โครงการวิจัย
การพัฒนาคู่มือสองภาษา ภาษาจีน-อังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
Development of Chinese – English Communication Handbook for Staff of Chedi Temple (Ai-khai) at Chalhong Sub-district, Sichon District, Nakhon Si Thammarat Province
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2565 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2564 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2565 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 21 ตุลาคม 2564 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ จากสถิติรายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2563 พบว่ามีรายได้สูงถึง 332,013.03 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 6,702,396 คน โดยก่อนสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 39,916,251 ล้านบาท และมีรายได้จากจำนวนท่องเที่ยวต่างชาติ 1,911,807.95 ล้านบาท (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, 2564) การท่องเที่ยวในจังหวัดภาคใต้ของไทยถือได้ว่ามีความสำคัญเกี่ยวข้องกับรายได้การท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ลักษณะภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจ คือวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยข้อมูลว่าในช่วงเดือน กรกฎาคม – กันยายน 2563 มีจำนวนตัวเลขการเดินทางไปภาคใต้เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่ามีสาเหตุเนื่องจากการเดินทางมาวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) วัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยเป็นวัดร้างที่เชื่อกันว่าสร้างมาเป็นเวลานับ1000 ปี มีเพียงเจดีย์โบราณเก่ารกร้างอยู่ตรงบริเวณที่กำลังสร้างโบสถ์ในปัจจุบัน จนเมื่อประมาณ พ.ศ.2500 มีการบูรณะวัดเจดีย์ขึ้นมาใหม่ มีพระเข้ามาอยู่ประจำ เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวบ้านใกล้เคียง และเป็นที่ประดิษฐานของ “พ่อท่าน” พระพุทธรูปเก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ยังป็นวัดร้าง ไอ้ไข่วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ คือรูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9 -10 ขวบ ตั้งอยู่ในศาลาในวัดเจดีย์เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ ณ วัดแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตั้งแต่ในละแวกใกล้วัดไปจนถึงต่างจังหวัดในแถบภาคใต้จากศรัทธาที่เชื่อกันว่า “ขอได้ไหว้รับ” โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย เมื่อปี พ.ศ. 2526 พ่อท่านเทิ่ม เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ในขณะนั้นได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่ เป็นรุ่นแรก พร้อมกับพัฒนาวัดเรื่อยมา วันนี้วัดเจดีย์เจริญรุดหน้าไปมาก อุโบสถขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ปัจจัยต่างๆจากศรัทธาที่ผู้คนมีต่อไอ้ไข่หลั่งไหลเข้ามายังวัดเจดีย์แห่งนี้ ทั้งยังเผื่อแผ่ไปยังชาวบ้านที่อยู่รอบวัด ได้มีรายได้จากการจำหน่ายเครื่องบูชาไอ้ไข่ วิญญาณเด็กน้อยดวงนี้เป็นที่พึ่งทางใจของทุกคนที่เลื่อมใส บารมีของเด็กน้อยที่เรียกว่าเป็นเด็กวัด ได้รวบรวมศรัทธาจากมวลชน สร้างวัดเจดีย์แห่งนี้ขึ้นมาใหม่ เป็นวัดเจดีย์ที่สวยงาม มั่นคง ดำรงพระพุทธศาสนาสืบไป ข้อมูลที่ระบุถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลกันมาเที่ยววัดเจดีย์ไอ้ไข่มากขึ้นนี้ มีความสอดคล้องกับการศึกษาของ อนุชสรา เรืองมาก (2559) ที่กล่าวว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั่งชาวไทย และชาวต่างชาติที่มาวัดเจดีย์ไอ้ไข่นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามานั้น อาจเนื่องมาจากดประวัติและตำนาน "ไอ้ไข่ วัดเจดีย์" ที่ถูกกล่าวถึงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความในหนังสือ หนังสือพิมพ์ รายการวิทยุโทรทัศน์ บทเพลง และการเล่าลือกันแบบปากต่อปาก หลายตำนานที่มีเค้าโครงคล้ายกัน ต่างกันก็แต่รายละเอียดปลีกย่อย ตำนานของวัดเจดีย์ต่างตรงกันทุกแหล่งข้อมูล โดยกล่าวถึงวัดในรูปแบบของสถานที่ศูนย์กลางเพื่อมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแบบชั่วคราวไม่ได้เป็นวัด แต่ภายหลังจากหลวงปู่ทวดมาเยือนได้รับการพัฒนาจนมีการสร้างโบสถ์ สร้างพระพุทธรูป ประชาชนจึงสานต่อโดยการสร้างอาณาเขตเป็นวัด และสร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์วิหารหลังใหม่ รูปเคารพไอ้ไข่ รูปวาดไอ้ไข่ หรือแม้แต่การขยายเขตพื้นที่วัดเพื่อสร้างสิ่งเคารพเป็นที่ยึดเหนี่ยวแก่ประชนชนจากทั่วทุกสารทิศ นอกจากผลจากการบนบานในแง่ของการขอแล้ว จากการสังเกตได้เห็นพัฒนาการของวัดเจดีย์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของศาสนสถาน พื้นที่วัดขยายจากเดิม 9 ไร่ ปัจจุบันวัดเจดีย์ไอ้ไข่มีเนื้อที่เกือบ 200 กว่าไร่ เพื่อวางสิ่งของแก้บนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และขยายเป็นพื้นที่ที่จอดรถเพื่อรองรับผู้ที่ศรัทธาไอ้ไข่เด็กวัด เจดีย์ ที่มาเป็นคณะ กลุ่ม หรือทัวร์ ที่มีทั้งผู้ที่ศรัทธาทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งชาวต่างประเทศที่มาจากทางภาคใต้ของประเทศไทยมักจะมาเป็นกลุ่มทัวร์ เช่น คณะทัวร์จีนจากมาเลเซีย และคณะทัวร์จีนจากสิงคโปร์ โดยส่วนใหญ่จะมากราบ ไหว้ขอพร และแก้บน กันทุกวันโดยเฉพาะวันอังคาร วันเสาร์ วันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดราชการจะมีบุคคลที่ศรัทธาเข้ามามากกว่าวันอื่นๆ และโดยเฉพาะวันอังคารและวันเสาร์ เป็นวันที่ชาวบ้านทั่วไปเชื่อว่าถ้ามีการแก้บนจะต้องมาในวันดังกล่าว ทำให้ในวันดังกล่าวมีการจราจรติดขัด เป็นทางยาวประมาณ 1- 2 กิโลเมตร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวัดเจดีย์จึงทำการขยายเส้นทางจราจร จากเดิมที่มีเพียงสายเดียว เป็น 4-5 สาย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวซึ่งถนนทุกสายที่มุ่งสู่วัดเจดีย์ จะมีรูปปั้นไก่ที่วางไว้ตลอดทั้งสองข้างถนน (โดยตัวไก่มีราคาอยู่ที่คู่ละ 30,000 – 50,000 บาท) นอกจากจะขยายถนนและมีตัวไก่วางไว้ ตลอด 2 ข้างทางพื้นที่เดิมที่เคยเป็นพื้นที่สวน ไร่ และนาหรือที่รกร้างก็มีการปรับปรุงพื้นที่เป็นร้านขายวัตถุมงคลและของแก้บน จากข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยววัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ของวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) มีความจำเป็นที่ต้องสื่อสารภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาหลักของโลกหรือภาษาจีนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน สอดคล้องกับสายฝน วรรณสินธพ (2554) ที่ได้ให้ความสำคัญของภาษาจีนว่า เป็นภาษาที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก ภาษาจีนกลางเป็นภาษาหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญไม่หยิ่งหย่อนไปกว่าภาษาอังกฤษอีกทั้งการศึกษาของศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธรมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สรุปว่า การเรียนภาษาจีนในประเทศไทย ผู้เรียนจำเป็นต้องก็พูดหรืออ่านภาษาจีนได้บ้างตามสมควร เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือติดต่อกับนักธุรกิจจีนต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามภาษาอังกฤษก็ยังถือได้ว่าเป็นภาษาที่สำคัญต่อการสื่อสารในสังคมโลก Robert (2015) กล่าวว่าในโลกอินเตอร์เน็ตมีเว็บเพจ (web pages) ประมาณ 2,000 ล้านหน้า มีข้อมูลข่าวสารในเว็บเพจเป็นภาษาอังกฤษมากที่ชุด ประมาณ 1,100 ล้านหน้าหรือคิดเป็นร้อยละ 56 ในประชาคมอาเซียน นอกจากนี้กฎบัตรอาเซียนข้อ 34 ยังระบุให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็น "Woking Language" ดังนั้นการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในการทำงานในประเทศกลุ่มอาเซียนหรือประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ยังคงมีความสำคัญไม่ลดน้อย การสื่อสารภาษาอังกฤษได้นั้น จะช่วยสร้างความสะดวกรวดเร็วช่วยสร้างเครือข่าย สร้างโอกาสทางการศึกษาและยังเพื่อประโยชน์ในการเดินทางท่องเที่ยวในอาเซียน ภาษาอังกฤษสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารระหว่างประเทศ ประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษจึงตั้งเป้าหมายการพัฒนา Thailand 4.0 นั่นคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกกลุ่มให้ดีขึ้น โดยใช้การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยในการขับเคลื่อนให้เป้าหมายการพัฒนา Thailand 4.0 ให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรลุเป้าหมายในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่คนใช้มากที่สุดในโลก เป็นภาษาที่มีความสำคัญของโลกและเป็นภาษากลางที่มนุษย์บนโลกใช้ติดต่อระหว่างกันเป็นหลักก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยต่อไปในอนาคต