การยกระดับกระบวนการผลิตเมล็ดโกโก้แห้งให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน; กรณีศึกษาตำบล สระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช

Enhancement of the Dried Cocoa Bean Production Process to the Standard Quality; Sa Kaeo, Tasala, Nakhon Si Thammarat

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 7 มิถุนายน 2564
ประเภททุนวิจัย ทุน บพท.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ปัจจุบันกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่าศาลาประสบปัญหาสำคัญ คือ มีผลผลิตผลโกโก้สดปริมาณมากเกินศักยภาพของกลุ่มที่จะนำไปแปรรูปเป็นเมล็ดแห้งที่ได้คุณภาพและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากโกโก้ เนื่องจากทางกลุ่มวิสาหกิจฯ ใช้กระบวนการหมักและตากแห้งแบบธรรมชาติ ไม่มีการควบคุมกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบ จึงต้องการความช่วยเหลือจากทางนักวิจัยในระยะแรก คือการผลิตเมล็ดโกโก้แห้งที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน ดังนั้นงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุมชนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่าศาลาซึ่งมีอาชีพปลูกโกโก้ให้เป็นชุมชนนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่าน 3 กิจกรรมย่อย คือ 1) การพัฒนากระบวนการหมักโกโก้ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน 2) การออกแบบและพัฒนาตู้อบแห้งเมล็ดโกโก้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมพลังงาน ชีวมวล และ 3) การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายเมล็ดโกโก้แห้ง โดยมีกลไกในการพัฒนาด้วยการนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีตามความเชี่ยวชาญของนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพต่อยอดนวัตกรรมกระบวนการหมักเพื่อการหมักที่มีประสิทธิภาพสูง เมล็ดโกโก้ที่หมักแล้วจะนำเข้าสู่การทำแห้งด้วยตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมพลังงานชีวมวลแบบโรตารีซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดโดยนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนาตู้อบ และศึกษาการทำแห้งด้วยนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และนักวิทยาศาสตร์การอาหาร ผลผลิตจากกระบวนการทำแห้งที่ได้มาตรฐานจะถูกนำเข้าสู่ตลาดด้วยช่องทางการตลาดที่เหมาะสมซึ่งวิเคราะห์โดยนักการตลาด ในการศึกษาเริ่มจากการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่าศาลา การดำเนินการวิจัยในส่วนกลางน้ำและปลายน้ำ ส่วนกลางน้ำประกอบด้วย การพัฒนากระบวนการหมักโกโก้ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน และการพัฒนาการทำแห้งโกโก้ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ส่วนปลายน้ำเป็นการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายเมล็ดโกโก้แห้ง การพัฒนานวัตกรชาวบ้าน และการสร้าง Learning and Innovation Platform ผลการดำเนินการวิจัย ในกิจกรรมย่อยที่ 1: การพัฒนากระบวนการหมักโกโก้ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน พบว่าระยะเวลาในการกลับเมล็ดโกโก้ในระดับห้องปฏิบัติการในวันที่ 2 เป็นสภาวะที่เหมาะสม เมื่อนำระยะเวลาในการกลับเมล็ดโกโก้มาศึกษาการเติมน้ำทิ้งจากการหมักเมล็ดโกโก้กลับเข้าในถังหมัก พบว่า การเติมน้ำทิ้งจากการหมักเมล็ดโกโก้ที่มีปริมาณของแข็งละลายได้ 16.20 องศาบริกซ์ มีผลทำให้มีกรดแลกติกเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.79 และมีกรดแอซีติกเพิ่มขึ้นร้อยละ 35.55 สีของเนื้อเมล็ดโกโก้ที่สิ้นสุดการหมักมีสีเข้มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่เติมน้ำทิ้งกลับเข้าในถังหมัก เมื่อนำผลการศึกษาระยะเวลาในการกลับเมล็ดโกโก้และการเติมน้ำทิ้งจากการหมักเมล็ดโกโก้กลับเข้าในถังหมักมาใช้ศึกษาการหมักเมล็ดโกโก้ในระดับโรงงาน นำทาง พบว่าองค์ประกอบของเนื้อเมล็ดโกโก้ ได้แก่ ค่าพีเอช ปริมาณกรดแลกติกและปริมาณกรดแอซีติก อุณหภูมิระหว่างการหมัก ปริมาณน้ำตาลรีดิวซ์ และการเปลี่ยนแปลงค่าสีภายในของเมล็ดโกโก้ ไม่มีความแตกต่างไปจากการศึกษาในระดับห้องปฏิบัติการ และเมื่อนำเมล็ดโกโก้ที่ผ่านการหมักในระดับโรงงานนำทางมาทำแห้งด้วยตู้อบลมร้อนเปรียบเทียบกับกระบวนการตากแดดของวิสาหกิจชุมชนท่าศาลา พบว่าองค์ประกอบของเมล็ดโกโก้หลังการทำแห้ง ไม่มีความแตกต่างกัน กิจกรรมที่ 2 : การพัฒนาการทำแห้งโกโก้ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน ได้สร้างตู้อบแห้งเมล็ดโกโก้พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมชีวมวลแบบโรตารีตามที่ได้ออกแบบไว้ เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของตู้อบแห้งเมล็ดโกโก้พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมชีวมวลแบบโรตารีและเปรียบเทียบกับกระบวนทำแห้งด้วยตู้อบลมร้อนและการตากแดดของวิสาหกิจชุมชนท่าศาลา พบว่าการ ทำแห้งเมล็ดโกโก้ด้วยตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมชีวมวลแบบโรตารี (ตู้อบแห้งโรตารี) จะใช้เวลาในการทำแห้งนานที่สุดประมาณ 64 ชั่วโมง รองลงมาคือ การทำแห้งด้วยตู้อบลมร้อนและการทำแห้งด้วยการตากแดดใช้เวลาในการทำแห้งน้อยที่สุด 38 และ 26 ชั่วโมง ตามลำดับ ได้เมล็ดโกโก้ที่มีปริมาณความชื้นเท่ากับร้อยละ 6.97, 6.84 และ 6.30 ตามลำดับ ซึ่งตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนกำหนดให้เมล็ดโกโก้แห้งมีีปริมาณความชื้นไม่เกินร้อยละ 7 และเมื่อนำเมล็ดโกโก้แห้งที่ได้จากระยะเวลาการทำแห้งที่เหมาะสมกระบวนการทำแห้งต่าง ๆ ได้แก่ ตู้อบลมร้อน การตากแดด และตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมชีวมวลแบบโรตารี ศึกษาอายุการเก็บรักษาพบว่าสามารถเก็บรักษาเมล็ดโกโก้แห้งไว้ที่อุณหภูมิห้องได้นาน 3 เดือน และกิจกรรมที่ 3: การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายเมล็ดโกโก้แห้ง ได้การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายเมล็ดโกโก้แห้ง โดยวิเคราะห์กระบวนการเพื่อให้ได้ช่องทางการจัดจำหน่ายที่เหมาะสมและการเพิ่มตลาดเป้าหมายให้กับกลุ่มเป้าหมาย คือ 1) SWOT analysis 2) STP analysis และ 3) Business Model Canvas จากการสัมภาษณ์ผู้นำกลุ่มและสมาชิกในกลุ่ม พบว่าสามารถเพิ่มช่องทางจำหน่ายเมล็ดโกโก้แห้งให้กับกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่มีความชื่นชอบโกโก้และต้องการทำช็อกโกแลตเอง (ตลาดโฮมเมด) จำนวนร้อยละ 10 ผลผลิตจากการดำเนินการวิจัยได้นวัตกรรม/เทคโนโลยีพร้อมใช้ คือ นวัตกรรมกระบวนการหมักเมล็ดโกโก้ที่มีคุณภาพ และตู้อบแห้งเมล็ดโกโก้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมชีวมวลแบบโรตารีสามารถยกระดับกระบวนการผลิตเมล็ดโกโก้แห้งของวิสาหกิจชุมชนท่าศาลาให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน จากการคำนวณค่า ROI พบว่าเมื่อเกษตรกรนำนวัตกรรม/เทคโนโลยีพร้อมใช้นี้มาประยุกต์ใช้จะทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 36.50 บาทต่อกิโลกรัม และมีค่า ROI เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.85 รวมรายได้เพิ่มขึ้นของกลุ่มเท่ากับ 2,640.38 บาท/เดือน และคิดเป็นรายได้รวมสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 29.97
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ศรีอุบล ทองประดิษฐ์คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ20
2ผศ.ดร. กมลวรรณ บุญเจริญคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย13
3ผศ. จรูญ บุญนำคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย8
4อรอุมา สำลีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย คณะเทคโนโลยีการจัดการผู้ร่วมวิจัย10
5ผศ. ณรงค์ชัย ชูพูลคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย5
6เจษฏา ร่มเย็นคณะเทคโนโลยีการจัดการ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10
7ผศ.ดร. ศิรินาถ ศรีอ่อนนวลคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10
8สายใจ แก้วอ่อนคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย10
9อภิญญา วณิชพันธุ์คณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย5
10สุวิจักขณ์ ห่านศรีวิจิตรคณะอุตสาหกรรมเกษตร ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย9