ประสิทธิภาพของสารสกัดจากเสม็ดขาวในการควบคุมเชื้อก่อโรคในการเลี้ยงกุ้งขาว

Efficacy of cajuputi tree (Melaleuca cajuputi) extracts for controlling pathogenic microorganisms in white shimp (Litopenaeus vannamei) pond culture

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการพื้นฐาน
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ธันวาคม 2563
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ประสิทธิภาพของสารสกัดจากเสม็ดขาวในการควบคุมเชื้อก่อโรค ในการเลี้ยงกุ้งขาว (Litopeneaus vannamei) สุนันทา ข้องสาย 1* ปรีดา ภูมี 2 และชาคริยา ฉลาด 1 บทคัดย่อ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสารสกัดใบเสม็ดขาวในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อก่อโรคในการเลี้ยงกุ้งขาว และศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันโรคกุ้งขาว เพื่อพัฒนาการเลี้ยงกุ้งโดยใช้สารธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยทำการสกัดใบเสม็ดขาวด้วยตัวทำละลายเอทานอลและน้ำ ได้สารสกัดหยาบคิดเป็นผลผลิตร้อยละ 15.13 และ 13.03 ตามลำดับ ทดสอบองค์ประกอบทางพฤกษเคมีของสารสกัดเอทานอลพบสารสำคัญในกลุ่มแอนทราควิโนน เทอร์พีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ ซาโปนิน แทนนิน แอลคาลอยด์ และคาร์ดิแอกไกลโคไซด์ในส่วนของน้ำตาลดีออกซี ส่วนสารสกัดน้ำไม่พบเทอร์พีนอยด์ สารสกัดหยาบน้ำมีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมด สารประกอบฟลาโวนอยด์ทั้งหมด และคอนเดนซ์แทนรวมทั้งความสามารถในการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ได้แก่ การยับยั้งอนุมูลอิสระ DPPH และ ABTS และขนาดวงใสของการยับยั้งแบคทีเรีย Vibrio harveyi และ Vibrio parahaemolyticus ดีกว่าสารสกัดเอทานอล แต่มีความสามารถในการต้านเชื้อแบคทีเรียไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ มีค่า MIC และ MBC เท่ากับ 6.25 และ 25 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร สารสกัดเอทานอลและน้ำมีค่าความเป็นพิษ LC50 ที่ 96 ชั่วโมง เท่ากับ 389.09 และ 331.13 ppm ตามลำดับ จากการศึกษาองค์ประกอบทางเคมี พบสารสำคัญกลุ่มฟลาโวนอยด์และอนุพันธ์ของฟลาโวนอยด์เป็นองค์ประกอบในสารสกัดเอทานอล จึงเลือกนำสารสกัดเอทานอลที่มีความเข้มข้น 300 ppm มาศึกษาผลของการเสริมสารสกัดต่อการควบคุมเชื้อ Vibrio parahaemolyticus โดยการให้กิน และการแช่ พบว่ากุ้งขนาด P15 ที่เลี้ยงด้วยการแช่ในน้ำที่มีสารสกัดเอทานอลความเข้มข้น 300 ppm ต่อน้ำ 30 ลิตร ใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์ มีอัตราการรอดตายเมื่อได้รับเชื้อ Vibrio parahaemolyticus มากที่สุด และสารสกัดที่เตรียมได้ยังคงสภาพทางเคมีและความสามารถในการออกฤทธิ์ทางชีวภาพตลอดอายุการเก็บรักษา 8 สัปดาห์ มีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน สามารถนำผลิตภัณฑ์ไปใช้ในการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไมได้เพื่อควบคุมเชื้อก่อโรคได้ คำสำคัญ : เสม็ดขาว, กุ้งขาว, เชื้อก่อโรคในกุ้ง ____________________________ 1 สาขาศึกษาทั่วไป คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง 2 สาขาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ประมง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. สุนันทา ข้องสายคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ40
2ผศ.ดร. ชาคริยา ฉลาดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย30
3ผศ.ดร. ปรีดา ภูมีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย30

บทความวารสาร

ที่ ชื่อบทความ วารสาร/หนังสือ ที่ตีพิมพ์ ระดับบทความ ฐานข้อมูลที่ตีพิมพ์ วันที่ตีพิมพ์
1Phytochemical analysis, in vitro screening of antioxidant and antibacterial potential of Cajuput (Melaleuca cajuputi) extract against pathogenic Vibrio spp.Tropical Journal of Natural Product ResearchระดับนานาชาติOthers24 ธันวาคม 2567