ผลกระทบของความคาดหวังด้านการเรียนของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียนและแนวทางการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตของนักเรียนในจังหวัดตรัง

Impact of parents learning expectations on students and Guidelines for preventing mental health problems of students in Trang province

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ธันวาคม 2563
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ผลกระทบของความคาดหวังด้านการเรียนของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียน และแนวทางการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตของนักเรียนในจังหวัดตรัง บทคัดย่อ วรรณกร พลพิชัย เจตนา อินยะรัตน์ และผ่องศรี พัฒนมณี งานวิจัยเรื่องผลกระทบของความคาดหวังด้านการเรียนของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียน และแนวทางการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตของนักเรียนในจังหวัดตรัง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความคาดหวังและค่านิยมด้านการเรียนของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียน 2) ศึกษาความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียน (ตามการรับรู้ของนักเรียน) ค่านิยมด้านการเรียน การแข่งขันด้านการเรียนและภาวะสุขภาพจิตของนักเรียน 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบสุขภาพจิตของนักเรียนในจังหวัดตรังจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 4) ศึกษาอิทธิพลของความคาดหวังของผู้ปกครอง ค่านิยมด้านการเรียน การแข่งขันด้านการเรียนที่มีต่อภาวะสุขภาพจิตของนักเรียนในจังหวัดตรัง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือนักเรียนและผู้ปกครองที่อาศัยอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดตรัง จำแนกเป็นนักเรียน 391 ราย และผู้ปกครอง 391 ราย เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t – test, F – test, LSD และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้ปกครองของนักเรียนในจังหวัดตรัง มีค่านิยมด้านการเรียนด้านลบ อยู่ในระดับปานกลาง มีความคาดหวังด้านการเรียนต่อบุตรหลานอยู่ในระดับสูง 2) นักเรียนมีการแข่งขันด้านการเรียนโดยรวมในระดับต่ำ มีการรับรู้ว่าผู้ปกครองมีความคาดหวังต่อตนเองอยู่ในระดับสูง มีค่านิยมเชิงลบด้านการเรียนโดยรวมอยู่ในระดับสูง และนักเรียนมีความเครียดอยู่ในระดับสูง 3) นักเรียนที่มีเพศ ระดับชั้นที่ศึกษา ระดับการศึกษาของบิดา ระดับการศึกษาของมารดา อาชีพของบิดา อาชีพของมารดา จำนวนพี่น้อง รายได้เฉลี่ยต่อเดือน การเรียนพิเศษ และงานอดิเรกแตกต่างกัน มีความเครียดแตกต่าง 4) ตัวแปรที่ส่งผลต่อความเครียดของนักเรียน พบว่ามี 9 ตัวแปร ได้แก่ ระดับการศึกษาของบิดา การเรียนพิเศษบางครั้ง การไม่เรียนพิเศษเลย จำนวนชั่วโมงนอนพักผ่อนต่อวัน มีความคาดหวังด้านอาชีพตรงกับความคาดหวังของพ่อแม่ การแข่งขันด้านการเรียน มีมารดาประกอบอาชีพข้าราชการ การรับรู้ความคาดหวังด้านการเรียนของผู้ปกครอง และจำนวนพี่น้อง โดยสามารถพยากรณ์ความเครียดของนักเรียน ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และสามารถอธิบายได้ร้อยละ 33.1 (R2adj = 0.331) คำสำคัญ: สุขภาพจิตนักเรียน ความคาดหวังด้านการเรียน การแข่งขันด้านการเรียน
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. วรรณกร พลพิชัยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ50
2ผ่องศรี พัฒนมณีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
3เจตนา อินยะรัตน์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย40

บทความวารสาร

ที่ ชื่อบทความ วารสาร/หนังสือ ที่ตีพิมพ์ ระดับบทความ ฐานข้อมูลที่ตีพิมพ์ วันที่ตีพิมพ์
1ค่านิยมทางสังคมด้านการเรียนของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในจังหวัดตรังวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มมร วิทยาเขตอีสานระดับชาติTCI1 กันยายน 2565

บทความประชุมวิชาการ

ที่ บทความประชุมวิชาการ ชื่อการประชุม สถานที่จัดการประชุม ปีที่จัดการประชุม (พ.ศ.)
1ค่ำนิยมและควำมคำดหวังด้ำนกำรเรียนของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียนในจังหวัดตรังการประชุมวิชาการระดับชาติด้านการศึกษาพิเศษ ครั้งที่ 10สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ2565