โครงการวิจัย
การเสริมความสามารถภาษาอังกฤษของผู้สอนตามกรอบอ้างอิงสมรรถนะด้านภาษาแห่งสหภาพยุโรป (CEFR) เพื่อการทดสอบภาษาอังกฤษ
Enhancing Lecturers English Proficiency according to Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) for English test
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2565 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการวิจัยและพัฒนา |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2564 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2565 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 19 ตุลาคม 2564 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | - |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีและการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว องค์กรต่างๆ ทั้งในระดับนานาชาติและระดับอาเซียนกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ (United Nations, 2014; The Association of Southeast Asian Nations, 2008) จากการสำรวจพบว่ามีผู้ใช้ภาษาอังกฤษในฐานะเจ้าของภาษาและไม่ใช่เจ้าของภาษาเป็นจำนวนมากถึง 1,900 ล้านคน (http://www.babbel.com/en/magazine/how-many-people-speak-english-and-where-is-it-spoken, 2562) การรู้ภาษาอังกฤษและสามารถสื่อสารได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นของทุกคนตั้งแต่ระดับนักการเมือง ผู้บริหาร ครูอาจารย์ นักเรียนนักศึกษา ไปจนถึงบุคคลทั่วไป (กฤชเชาว์ นันทสุดแสวง, 2563) ภาษาอังกฤษยังได้รับความนิยมใช้ในหลายวงการ เช่น ด้านวิทยาศาสตร์ ด้านการท่องเที่ยว ด้านบันเทิงและสื่อสารมวลชน และยังคงเป็นภาษาสากลของโลก (Nunan, 2013) ผู้ที่มีความสามารถภาษาอังกฤษในระดับดีจึงเป็นที่ต้องการในทุกสาขาวิชาชีพทั่วโลก (เบญจมิน บุญจริง และคณะ, 2562) ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยจึงให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยก็เช่นกัน ตามประกาศของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เรื่อง เกณฑ์ผลการสอบภาษาอังกฤษสำหรับการสรรหาและการเลือกสรรบุคคลเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตำแหน่งวิชาการ วันที่ 19 มิถุนายน 2563 ระบุว่าการคัดเลือกบุคลากรสายวิชาการหรืออาจารย์ในทุกสาขาวิชาจำเป็นต้องยื่นผลสอบภาษาอังกฤษไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน เช่น TOEIC TOEFL IELTS และ CU-TEP เพื่อสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษเข้ามาทำงาน จะเห็นได้ว่าความสามารถภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่ผู้สอนทุกสาขาวิชาในสถาบันอุดมศึกษาควรมี มหาวิทยาลัยฯตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาความสามารถภาษาอังกฤษของผู้สอนเพราะการที่ผู้สอนมีความพร้อมทั้งความรู้ภาษาอังกฤษและสามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตในระยะยาวภายใต้แนวคิดด้านการจัดการศึกษาในหัวข้อการบริหารจัดการผู้สอนรูปแบบใหม่ (Re-RUTS Lecturer Platform) ที่เน้นการจัดการเรียนการสอนเป็นหลักตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ระยะยาว 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) มหาวิทยาลัยฯ จึงได้นำโปรแกรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเอง (SPEEXX) มาใช้พัฒนาความสามารถภาษาอังกฤษของผู้สอนตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 ซึ่งผลการทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษหลังเรียนในแต่ละปีงบประมาณเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนประเมินผลการปฏิบัติราชการทุกรอบการประเมิน (สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน, 2562) ดังนั้น ผู้สอนทุกสาขาวิชาจึงควรพัฒนาศักยภาพด้านภาษาอังกฤษซึ่งเป็นทักษะสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 เพื่อนำไปสู่การปรับใช้ภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนการสอนและการสร้างผลงานทางวิชาการในระดับนานาชาติมากขึ้น รวมถึงเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพของผู้สอนเอง โปรแกรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยตนเอง (SPEEXX) ที่มหาวิทยาลัยฯ นำมาใช้ในการพัฒนาภาษาอังกฤษของผู้สอนนั้น ได้มีการนำกรอบอ้างอิงสมรรถนะด้านภาษาแห่งสหภาพยุโรป (CEFR) มาใช้เป็นแนวทางในการออกแบบบทเรียนและแบบทดสอบออนไลน์โดยกรอบอ้างอิง CEFR จะมีตั้งแต่ระดับ A1 ไปจนถึง C2 ในระดับสากลกรอบอ้างอิง CEFR เป็นที่รู้จักในวงการวิชาการหรือด้านการศึกษาเป็นอย่างมากเพราะถูกนำมาใช้เป็นแนวคิดในการสร้างแบบทดสอบมาตรฐาน (Placement Test) เช่น TOEIC TOEFL และ IELTS เป็นต้น เพื่อวัดระดับความสามารถภาษาอังกฤษที่หลากหลายทั้งของผู้สอน นักเรียนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป โดยสามารถเปรียบเทียบคะแนนจากการทดสอบมาตรฐานต่างๆกับระดับทักษะภาษาอังกฤษของ CEFR ได้เนื่องจาก CEFR เป็นที่ยอมรับและใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลก (ฐิติพงศ์ เกตุอมร และคณะ, 2560) จากรายงานสรุปผลการทดสอบภาษาอังกฤษหลังเรียน (Post-test) ในโปรแกรม SPEEXX ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2563 พบว่าจากจำนวนผู้สอนทุกสาขาของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) รวมจำนวนทั้งหมด 70 คน มีจำนวน 63 คนที่เข้าเรียนและทดสอบหลังเรียนในโปรแกรม SPEEXX ซึ่งมีจำนวนผู้สอนไม่ถึงครึ่ง (28 คน) ที่สอบผ่านร้อยละ 70 ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ ผู้สอนที่มีระดับความสามารถภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานและสอบไม่ผ่านตามเกณฑ์ดังกล่าวจึงเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ผู้วิจัยเล็งเห็นถึงการเสริมความสามารถภาษาอังกฤษด้วยการจัดฝึกอบรมภาษาอังกฤษตามกรอบอ้างอิง CEFR ให้ โดยคาดหวังว่าผู้สอนจะนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปปรับใช้ในการทดสอบในโปรแกรม SPEEXX ให้ผ่านตามที่มหาวิทยาลัยฯกำหนด (สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน, 2562) จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในการเสริมสร้างความสามารถภาษาอังกฤษให้กับผู้สอนกลุ่มที่มีความสามารถภาษาอังกฤษอยู่ในระดับพื้นฐานให้สามารถพัฒนาตนเองเพื่อสอบผ่านในโปรแกรม SPEEXX ไปสู่ระดับที่สูงขึ้นและผ่านเกณฑ์ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด และเพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้สอนซึ่งอาจนำไปสู่การปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้ดีขึ้นตามแนวคิดการบริหารจัดการผู้สอนรูปแบบใหม่ (Re-RUTS Lecturer Platform) และนำไปสู่การยกระดับคุณภาพของผู้สอนในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษ และการสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการในระดับนานาชาติ เป็นต้น ทำให้มหาวิทยาลัยมีความโดดเด่นและเข้มแข็งมากขึ้นในภารกิจด้านการจัดการเรียนการสอน งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดโครงการฝึกอบรมภาษาอังกฤษตามกรอบอ้างอิงสมรรถนะด้านภาษาแห่งสหภาพยุโรป (CEFR) ให้กับผู้สอนที่มีความสามารถภาษาอังกฤษอยู่ในระดับพื้นฐาน โดยในการดำเนินการอบรมนั้นผู้สอนที่เข้าร่วมอบรมสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้เข้าร่วมอบรมด้วยกันเองและทั้งกับวิทยากร สามารถช่วยกันระดมความคิดในการทำแบบฝึกหัด และสามารถซักถามข้อสงสัยในเนื้อหาที่อบรมกับวิทยากร ซึ่งการฝึกอบรมแบบต่อหน้า (Face to face) เกิดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้มากกว่าการเรียนด้วยตนเองในโปรแกรมการเรียนรู้ออนไลน์ อีกทั้งการสอนโดยวิทยากรสามารถไขข้อสงสัยให้กับผู้เข้าร่วมอบรมได้ดีกว่า |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | แพรพรรณ เอียดแก้ว | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | กัลยกร เสริมสุข | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |
3 | รัตนีกรณ์ นาคปลัด | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |