ศึกษาวิธีย้อมสีและสารช่วยย้อมที่เหมาะสมต่อการย้อมไหมด้วยสีจากลูกจาก

Research on Dyeing Approach and Dyeing Auxiliaries that are Appropriate for the Use of Nipa-Palm-Based Colors as Part of Silk Dyeing Process

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2561
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2560
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2561
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2561
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ศึกษาวิธีย้อมสีและสารช่วยย้อมที่เหมาะสมต่อการย้อมไหมด้วยสีจากลูกจาก บทคัดย่อ การวิจัยนี้เป็นการศึกษากระบวนการย้อมผ้าไหมด้วยสีธรรมชาติจากลูกจากบดละเอียดสกัดสีแบบสดและแบบตากแดดให้แห้ง ทดลองย้อมผ้าไหมที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 40 นาที โดยการย้อมสี 4 ซ้ำต่อทรีทเมนต์ เพื่อเปรียบเทียบการติดสี เลือกวิธีที่ให้สีติดเข้มที่สุดย้อมผ้าไหมโดยใช้สารช่วยย้อมธรรมชาติ 3 ชนิดประกอบด้วยน้ำขี้เถ้า น้ำปูนใสและน้ำสนิมเหล็ก ที่สารช่วยย้อม 1% 2% 3% และ 4% ต่อปริมาณน้ำสกัดสี วัดประสิทธิภาพของการย้อมด้วยการวัดระดับความเข้มของสีด้วยเครื่องวัดสี และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยด้วยวิธี Duncan ที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 95 เปอร์เซ็นต์ ทดสอบค่าการติดสี ความคงทนต่อสีต่อแสงและความคงทนของสีต่อการซัก ผลการศึกษาพบว่า การย้อมด้วยสีลูกจากแห้งให้สีมีความเข้มมากกว่า ผลการติดสีของผ้าไหมที่ย้อมด้วยสีลูกจากแห้งจะมีค่าความเข้ม(k/s) 0.238 ผ้าไหมที่ย้อมด้วยสีลูกจากสดมีค่าความเข้ม(k/s) 0.133 ผลการวัดจะเห็นได้ว่าค่า b* มีค่าเป็นบวกและมีค่าสูงแสดงว่าสีที่ย้อมได้ออกไปทางสีเหลือง-น้ำตาล ผลวิเคราะห์ค่าความเข้มของสีย้อม ด้วยวิธี Duncan ลูกจากแห้งกับสด ทั้งสองชนิดแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เลือกใช้น้ำสีลูกจากแห้งในการย้อมผ้าไหมด้วยสารช่วยย้อม คือ น้ำขี้เถ้า น้ำปูนใส และน้ำสนิมเหล็ก ที่สาร 1% 2% 3% และ 4% ต่อปริมาณน้ำสกัดสี ผลของการใช้สารช่วยย้อมน้ำขี้เถ้า พบว่าสามารถวิเคราะห์/เปรียบเทียบแบบคู่ได้เฉพาะใน ค่า a* เพราะค่า P-Value = 0.002<0.05 และพบว่าที่ 4% ของน้ำขี้เถ้าแตกต่างจากกลุ่มอื่นอย่างมีนัยสำคัญ การใช้สารช่วยย้อมน้ำปูนใสพบว่าค่าความเข้ม (k/s) ค่า P-Value = 0.686 >0.05 ไม่มีความแตกต่างกัน แต่พบว่าที่ 1%,4% ของสารช่วยย้อมน้ำปูนใส แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ การใช้สารช่วยย้อมน้ำสนิมเหล็กค่าความเข้ม(k/s) ไม่มีความแตกต่างกัน ผลการทดสอบความคงทนของสีต่อแสงแดดเทียม พบว่าการใส่สารช่วยย้อมน้ำสนิมเหล็กและน้ำขี้เถ้าทำให้ความคงทนต่อแสงเพิ่มขึ้น การย้อมโดยใช้สารช่วยย้อม น้ำปูนใส 1%, 2%, 3%และ 4% และน้ำขี้เถ้า 1% จะอยู่ในระดับที่ 2 อยู่ในเกณฑ์ต่ำ ผลการทดสอบความคงทนของสีต่อการซัก พบว่าความคงทนต่อการซักอยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมาก คำสำคัญ : ลูกจาก สีย้อมธรรมชาติ ผ้าไหม
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. พันธ์ยศ วรเชฐวราวัตร์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ70
2ผศ. พรโพยม วรเชฐวราวัตร์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย30