การพัฒนาวัสดุเชิงประกอบเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์จากพลาสติกชีวภาพและขี้เลื่อยไม้ยางพาราสำหรับการผลิตของเล่นเด็กที่สามารถย่อยสลายได้

Development of Composites between Thermoplastic Elastomer from Bioplastic and Rubberwood Sawdust for Manufacturing the Biodegradable Childrens Toys

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2566
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2565
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2566
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 พฤศจิกายน 2565
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ

วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบของปริมาณส่วนผสม เช่น ยางธรรมชาติ พลาสติกชีวภาพ และขี้เลื่อยไม้ยางพาราต่อสมบัติทางกลและทางกายภาพของวัสดุเชิงประกอบ และหาปริมาณส่วนผสมที่เหมาะสมสำหรับใช้ผลิตของเล่นเด็ก ซึ่งจากการดำเนินงานวิจัยพบว่า การเติมพลาสติกชีวภาพเป็นส่วนผสมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้วัสดุเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์      มีค่าความแข็งแรงดัด ค่ามอดูลัสการดัด ค่าความแข็งแรงดึง ค่าความแข็งแรงอัด และค่าความแข็งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตามปริมาณพลาสติกชีวภาพที่เติมเป็นส่วนผสม เช่นเดียวกัน วัสดุเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์ที่มีส่วนผสมพลาสติกชีวภาพเกรด 2003D และเกรด 4043D ให้ค่าความแข็งแรงดัด ค่ามอดูลัสการดัด ค่าความแข็งแรงดึง ค่าความแข็งแรงอัด และค่าความแข็งที่สูงใกล้  เคียงกัน และวัสดุเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์ที่มีส่วนผสมพลาสติกชีวภาพเกรด 3251D ให้สมบัติทางกลทุกสมบัติต่ำที่สุด นอกจากนี้ พบด้วยว่า การเติมขี้เลื่อยไม้ยางพาราเป็นส่วนผสมในวัสดุเชิงประกอบเทอร์โมพลาสติกอีลาสโทเมอร์มากขึ้น ส่งผลให้ค่ามอดูลัสการดัด ค่ามอดูลัสการดึง ค่าความแข็ง และค่าเปอร์เซ็นต์การดูดซับน้ำเพิ่มขึ้น ทว่าความแข็งแรงดัดและความแข็งแรงดึงมีค่าสูงสุด   เมื่อเติมขี้เลื่อยไม้ยางพาราเป็นส่วนผสม 30 wt% สำหรับวัสดุเทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์ที่มีส่วนผสมของยางพารา 30% และพลาสติกชีวภาพ 70% ในขณะเดียวกัน พบด้วยว่า วัสดุเชิงประกอบเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์และขี้เลื่อยไม้ในสูตรที่ผลิตมาจากอัตราส่วนระหว่างยางพารา 30% และพลาสติกชีวภาพ 70% มีค่าความแข็งแรงดัด ค่ามอดูลัสการดัด ค่าความแข็งแรงดึง ค่ามอดูลัสการดึง และค่าความแข็งสูงกว่าในสูตรที่ผลิตมาจากอัตราส่วนระหว่างยางพารา 40% และพลาสติกชีวภาพ 60% ดังนั้น หากพิจารณาสมบัติต่าง ๆ สามารถสรุปได้ว่า วัสดุเชิงประกอบเทอร์โมพลาสติกอีลาสโตเมอร์และขี้เลื่อยไม้ยางพาราในสูตรที่มีส่วนผสมขี้เลื่อยไม้ยางพารา 30 wt% และผลิตมาจากเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์ในอัตราส่วนระหว่างยางพารา 30% และพลาสติกชีวภาพเกรด 2003D 70% มีความเหมาะสมในการนำไปใช้ผลิตเป็นของเล่นเด็ก โดยมีต้นทุนประมาณการของเม็ดวัสดุเชิงประกอบเทอร์โมพลาสติกอิลาสโตเมอร์และขี้เลื่อยไม้ คือ 142.56 บาท/กิโลกรัม

รายละเอียดการนำไปใช้งาน

ยังไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์

เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ชาตรี หอมเขียวคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ60
2ธีระวัฒน์ เพชรดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20
3ชัยณรงค์ ศรีวะบุตรคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20

บทความวารสาร

ที่ ชื่อบทความ วารสาร/หนังสือ ที่ตีพิมพ์ ระดับบทความ ฐานข้อมูลที่ตีพิมพ์ วันที่ตีพิมพ์
1Possibility of Using Bio‑based Polymer Blends for Producing Children's Toys: Effects of Polylactic Acid (PLA) Grades and ContentsFibers and PolymersระดับนานาชาติISI, Scopus10 มีนาคม 2568