จากความสำคัญของภาษาจีนและภาษาอังกฤษดังกล่าวข้างต้น ประกอบกับสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยววัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เจ้าหน้าที่วัดจึงมีความจำเป็นต้องเรียนรู้ในการสื่อสารภาษาจีนและภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในการมาท่องเที่ยวที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีให้กับจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย เจ้าหน้าที่ของวัดไม่สามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวได้อย่างดีพอ การใช้คู่มือสองภาษา ภาษาจีน-อังกฤษในการสื่อสารสำหรับเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนั้น การใช้คู่มือสองภาษา ภาษาจีน-อังกฤษในการสื่อสารสำหรับเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราชจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านนี้ได้ นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่สอบถามเจ้าที่ที่ทำงานในวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) พบว่า เจ้าหน้าที่ของวัดมีประมาณ 130 คน ส่วนใหญ่จะเป็นประชากรผู้สูงอายุที่อยู่ใกล้กับบริเวณวัด ดังนั้นประชากรกลุ่มนี้จะใช้ภาษาถิ่นใต้หรือภาษากลางในการสื่อสารเป็นหลัก การใช้ภาษาจีนหรือ ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แทบจะสื่อสารไม่ได้ ซึ่งส่งผลให้ทางวัดไม่สามารถประชาสัมพันธ์หรือขอความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นภาษาต่างประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าใจประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นได้ โดยทางวัดจะมีการแบ่งเข้าหน้าที่ ออกเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เช่น ฝ่ายประสานงานตามจุดต่างๆ เช่น จุดไหว้ จุดแลกเงิน จุดธูปเทียนดอกไม้ ฝ่ายจราจร เช่น จุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ เจ้าหน้าที่บอกทาง เจ้าหน้าที่เตาประทัด เจ้าหน้าที่ลานจอดรถ เจ้าหน้าที่ลานปล่อยไก่ โดยก่อนหน้าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในหนึ่งวันจะมีคณะทัวร์ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาสักการะที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ประมาณ 2-3 คันรถทัวร์ โดยบางคณะมีมัคคุเทศก์ที่เป็นล่ามสื่อสาร แนะนำสถานที่ เล่าประวัติ วิธีการสักการะ ข้อห้าม การปฏิบัติตัว การนำทาง ฯลฯ แต่บางคณะทัวร์ที่มาเที่ยวด้วยตนเองนั้น ไม่มีมัคคุเทศก์คอยนำทางและให้คำแนะนำ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องดูป้ายที่มีภาษาจีน และป้ายภาษาอังกฤษประกอบ แต่จากการลงพื้นที่สำรวจวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) เบื้องต้น พบว่าทางวัดยังขาดป้ายภาษาจีน และป้ายภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการบอกทาง หรืออธิบายรายละเอียด กฎระเบียบ ขั้นตอนต่าง ๆ ที่จำเป็นขณะมาเที่ยวที่วัด อีกทั้งป้ายข้อความภาษาอังกฤษบางป้ายยังไม่สมบูรณ์ มีการ สะกดคำภาษาอังกฤษ ใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ไม่ถูกต้อง ส่วนป้ายภาษาจีนมีเพียงป้ายเดียว ที่บอกคำว่าห้องน้ำเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวจึงต้องสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้น แต่เจ้าหน้าที่ของวัดโดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและใช้ภาษาถิ่นใต้เป็นหลัก ทำให้มีความยากลำบากในการสื่อสารเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่สามารถใช้ภาษาไทยได้ และเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถเข้าใจภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษได้เช่นกัน ผลกระทบคือคนในชุมชนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัดจำนวน 130 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่มีค่อยมีความรู้ภาษาจีน-อังกฤษ และในชุมชนสามารถสื่อสารภาษาจีนได้ค่อนข้างน้อย โดยสังเกตได้ว่ามีการติดป้ายภาษาเพียงหนึ่งป้ายเท้านั้น ดังนั้นหากมีการจัดโครงการนี้ขึ้นจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาตอส่วนใหญ่เป็น ชาวจีนสิงคโปร์และชาวจีนมาเลเซีย การสื่อสารที่ผิดพลาดอาจส่งผลกระทบต่อความเข้าใจ และการสื่อสารที่ถูกต้องจะนำไปสู่การประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยว โบราณสถานใกล้เคียงได้ เช่น โบราณสถานเขาคา ที่มีพระพิฆเนศ วัดกลาง วัดสระใหญ่ ซึ่งเป็นทางผ่านไปสู่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) ส่งผลให้การท่องเที่ยวในแหล่งชุมชนและเศรษฐกิจยั่งยืนได้ ซึ่งจากการสอบถาม เจ้าหน้าที่ของวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าหากมีคู่มือสองภาษา ภาษาจีนและภาษาอังกฤษมาใช้ในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกและแก้ปัญหาในการสื่อสาร ความต้องการนี้สอดคล้องกับงานวิจัยของ ศาสตรา สหัสทัศน์ (2560) กล่าวว่า คู่มือสนทนาภาษาอังกฤษที่ถูกพัฒนาขึ้นนั้นได้ถูกนำไปใช้นั้นมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก และยังสามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีคาดว่าหลังจากที่มีวัคซีนและเมื่อเปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวจะกลับมาที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่)มากกว่าเดิม และหากมีการพัฒนาคู่มือขึ้นจะส่งผลให้ในชุมชนมีมัคคุเทศก์พื้นที่หรือมัคคุเทศก์น้อยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อต่อยอดสร้างงานให้กับคนในชุมชน และเจ้าหน้าที่สามารถขายสินค้าของชุมชนโดยใช้ภาษาจีน-ภาษาอังกฤษในการอธิบายสินค้าได้ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน จากการศึกษาความต้องการในการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว(Reskill/Upskill)ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าชุมชนวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาได้ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวจีน มาเลเซียฮ่องกง สิงคโปร์ ฯลฯ และเป็นพื้นที่เปรียบเสมือนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีของนักท่องเที่ยว ผลกระทบทางลบจากการท่องเที่ยวที่บุคลากรด้านการท่องเที่ยวขาดทักษะความรู้ในภาษาต่างประเทศอาจกลายเป็นจุดด้อยต่อสภาพเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของอำเภอสิชล อย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้รวมถึงสภาพทางภูมิศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถือเป็นทุนมนุษย์ที่น่าสนใจ กระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาในพื้นที่ถือได้ว่าเป็นโอกาสในการ พัฒนาทักษะด้านภาษาจีนและอังกฤษให้แก่บุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากมี ข้อจำกัดที่เจ้าหน้าที่ยังขาดความรู้และทักษะในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร รวมถึงการใช้สื่อในการเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเป้าหมายที่มีความรู้เฉพาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในการสื่อสารภาษาจีนและภาษาอังกฤษในพื้นที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่)ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยการเพิ่มทักษะให้กับเจ้าหน้าที่ให้สามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยใช้คู่มือสองภาษา ภาษาจีน-อังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ตำบลฉลอง อำเภอสิชลจังหวัด นครศรีธรรมราช จนเกิดเป็นทักษะด้านภาษาที่สามารถสร้างรายได้เสริมเข้าชุมชนท้องถิ่น และ เพื่อก่อให้เกิดความตระหนักในความสำคัญของทักษะด้านการสื่อสารภาษาจีนและภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติ ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและยังส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้และก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ความสำคัญของภาษาจีนและภาษาอังกฤษที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวในการเพิ่มศักยภาพด้านการสื่อสารของเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) ผู้วิจัยจึงต้องการที่จะสอบถามความต้องการจำเป็นในการใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของเจ้าหน้าที่เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาประกอบการพัฒนาคู่มือสองภาษาจีน-อังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับเจ้าหน้าที่วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | ในประเทศ นครศรีธรรมราช วัดเจดีย์(ไอ้ไข่) อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช |
เอกสารประกอบโครงการ |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ราชาวดี จันทร์ทอง | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | ผศ. นฤมล รัตนไพจิตร | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |
3 | ลดาวัลย์ จันทวงค์ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |