โครงการวิจัย

ประเมินห่วงโซ่คุณค่า ผลลัพธ์และผลกระทบของชุดโครงการ ยกระดับพริกไทยพันธุ์ปะเหลียนด้วยห่วงโซ่ คุณค่าใหม่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของ ผู้ประกอบการในพื้นที่สู่ตลาดการแข่งขัน

-

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 16 พฤษภาคม 2565
ประเภททุนวิจัย ทุน บพท.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ คือ (1) เพื่อประเมินห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์พริกไทยพันธุ์ปะเหลียน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (2) เพื่อวิเคราะห์และประเมินผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมของชุด โครงการวิจัยและ (3) เพื่อสังเคราะห์และจัดการองค์ความรู้ชุดโครงการวิจัยโดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าคือคือ 1) เกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยพันธุ์ปะเหลียน 2) ผู้รวบรวมผลผลิต 3) พ่อค้า คนกลาง และ4) นักขาย/นักการตลาด/คู่ค้า ผลจากการดำเนินงานวิจัยโดยโครงการวิจัยดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ดังนี้ 1) สามารถขับเคลื่อน Local enterprise จำนวน 16 กลุ่ม/ราย 2) ชุดโครงการวิจัยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับผู้ประกอบการร้อยละ 41.89 3) ผลตอบแทนการลงทุนทางเศรษฐกิจ (ROI) ของชุดโครงการวิจัย มีค่าเท่ากับ 71.18 และ 4) ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (SROI) ของชุดโครงการ มีค่าเท่ากับ 4.08 โดยเกิดผลกระทบทาง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนี้ มิติด้านเศรษฐกิจ ส่งผลผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมีมูลค่าเป็น 2,677,325 บาท จากประเด็นดังนี้1) รายได้ของผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่าจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พริกไทย เป็นวิทยากรของเกษตรกรต้นแบบ จำหน่ายต้นพันธุ์พริกไทย วางระบบแปลงปลูกพริกไทย จำหน่ายปุ๋ยคอก จำหน่ายดินถุง ลดต้นทุนการผลิต จากการปรับเปลี่ยนธาตุอาหาร เป็นเงินจำนวน 3,898,205 บาท 2) ลดต้นทุนในการผลิตจากการปรับเปลี่ยน ธาตุอาหาร 20,200 บาท 3) การจ้างงานในพื้นที่ในส่วนของการจ้างงานเก็บพริกไทยสด จ้างผลิตและบรรจุปุ๋ย คอก ผลิตดินจำหน่ายแบบถุง การเพาะชำต้นพันธุ์ เป็นลูกจ้างวางระบบแปลงปลูกพริกไทย และค่าจงแรงงาน ทำเสาค้าง จำนวน 26 ราย เป็นเงินจำนวน 107,325 บาท และ 4) ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ของภาคีเครือข่าย เป็นเงินจำนวน 1,102,000 บาท มิติด้านสังคม จากการดำเนินงานวิจัยส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงมิติทางสังคม มีมูลค่าเป็น 1,433,275.48 บาท และส่งผลในอื่นๆ ของสังคมดังนี้ 1) เกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจในโครงการมีการประชุมอย่างน้อย 1 เดือนครั้ง ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมกัน แก้ไขปัญหาระหว่างกลุ่มวิสาหกิจภายในกลุ่ม และสนับสนุนองค์ความรู้โดยการจัดอบรมจากนักวิจัยและ หน่วยงานของรัฐ ให้ความรู้ต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงวิธีการปลูกพริกไทย การแก้ปัญหาเรื่องโรคพืช เป็นต้น เป็นจำนวนเงิน 62,558.93 บาท 2) มีสุขภาพดีขึ้น ลดต้นทุนในการดูแลสุขภาพ เป็นจำนวนเงิน 597,709 บาท 3) เกิดความภาคภูมิใจในการสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและอนุรักษ์พืชประจำถิ่น 4) เกิดความเชื่อมั่นในการ ปลูกพริกไทย เหมือนมีพี่เลี้ยงในการปลูกพริกไทย เกษตรกรรู้สึกว่ามีที่พึ่ง มีผู้นำทาง 5) มีการรวมกลุ่มกันเพื่อ สร้างอาชีพเสริมที่อยู่บนฐานทรัพยากรในพื้นที่และ6) ชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่เกิดการ เคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ และมิติด้านสิ่งแวดล้อม จากผลการวิจัยสามารถคำนวณมูลค่าผลประโยชน์ ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นเงิน 70,289.71 บาท จากการส่งเสริมแปลงต้นแบบโดยการทำเกษตรแบบปลอดภัย และ ส่งผลให้ลดค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงดิน ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ทำให้เกิดผลดีกับสิ่งแวดล้อมในชุมชนทำให้เกิดผลดี กับสิ่งแวดล้อมในชุมชน และส่งผลให้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเท่ากับ 10.63%
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1อนันตนิจ ชุมศรีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ30
2ผศ. มาลินี ฉินนานนท์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
3นิภาพร ช่วยธานีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย20
4ชยนรรจ์ ขาวปลอดวิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยว ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
5รศ.ดร. ชุตินุช สุจริตคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย5
6อารีรัตน์ ว่องก๊กคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
7ผศ. ประภาศรี ศรีชัยคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย5