บ้านต้นแบบจากอิฐบล็อกประสานผสมเถ้าไม้ยางพารา

็House built with interlocking blocks containing para-wood ash

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2566
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2565
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2566
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 พฤศจิกายน 2565
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการหาอัตราส่วนที่มีความเหมาะสมของการผสมเถ้าไม้ยางพาราในมวลรวมของอิฐบล็อกประสาน โดยเลือกอัตราส่วนที่มีความเหมาะสมสูงสุดมาทดลองสร้างผนังของบ้านต้นแบบจากอิฐบล็อกประสานผสมเถ้าไม้ยางพารา โดยมีอัตราส่วนของปูนซีเมนต์ต่อมวลรวม 1:4 1:5 1:6 1:7 และ 1:8 โดยน้ำหนัก ซึ่งในมวลรวมจะผสมระหว่างดินลูกรังกับเถ้าหนักไม้ยางพารา 100:0 90:10 80:20 70:30 60:40 และ 50:50 โดยน้ำหนักของมวลรวม ขึ้นรูปโดยเครื่องอัดแบบอุตสาหกรรมขนาดย่อม นำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน 602/2547 ซึ่งกำหนดความต้านแรงอัดของอิฐบล็อกประสานชนิดไม่รับน้ำหนักต้องไม่น้อยกว่า 25 kg/cm2 ส่วนชนิดรับน้ำหนักต้องมีความต้านแรงอัดไม่น้อยกว่า 70 kg/cm2 และค่าการดูดกลืนน้ำไม่เกิน 288 kg/m3 พบว่า ทุกอัตราส่วนผ่านเกณฑ์ชนิดไม่รับน้ำหนัก ขณะที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานชนิดรับน้ำหนักเพียง 11 อัตราส่วน คือ อัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อมวลรวม 1:4 มวลรวมสามารถผสมเถ้าหนักไม้ยางพาราร้อยละ 0 10 20 30 40 และ 50 อัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อมวลรวม 1:5 มวลรวมสามารถผสมเถ้าหนักไม้ยางพาราร้อยละ 0 10 20 และ 30 และอัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อมวลรวม 1:6 มวลรวมสามารถผสมเถ้าหนักไม้ยางพาราร้อยละ 0 ดังนั้นอัตราส่วนปูนซีเมนต์ต่อมวลรวม 1:8 มวลรวมผสมเถ้าหนักไม้ยางพาราร้อยละ 50 จึงเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสมสูงสุดในการเลือกมาทดลองสร้างผนังของบ้านต้นแบบ ซึ่งสามารถต้านทานความร้อนจากภายนอกได้สูงสุดถึง 2.0 องศาเซลเซียส มีราคาถูกว่าท้องตลาดร้อยละ 60.00 ไม่เกิดเชื้อราบนก้อนตัวอย่าง ไม่มีกลิ่นของเถ้าไม้ยางพารา อิฐบล็อกประสานผสมเถ้าไม้ยางพาราสามารถก่อขึ้นรูปเป็นผนังบ้านพักอาศัยได้และใช้งานได้จริง จึงเป็นวัสดุก่อสร้างทางเลือกใหม่ที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนสูง สามารถเปลี่ยนของเสียจากอุตสาหกรรมเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
รายละเอียดการนำไปใช้งาน ด้านนโยบาย โดยใคร บริษัท พาเนล พลัส จำกัด อย่างไร ส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนนำเถ้าไม้ยางพารามาประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม นำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายของบริษัท เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชน เพื่อหาวิธีการลดปริมาณเถ้าไม้ยางพารา และหาวิธีการนำเถ้าไม้ยางพารามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาจเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกอื่นๆ ที่ส่งเสริมให้ชุมชนสามารถผลิตขึ้นใช้เองหรือเกิดการขายในเชิงพาณิชย์ และตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ด้านสังคม โดยใคร บริษัท พาเนล พลัส จำกัด และชุมชน อย่างไร การนำเถ้าไม้ยางพารากลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือทิ้งจากโรงงาน และยังเป็นการลดปริมาณขยะอุตสาหกรรม ที่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชนใกล้เคียงโรงงาน ซึ่งเป็นการลดฝุ่นละอองในอากาศ ลดของเสียจากการชะล้างที่จะซึมลงผิวดินและแม่น้ำลำคลอง แต่ในทางกลับกันกลับส่งผลให้โรงงานกับคนในชุมชนเกิดความเกื้อกูลพึ่งพาอาศัยกัน เนื่องจากชุมชนต้องการเถ้าไม้ยางพาราและโรงงานก็ต้องการนำเถ้าไม้ยางพาราออกสู่ภายนอกแบบไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจ โดยใคร ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอิฐบล็อกประสาน ตั้งแต่ ผู้ผลิต ผู้ซื้อ และผู้ติดตั้ง อย่างไร เมื่อมีการใช้ประโยชน์เถ้าไม้ยางพารา มาอัดขึ้นรูปเป็นบล็อกประสาน และมีการก่อสร้างบ้านจากอิฐบล็อกเถ้าไม้ยางพาราขึ้นจริง ทำให้เป็นการเพิ่มช่องทางการประกอบอาชีพให้กับครัวเรือน ชุมชน และผู้ที่สนใจทั่วไป เกิดรายได้จากการผลิตและติดตั้งอิฐบล็อกประสานในงานก่อสร้างจริง ด้านวิชาการ โดยใคร นักวิจัย อย่างไร เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกกระบวนจากการผลิตอิฐบล็อกประสาน เริ่มตั้งแต่กระบวนการเตรียมวัสดุ การหาอัตราส่วนการผสม ดินลูกรัง เถ้าไม้ยางพารา และปูนซีเมนต์ รวมไปถึงกระบวนการอัดขึ้นรูปอิฐบล็อกประสานผสมเถ้าไม้ยางพารา ที่มีค่าสมบัติทางกลผ่านตามมาตรฐาน มีน้ำหนักที่เบาและมีต้นทุนการผลิตที่เหมาะสม
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1เปรมณัช ชุมพร้อมคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ50
2พรนรายณ์ บุญราศรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย25
3รศ. จรูญ เจริญเนตรกุลคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย25