การเพิ่มประสิทธิภาพเถ้าหนักชีวมวลจากอุตสาหกรรมการผลิตไม้ปาร์ติเคิลเพื่อใช้ประโยชน์เป็นวัสดุงานทางในพื้นที่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

Enhancement of Biomass Bottom Ash from Particle Board Industry for Utilized as Highway Materials in Eco Industrial Area, Hat Yai District, Songkhla Province

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2565
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2564
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2565
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 29 กันยายน 2564
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ จังหวัดสงขลามีเป้าหมายการพัฒนาเมืองอุดสาหกรรมเชิงนิเวศ กล่าวคือ ต้องการลตมลพิษต้าน สิ่งแวตล้อมในพื้นที่อุตสาหกรรมหนาแน่นโตยการสร้างความสมดุลทั้งต้านเศรษฐกิจ สิ่งแวตล้อมและ สังคม เพื่อให้อุดสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนไต้อย่างเป็นสุขและยั่งยืน งานวิจัยนี้มีจุตประสงค์หลักเพื่อ ศึกษาความเป็นไปต้ในการใช้ถ้าหนักชื่วมวลจากอุตสาหกรรมการผลิตไม้ปาร์ติเศิลเป็นวัสดุทาง โตย การศึกษาสมบัติพื้นฐานตินลูกรัง เถ้าหนักชีวมวล ปูนชีเมนต์และปูนขาว แล้วออกแบบส่วนผสมที่ใช้ ปูนซีเมนต์ไฮตรอลิกและปูนขาวไซเตรดที่ปริมาณ 3% 59 และ 79 โตยน้ำหนักของส่วนผสม จากนั้น ดำเนินการทตสอบในห้องปฏิบัติการประกอบด้วย การทตสอบการบตอัดติน ซีบีอาร์ กำลังอัดแกนเดียว และการซึมผ่านของน้ำ เลือกส่วนผสมที่ตี่ที่สุดสร้างแปลงทตสอบในสนามเพื่อจำสองถนนผิวทาง คอนกรีตที่ใช้ชั้นรองพื้นทางจากเถ้าหนักชีวมวล ก็บตัวอย่างน้ำชะที่หลผ่านชั้นรองพื้นทางไปทตสอบ หาปริมาณโลหะหนัก จากนั้นวิเคราะห์ความคุ้มค่าด้านเศรษฐศาสตร์และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ผลการศึกษาสมบัติพื้นฐานพบว่ เถ้าหนักชัวมวลที่ใช้ในการศึกษามีลักษณะเป็นเม็ดหยาบ สีเทา ความถ่วงจำเพาะ 2.405 ผลการจำแนกดินจัดเป็นตินประเภททรายที่มีการคละขนาดไม่ดี ซึ่งไม่ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานวัสตุชั้นรองพื้นทางเกรตวัสตุ E ลักษณะรูปร่างอนุภาคจากการถ่ายด้วยกล้อง จุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดพบว่ มีลักษณะพื้นผิวหยาบ ขรุชระและจับเป็นกลุ่มก้อน ผลการ วิเคราะห์องค์ประกอบทางเศมีในรูปออกไชด์ของโลหะตัวยเครื่อง X Ray Fluorescence (XRF) พบว่า มีองค์ประกอบหลัก ได้แก่ ชิลิกาออกไชต์ประมาณ 61.739 แคลเชียมออกไชต์ 11.40% อะลูมินา ออกไชต์และเฟอร์ริกออกไซต์ 8.57% และ 5.32% ตามสำตับ ผลการศึกษาสมบัติทางวิศวกรรมเมื่อ พิจารณาจากค่ากำลังอัดแกนเดียวพบว่า การนำเถ้าหนักชัวมวลมาใช้เป็นส่วนผสมสำหรับวัสตุชั้นรองพื้น ทางทำให้กำลังอัดของตินลูกรังคุณภาพต่ำดีขึ้น โดยทุกส่วนผสมผ่านเกณฑ์วัสตุรองพื้นทางตินซีเมนต์ ของกรมทางหลวง กล่าวคือ ค่า 9. สูงกว่า 689 KPa ในขณะที่เมื่อปรับปรุงตัวยปูนขาวไซเตรด (L) ใน ปริมาณเดียวกันกับปูนชีมนต์พบว่า ส่วนผสมที่ผ่านเกณฑ์วัสดุรองพื้นทางดินซีเมนต์มีเพียง 2 ส่วนผสม เท่านั้น คือ 59061013 และ 580820L3 และเมื่อพิจารณารูปแบบการพัฒนากำลังที่ระยะเวลาต่างกัน ทั้งการใช้ปูนชีมนต์และปูนขาวพบว่า มีแนวโน้มที่สอดคล้องกัน กล่าวคือ มีการพัฒนากำลังอัตที่เพิ่มขึ้น คามเวลา กระบวนการเพิ่มของคำกำลังอัดเกิดจากปฏิกิริยาปอชโซลานและปฏิกิริยาของชีเมนต์และน้ำ ทำให้เกิดเป็นสารประกอบใหม่ คือแคลเชียมซิลิเกตไฮตรต และแคลเชียมอะลูมิเนตไรเตรตของดิน ซีมนต์ นอกจากนี้ ยังพบว่าการปรับปรุงดินลูกรังที่ไม่ผ่านเกณฑ์จากบ่อดินบ้านท่นางหอมโตยใช้เถ้า หนักชีวมวลและปูนซีเมนต์เหมาะสมกว่าการใช้ปูนชาว การศึกษาสมบัติต้านการซึมผ่านน้ำจากการทตสอบวิธีระดับน้ำลตในห้องปฏิบัติการพบว่า ค่า สัมประสิทธิ์การยอมให้น้ำซึมผ่าน (K ที่อายุการบ่ม 28 วัน ของส่วนผสมดินลูกรังกับเถ้าหนักชัวมวล เพิ่มขึ้นประมาณ 5 เท่า (4.76x10* cก/ร ถึง 4.77x10 ' cm/s) ส่วนกรณีปรับปรุงด้วยเถ้าหนักชีวมวล และปูนซีเมนต์ค่า k อยู่ในช่วง 3.32x10 * cM/s ถึง 2.92x102 cM/s และกรณีปรับปรุงด้วยเถ้าหนักชีว มวลและปูนชาวค่า K อยู่ในช่วง 3.29x107 cก/ร ถึง 1.13x102 cm/s นอกจากนี้ ยังพบว่าค่า k มีการ เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณถ้าหนักชัวมวล ปูนซีเมนต์ และปูนขาว นั่นคือ มีความสัมพันธ์ตามสัตส่วน ของปูนชีมนต์ต่อเถ้าหนักชีวมวล (C/B) และปูนขาวต่อเถ้าหนักชีวมวล (L/B) ในฟังก์ชันยกกำลังใน ระดับความน่าเชื่อถือที่ดีมาก การศึกษาปริมาณโลหะหนักตกค้างที่ถูกชะละลายผ่านส่วนผสมจากการเก็บตัวอย่างใน ห้องปฏิบัติการและแปลงสาธิตในภาคสนามจากส่วนผสม S30B65C5 และ S80B20L.3 โตยเปรียบเทียบ ผลที่ได้กับคุณภาพน้ำใต้ดินตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวตล้อมแห่งชาติและกระทรวงอุดสาหกรรม ปริมาณโลหะหนักที่ประเมินประกอบด้วย สารหนู แคตเมียม โครเมียม ทองแดง นิกเกิล ตะกั่ว และ สังกะสี พบว่า กรณีตัวอย่างที่เก็บในห้องปฏิบัติการปริมาณโลหะหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมให้ทั้งหมด ในขณะที่ตัวอย่างที่เก็บภาคสนามมีเฉพาะค่โครเมียมที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คุณภาพน้ำใต้ดินเล็กน้อยแต่ยังไม่ เกินเกณฑ์กระทรวงอุดสาหกรรม การประเมินความคุ้มค่ต้านเศรษฐกิจจากการนำวัสดุเถ้าหนักชีวมวล มาใช้เป็นวัสดุงานทาง พบว่า มีความคุ้มคำในการลงทุน นั่นคือ สมารถลตตันทุนลงประมาณ 15 ลูกบาศก์เมตร คำสำคัญ: ดินสูกรัง เถ้าหนักชัวมวล ปูนซีมนต์ ปูนขาว กำลังอัดแกนเตี๋ยว โลหะหนัก
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1อรุณ ลูกจันทร์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ50
2ดร. ภาณุ พร้อมพุทธางกูรคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย25
3ดร. อาศิส อัยรักษ์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย25

บทความวารสาร

ที่ ชื่อบทความ วารสาร/หนังสือ ที่ตีพิมพ์ ระดับบทความ ฐานข้อมูลที่ตีพิมพ์ วันที่ตีพิมพ์
1Evaluating the Performance of Lateritic Soil Stabilized with Cement and Biomass Bottom Ash for Use as Pavement MaterialsInfrastructuresระดับนานาชาติISI, Scopus29 กันยายน 2565