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองร่วมกับการจัดการธาตุอาหารและการใช้สารฆ่าแมลง หรือ T6 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการจัดการเพลี้ยไฟ แตกต่างจากวิธีเกษตรกร (T1) ซึ่งมี ประสิทธิภาพต่าสุด อย่างมีนัยส าคัญยิ่งทางสถิติ (P  0.1) วิธีผสมผสาน T6 ให้น้าหนักผลเฉลี่ย 81.81 - 101.81 กรัม/ผล พบระดับอาการผิวผลลายเฉลี่ย 1.25 - 1.68 จานวนผลยางไหลเฉลี่ย 19.33 - 29.33% จานวนผลที่มีรอยขีดบนกลีบเลี้ยง 100% และมีสัดส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุน เท่ากับ 2.67 ส่วนวิธีเกษตรกรให้น้าหนักผลเฉลี่ย 71.45 – 85.93 กรัม/ผล พบระดับอาการผิวผล ลายเฉลี่ย 2.19 – 2.64 จานวนผลยางไหลเฉลี่ย 36.67 - 49.33% จ านวนผลที่มีรอยขีดบนกลีบเลี้ยง 100% และมีสัดส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุนเท่ากับ 2.38 การจัดฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการจัดการเพลี้ยไฟ ด้วยวิธีผสมผสานระหว่างการใช้กับดักกาวเหนียวสีเหลืองร่วมกับการจัดการธาตุอาหารและการใช้สาร ฆ่าแมลงเพื่อผลิตมังคุดคุณภาพสู่เกษตรกร พบว่า เกษตรกรเข้าร่วมอบรมรวมทั้งสิ้น 38 คน เกษตรกรส่วนใหญ่ได้รับความรู้และเห็นประโยชน์ของการจัดการเพลี้ยไฟโดยวิธีผสมผสาน ค าส าคัญ: การจัดการศัตรูพืช, เพลี้ยไฟ, มังคุด, อ าเภอช้างกลาง, จังหวัดนครศรีธรรมราช
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ.ดร. พัชราภรณ์ วาณิชย์ปกรณ์คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ70
2พรศิลป์ สีเผือกคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย30