การพัฒนาศักยภาพพื้นที่เมืองและโครงสร้างพื้นฐาน รองรับยุทธศาสตร์เมืองอัจฉริยะของเทศบาลนครสงขลา

Potential Development of Urban Area and Infrastructure to Support Smart City Strategy in Songkhla Municipality

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2563
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการชุด
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2562
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2563
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 15 พฤษภาคม 2563
ประเภททุนวิจัย ทุน บพท.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ โครงการการพัฒนาศักยภาพพื้นที่เมืองและโครงสร้างพื้นฐานรองรับยุทธศาสตร์เมืองอัจฉริยะ ของเทศบาลนครสงขลา ได้ดำเนินการโครงการวิจัยเพื่อให้สอดรับกับนโยบายของประเทศที่กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ด้วยศักยภาพและโอกาสของจังหวัดสงขลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ในการสนับสนุน ทั้งในบทบาทที่เป็นศูนย์กลางความเจริญด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่งและ โลจิสติกส์ เทคโนโลยีและการสื่อสารด้าน ICT สังคม ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามก็ยังมีข้อจำกัดหรืออุปสรรคในการพัฒนาให้ดีถึงขึ้น โดยเฉพาะในเขตเมืองสงขลาที่ยังพบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การจราจร และการลดลงของพื้นที่สาธารณะสีเขียว ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ คณะวิจัยได้ตั้งเป้าหมายของผลลัพธ์ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้ง หน่วยงานรัฐ ชุมชน และภาควิชาการ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากการรวบรวมเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก และการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ มีการพัฒนาพื้นที่โครงการนำร่องใน 5 ชุมชน ของเขตเทศบาลนครสงขลา ประกอบด้วย การพัฒนาพื้นที่กิจกรรมสาธารณะเมืองต้นแบบที่เหมาะสมกับการใช้พื้นที่ทำกิจกรรมของคนทุกกลุ่มช่วงอายุ โดยมีการปรับภูมิทัศน์ สวนสาธารณะ และสวนสุขภาพ ติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับกลุ่มเด็ก เยาวชน และกลุ่มผู้สูงอายุ การพัฒนานวัตกรรมเครื่องวัดมลพิษทางอากาศ และสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนโดยการ ตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศในแต่ละชุมชน ซึ่งได้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่การกำหนดติดตั้งอุปกรณ์ การดูแลอุปกรณ์ การตรวจจับมลพิษที่เป็นตัวแทนของชุมชน และในเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์ เน้นให้ความรู้ถึงข้อดีของอุปกรณ์ดังกล่าว ทำให้ชุมชนเข้าใจและรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของฃ การเขียนแผนยุทธศาสตร์ระบบจราจรอัจฉริยะในเทศบาลนครสงขลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง การเชื่อมต่อทั้งภายในพื้นที่ และระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกของเทศบาลนครสงขลา ผลักดันความเป็นเมืองน่าอยู่ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีมาลดปัญหาการจราจร และสิ่งแวดล้อมที่ตามมาจากปัญหาการจราจร การพัฒนาระบบสัญญาณทางข้ามอัตโนมัติให้ทั่วพื้นที่เทศบาลนครสงขลาจำนวน 1 จุด จากผลสำรวจรายละเอียดปริมาณคนข้าม ปริมาณรถ เวลาในการรอข้ามถนน และสภาพกายภาพของถนน รวมถึงการลงพื้นที่สำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ต้องการให้มีการติดตั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินข้ามถนนให้แก่ตนเองมากขึ้น การพัฒนาระบบระบบ GPS tracking สำหรับติดตามยานพาหนะ และการพัฒนาแอพพลิเคชันด้วย Opensource Traccar เพื่อช่วยแสดงตำแหน่งยานพาหนะที่ได้ติดตั้งเครื่อง GPS ภายในยานพาหนะ ระบบสามารถแสดงตำแหน่งยานพาหนะได้แบบทันที พร้อมทั้งรายงานถึงรายละเอียดการเดินทางของยานพาหนะดังกล่าวได้ ผลของการดำเนินการวิจัยก่อให้เกิดกลไกนโยบาย กลไกการมีส่วนร่วม และกลไกด้านบุคลลากรของรัฐ ในการเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม สามารถทำให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครสงขลาตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศ และมีส่วนร่วมในการรักษาและสร้างสภาพสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเมืองสงขลาดีขึ้นตามมา ซึ่งหลังการดำเนินงานในส่วนของโครงการนำร่องแล้ว มีผลลัพธ์ปรากฏให้เห็นว่า มลภาวะลดลงอย่างน้อย 10% สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ 10% กล่าวคือการเจ็บป่วยของประชาชนในเขตเทศบาลนครสงขลาของทั้ง 5 ชุมชน ในภาพรวมมีอัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคตาอักเสบ โรคทางเดินหายใจทุกชนิด โรคผิวหนังอักเสบ ลดลงจากปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ และช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐศาสตร์จากปัญหาจราจรได้ 10 %
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1รศ. จรูญ เจริญเนตรกุลคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ10
2ชลัท ทิพากรเกียรติคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย30
3ณัฐพล แก้วทองคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย30
4ผศ.ดร. ณัฐนีภรณ์ น้อยเสงี่ยมคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย30