การจัดการนิเวศธุรกิจชุมชนของอาหารทะเลเพื่อยกระดับมูลค่าเศรษกิจในจังหวัดตรัง

-

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2564
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2563
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2564
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 กุมภาพันธ์ 2564
ประเภททุนวิจัย อื่นๆ
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ การจัดการระบบนิเวศธุรกิจชุมชนของอาหารทะเลเพื่อยกระดับมูลค่าเศรษฐกิจในจังหวัด ตรัง เพื่อเป็นการขับเคลื่อนกระบวนการจัดการห่วงโซ่คุณค่าของผลผลิตสัตว์น้ำ สำหรับยกเศรษฐกิจฐาน รากของชาวประมงชายฝั่งในจังหวัดตรัง เพื่อสนับสนุนกลไกการบริหารจัดการให้เกิดความต่อเนื่อง เน้น การขยายกระบวนการจัดการวัตถุดิบขั้นต้นให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการ สร้างผู้ประกอบการที่จะเป็นผู้กระจายผลผลิตอาหารทะเลที่ได้มาตรฐาน เพื่อพัฒนาสินค้าสู่ตลาดภายใน และภายนอก รวมถึงพัฒนาระบบตลาดออนไลน์ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้โดยตรงผ่านระบบเทคโนโลยี สมัยใหม่ และสร้างคุณค่าที่เพิ่มมูลค่าของอาหารทะเล ช่วยสร้างความเชื่อมั่นของแหล่งวัตถุดิบอาหาร ทะเลที่มีคุณภาพ การศึกษากำหนดกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้กับชาวประมง ชายฝั่ง จำนวน 200 ราย ผู้ประกอบการรวบรวมผลผลิตสัตว์น้ำ จำนวน 10 ราย และผู้ประการธุรกิจแปร รูปและจำหน่ายอาหารทะเล จำนวน 3 ผู้ประกอบการ ดำเนินการการวิเคราะห์ห่วงโซ่คุณค่าของระบบ นิเวศทางธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัดตรัง พัฒนากระบวนการจัดการวัตถุดิบสัตว์น้ำ การเก็บรักษา การ แปรรูปวัตถุดิบสัตว์น้ำขั้นต้น การเก็บถนอมรักษา การบรรจุภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการ ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีไปเพิ่มขีดความสามารถใหม่ พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารทะเลใน จังหวัดตรัง วิเคราะห์มูลค่าการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในระบบนิเวศทางธุรกิจอาหารทะเล ผลการศึกษาพบว่าระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ของภาคการประมง โดยเฉพาะการประมงจากทะเลซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์ทรัพยากรสัตว์น้ำที่เป็นทรัพยากรในกลุ่มสาธารณ สมบัติ (Common Property) ภาคการผลิตจากการประมงทางทะเลซึ่งถูกจัดเป็นการประมงแบบเสรี (Open Access Fishery) ซึ่งจะมีองค์ประกอบในระบบนิเวศทางธุรกิจ มีความหลากหลาย ทั้งในส่วน ผู้ผลิต ส่วนแปรรูป ส่วนจัดการ ส่วนให้บริการ รวมถึงส่วนสนับสนุน ช่วยเหลือและควบคุม โดยแบ่งกลุ่ม ของระบบนิเวศตามการจัดประเภทของ Moore (1996) ได้แก่ 1.)หน่วยธุรกิจหลักของระบบนิเวศทาง ธุรกิจอาหารทะเล (Core Business) 2.หน่วยธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กับหน่วยธุรกิจหลัก (Related Business) 3.)หน่วยธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากหน่วยธุรกิจหลัก (Extended Business) และ 4.)หน่วยที่ ทำหน้าที่เสริมโอกาส (Agency Support Business Ecosystem) ภาพห่วงโซ่คุณค่า (Network Value Chain) ของระบบนิเวศทางธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัดตรัง ในกระบวนการต้นน้ำเป็นชาวประมงชายฝั่ง กลุ่มกลางน้ำเป็นผู้รวบรวมและผู้จำหน่ายขั้นต้นในพื้นที่ และ กลุ่มปลายน้ำเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทะเล พบว่ารูปแบบการจัดการห่วงโซ่คุณค่าของระบบนิเวศ ทางธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัดตรัง กลุ่ม Core Business พบว่าส่วนต้นน้ำชาวประมงชายฝั่งส่วนใหญ่จะ จำหน่ายผลผลิตสัตว์น้ำให้กับผู้รวบรวมสัตว์น้ำในชุมชน ร้อยละ 90.00 มีชาวประมงชายฝั่งเพียงร้อยละ 10.00 ที่จำหน่ายให้ผู้บริโภคในพื้นที่ กระบวนการกลางน้ำ คือผู้รวบรวมสัตว์น้ำในชุมชน หรือ - 6 - ผู้ประกอบการรับซื้อสัตว์น้ำ พบว่าส่วนใหญ่ผู้รวบรวมสัตว์น้ำในชุมชน จำหน่ายผลผลิตสัตว์น้ำให้กับผู้ จำหน่ายอาหารทะเลในจังหวัด ร้อยละ 30.00 รองลงมาจำหน่ายให้กับผู้จำหน่ายอาหารทะเลต่างจังหวัด ร้อยละ 28.00, จำหน่ายตรงให้กับผู้บริโภค ร้อยละ 18.00, จำหน่ายให้กับร้านอาหารทะเลในจังหวัด ร้อย ละ 12.00 และมีเพียงส่วนน้อยที่จำหน่ายให้กับโรงงานแปรรูปหรือส่งออกไปตลาดต่างประเทศ มีเพียง ร้อยละ 2.00 การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐศาสตร์ของหน่วยธุรกิจในระบบนิเวศห่วงโซ่คุณค่า อาหารทะเลหลังดำเนินโครงการวิจัย พบว่าในการประกอบธุรกิจอาหารทะเล ประเภทปูม้าพบว่าหน่วย ธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่ามีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 21.98 บาท/กก. ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 5.37 ส่วนการประกอบธุรกิจอาหารทะเล ประเภทกุ้งแชบ๊วย พบว่าหน่วยธุรกิจใน ห่วงโซ่คุณค่ามีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 78.36 บาท/กก. ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มขึ้นจาก เดิมร้อยละ 11.49 ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารทะเล ในชนิดสัตว์น้ำปูม้า ซึ่งประกอบด้วย ข้าวเกรียบมันปู และกระเพาะปลาเนื้อปู พบว่าการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมในโครงการวิจัย เพื่อ เพิ่มมูลค่าผลผลิตของธุรกิจชุมชนอาหารทะเล จังหวัดตรัง ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์ ฟาสฟอสฟู๊ดส์ (ผลผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบมันปู) มีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น จากเดิม 7.9 บาท/ถุง และอัตรา ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มขึ้นจากเดิม 51.01 เป็น 18.12 ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจ ร้านอาหารจีนดำ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเพาะปลาเนื้อปูมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 8.48 บาท/ ถ้วย และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มขึ้นจากเดิม 5.38 ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าหาก ผู้ประกอบการธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารทะเลมีการปรับตัวและยอมรับการใช้เทคโนโลยีใน กระบวนการวิจัยจะส่งผลให้ระดับรายได้สุทธิเพิ่มขึ้น และมีผลต่อเศรษฐกิจหมุนเวียนในจังหวัดตรังที่ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้พบว่าการเพิ่มมูลค่าระบบห่วงโซ่ให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนของธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัด ตรัง ได้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่า เท่ากับ 22.24 ซึ่ง หมายถึงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับหน่วยธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจอาหารทะเล โดยเฉพาะที่ เกี่ยวข้องกับชุมชนประมงชายฝั่ง ซึ่งการพัฒนาศักยภาพการจัดการผลผลิตสัตว์น้ำ การแปรรูปขั้นต้น การ จัดการตลาดแบบใหม่ ช่วยให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นได้จริง อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการทรัพยากรประมงที่เป็นผลผลิตจากธรรมชาติ มีข้อจำกัดในการควบคุม ปริมาณผลผลิตที่มีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันการเผชิญกับปัญหาความเสื่อมโทรม และการแย่งชิงทรัพยากรที่มีน้อยลง หน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ควรมีการศึกษาวิจัยเพื่อวางแผนการ ใช้ประโยชน์ที่เป็นธรรมและยั่งยืน รวมถึงการแสวงหาทางเลือกวิธีการลงทุนในการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำจาก อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงขนาดใหญ่ เพื่อทดแทนการจับจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1อภิรักษ์ สงรักษ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ100