การพัฒนาชิ้นส่วนประกอบคาน-พื้นสำเร็จรูปด้วยวัสดุผสมร่วมระหว่างไม้และคอนกรีตเสริมเหล็กสำหรับงานก่อสร้างสมัยใหม่

Prefabricated Beam-Floor Member Development from Timber-Concrete Composite for Modern Constructions

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2565
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2564
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2565
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 29 กันยายน 2564
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การก่อสร้างสมัยใหม่ มีการพัฒนาชิ้นส่วนประกอบตัวยวัสตุผสมเพื่อการใช้งานทาง ด้าน วิศวกรรมโยธาที่หลากหลาย การใช้ไม้และคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นวัสตุผสมประกอบเป็นคาน พื้นสำเร็จรูป เป็นหนึ่งในการพัฒนาชิ้นส่วนประกอบให้สามารถ รับแรงกระทำได้ดีขึ้น การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา พฤติกรรมการรับกำลังของขึ้นส่วนประกอบสำเร็จรูปคาน พื้นด้วยวัสตุผสมระหว่างไม้และคอนกรีตเสริมเหล็ก และพัฒนาขึ้นส่วนให้เหมาะสมกับการก่อสร้างยิ่งขึ้น โดยตัวอย่างหลักเป็นคานรูปตัวที่ ขนาดปีกกว้าง 30 เชนติเมตร เฮว 7.5 เขนติเมตร หนา 15 เชนติมตร และช่วงทตสอบยาว 2.40 เมตร ป ระกอบจากไม้ยางนา และคอนกรีตเสริมเหล็ก (กำลังอัดคอนกรีต 240 ก็โลกรัมต่อตารางเชนติเมตร ที่อายุ 28 วัน) แตกต่างกัน 4 รูปแบบ (TB RC, TB C N, TBC GN และ TB C GR) เนื่องมาจากอุปกรณ์ยืตที่แตกต่างกันไต้แก่ ตะปู และ แหวนยึตไม้ รวมถึงรูปแบบในการยึต การทตสอบกระทำภายในห้องปฏิบัติการด้วยการหาคำคุณสมบัติเชิงกล เบื้องตันของวัสตุทั้งหมด (ไม้ยางนา คอนกรีต เหล็กเสริม อุปกรณ์ขีต) และทตสอบการตัดของคานรูปตัวทีตัวย การทตสอบแบบ 4 จุด เพื่อหาค่ากำลังต้านทานการรับแรงตัดและแรงเฉือนตลอดจนการโก่งตัวของคาน ประกอบจนกระทั่งเกิดการวิบัติ และเปรียบเทียบผลกับคานตัวที่คอนกรีตเสริมเหล็กที่มีหน้าตัดเหมือนกัน (TB-RC) ผลการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพกำลังต้านทานโมเมนต์เทียบกับ 1B RC ที่ระยะการแนตัวที่ L/240 (10 มิลลิเมตร) เท่ากับร้อยละ 6.20 31.79 และ 42.47 และที่ระยะการแนตัวที่ L/120 (20 มิลลิเมตร) เท่ากับร้อยละ 28.87 51.76 และ 86.76 สำหรับคาน TB C-N TB C-GN และ 1B C-GR ตามลำดับ ซึ่งมีค่า ใกล้เคียงกันระหว่าง 1B C GN และ TB C -GR และสูงกว่า TB C-N หลายเท่า และยังพบว่าค่าความเครียดที่ ดำแหน่งต่างๆของหน้าตัดคานดลอดทั้งความลึกยังคงเป็นส้นตรงทั้งก่อนและหลังการรับแรง สอดคล้องกับ หลักการทางกลศาสตร์ที่วัสตุอยู่ในช่วงอิลาสดิก ซึ่งเหมาะต่อการพัฒนาขึ้นส่วนประกอบด้วยวัสดุผสมเพื่อการ ใช้งานทางต้านวิศวกรรมโยธาต่อไป คำสำคัญ: การก่อสร้างสมัยใหม่ ชิ้นส่วนประกอบ คาน พื้นสำเร็จรูป ไม้ยางนา คอนกรีตเสริมเหล็ก กำลัง ต้านทานโมเมนต์
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1นันทชัย ชูศิลป์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ50
2ถาวร เกื้อสกูลคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย25
3พงศ์ศักดิ์ ศุขมณีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย25

บทความประชุมวิชาการ

ที่ บทความประชุมวิชาการ ชื่อการประชุม สถานที่จัดการประชุม ปีที่จัดการประชุม (พ.ศ.)
1พฤติกรรมการรับกำลังของชิ้นส่วนคานหน้าตัดประกอบรูปตัวที วิศวกรรมสารเกษมบัณฑิต ปีที่ 13 ฉบับที่ 2วิศวกรรมสารเกษมบัณฑิต2566